
ปัญหาเรื่อง การบริหารเงิน ไม่ว่าจะเป็น เงินเดือน ไม่พอใช้ เป็นเรื่องที่มนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่มักจะเจอ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นปัญหาใหญ่ แต่ยังมีปัญหาที่ใหญ่กว่านั้น กำลังรอเราอยู่ อาทิเช่น
ผ่านต้นเดือนไม่ทันไร เงินเดือนก็หมดเกลี้ยงซะแล้ว
เราลองมาดูเรื่องราวตัวอย่างของหนุ่มสาววัยทำงาน ในที่ทำงานแห่งหนึ่ง
ทานตะวัน และ เป้ง เป็นเพื่อนร่วมงานกัน ทำงานตำแหน่งเดียวกัน เงินเดือนเท่ากัน ทั้งสองคนจะมีจุดเริ่มต้นในการทำงานเท่ากัน แต่ปลายทางกลับมีผลลัพธ์ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ทานตะวัน “ผู้หญิงอย่างเราต้องดูดีเสมอ”
พอเงินเดือนออก ส่วนมากก็จะหมดไปกับการสั่งซื้อของ Online ของสวยๆ งามๆ เช่น เสื้อผ้า เครื่องสำอางค์ ที่เธอชอบ ยังไม่รวมไปถึงปาร์ตี้ และสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนสนิทของเธอทุกๆ สิ้นเดือน
หนูคิดว่า “ถ้าเราทำงานหนัก หาเงินมาได้ เราก็ต้องใช้สิคะ เพื่อความสุขและเพื่อของที่เราต้องได้”
เป้ง “ต่อไปเราจะต้องเป็นหัวหน้าครอบครัว เราจำเป็นต้องสร้างความมั่นคง”
นอกจากนี้ มนุษย์เงินเดือนอย่างเราเมื่อทำงานมาตลอดชีวิตวัยทำงานแล้ว หลังเกษียณก็อยากมีชีวิตที่สบายๆ ได้พักผ่อนตามต้องการ จริงไหม?
ด้วยความที่ เป้ง เป็นคนที่มองกาลไกล เขาต้องการมั่นใจว่าเงินที่ได้จากการลงทุนเพียงพอต่อการใช้จ่ายในยามเกษียณ พอเงินเดือนออก เขาจึงแบ่งเงินออกเป็นสามส่วน
ส่วนแรกเอาคือ เอาไว้สำหรับค่าใช้จ่ายประจำ และ เผื่อเอาไว้เล็กน้อยสำหรับเอาไว้ใช้ยามฉุกเฉิน
ส่วนที่สอง คือ แบ่งไปลงทุนตามเป้าหมายให้สำเร็จตามฝัน สำหรับเขาคือ สำหรับการแต่งงาน และ การซื้อบ้าน
ส่วนที่สาม คือ สำหรับเป้าหมายระยะยาว เป็นการลงทุนเอาไว้ใช้ในยามเกษียณ
ผมคิดว่า “อะไรก็ไม่แน่นอนในยุคนี้ การวางแผนการเงินจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก ถ้าเราไม่มีเป้าหมายทางการเงิน เราก็คงไปไม่ถึงเป้าหมายอื่นๆ ในการดำเนินชีวิตอย่างแน่นอน”
ด้วยวิถีชีวิตที่แตกต่างกันของน้องทั้งสองคน ส่งผลทำให้ชีวิตในบั้นปลายแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ชีวิตหลังเกษียณของทานตะวัน มีเงินไม่พอใช้ในยามเกษียณ อาจจะต้องกลายเป็นภาระของลูกหลานในอนาคต ซึ่งแตกต่างจาก เป้ง เขามีเงินเหลือเกินพอที่จะใช้ และ อยู่ได้อย่างสบายในยามเกษียณอายุ โดยไม่ต้องหวังพึ่งใครๆ แล้วพวกเราอยากเป็นแบบไหน?
“เราอาจจะอยากมีความสุขกับการได้ใช้เงินที่เราหามาอย่างเต็มที่”
แต่ถ้าเราทำแบบนี้ เราอาจจะมีความสุขในแค่ปัจจุบัน แต่เราอาจจะไม่เหลืออนาคตต่อไปก็ได้ นี่คือ Comfort Zone ทางการเงิน คือ ปัญหาของมนุษย์เงินเดือน
เพราะ เรามีความเชื่อว่าเงินเดือนเป็นของตาย เงินเดือนต้องมา และต้องเข้าทุกสิ้นเดือนอยู่แล้ว เลยทำให้พวกเราใช้จ่ายกันอย่างเต็มที่ ใช้จนเกินตัว ทำให้หลายๆ คนเกิดอาการชักหน้าไม่ถึงหลัง เอาเงินอนาคตมาใช้จากการใช้บัตรเครดิต หรือ การผ่อนชำระแบบ 0% และนี่ คือ จุดเริ่มต้นของหายะนะทางการเงินของมนุษย์เงินเดือน
ทำให้เราไม่มีเป้าหมายทางด้านการเงิน ไม่บริหารจัดการเงิน ทำให้เป็นหนี้เป็นสิน ไม่มีเงินสำรองเอาไว้ใช้ยามฉุกเฉิน และ ไม่มีเงินเตรียมเอาไว้ในยามเกษียณ
เพราะชีวิตการเงินสามารถวางแผนได้ เริ่มต้น การบริหารเงิน ในแบบฉบับของมนุษย์เงินเดือนพันธุ์ใหม่กันได้
กับ SEC Retirement Checkup โปรแกรม วางแผน คำนวณเป้าหมายเงินเก็บหลังเกษียณ จาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต)
เพียงใช้เวลาแค่ 8-10 นาที เราก็จะรู้ทันทีว่าหากเรามี Lifestyle การใช้เงินแบบในปัจจุบัน ชีวิตหลังเกษียณของเราจะเป็นอย่างไร?
- เริ่มต้นง่ายๆ โดยการกรอกข้อมูลพื้นฐานอาทิเช่น เพศ ชายหรือหญิง อายุของเราปัจจุบัน และ อายุที่เราต้องเกษียณ เช่น เพศชาย อายุปัจจุบัน 30 ปี และ อายุที่ต้องการเกษียณ คือ 60 ปี
- เลือกไลฟ์สไตล์ ค่าใช้จ่ายที่ต้องการใช้ ในยามเกษียณ (มูลค่า ณ ปัจจุบัน) ในโปรแกรมเขามีให้เลือก ตั้งแต่ อยู่แบบพอเพียง 10,000 บาท หรือ อยู่แบบสบาย 50,000 บาท หรือ อยู่แบบหรูหรา 80,000 บาท แต่เราก็สามารถกำหนดเองได้ เช่น เราอาจจะกำหนดเอาไว้ 15,000 บาท ต่อเดือน
- แผนการใช้เงินก้อนที่คาดว่าจะใช้หลังเกษียณ ของเรามีอะไรบ้าง เช่น ชำระหนี้ ซื้อรถหรือบ้าน ให้ลูกหลาน ท่องเที่ยว หรือ ค่ารักษาพยาบาล เราสามารถกรอกตัวเลขประมาณการเข้าไปได้ เช่น คาดว่ามีแต่ค่ารักษาพยาบาล 500,000 บาท
- ข้อมูลการเงินในปัจจุบัน เงินเดือน และ เงินออม เช่น ตอนนี้มีเงินเดือน 30,000 บาท และ ออมอยู่ประมาณ 10% (ไม่รวมที่ถูกหักส่งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ) นั่นก็คือ 3,000 บาท
- ข้อมูลสินทรัพย์ที่มีในปัจจุบัน เงินฝากและตลาดเงิน ตราสารหนี้และกองทุนรวมตราสารหนี้ หุ้นและกองทุนรวมหุ้น กองทุนผสม กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ประกันสะสมทรัพย์ และ อื่นๆ (บาท) เช่น ทองคำ ในกรณีนี้ เช่น เรามี เงินฝากและตลาดเงินอยู่ 50,000 บาท มีหุ้นและกองทุนรวมหุ้นอยู่ 50,000 บาท มีกองทุนผสมอยู่ 50,000 บาท และ มีประกันสะสมทรัพย์อยู่ 100,000 บาท
- ข้อมูลของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่มีในปัจจุบัน แผนการลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ทั้งหมดในปัจจุบันของเรา อัตราร้อยละที่สมาชิกสะสม และ อัตราร้อยละที่นายจ้างสมทบ กรณีตัวอย่างนี้ คือ เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ทั้งหมดในปัจจุบันของเรา 50,000 บาท เราเลือกหัก 5% นายจ้างก็สบทบ 5% เช่นกัน และ เราเป็นสมาชิกกองทุนประกันสังคมมา 6 ปี
ผลลัพธ์ที่ได้ จากSEC Retirement Checkup ก็คือ ตามภาพประกอบด้านล่าง

ปรากฏว่า โจทย์และแผนการของเรา ทำให้เรามีเงินไม่พอใช้หลังเกษียณ
ใน SEC Retirement Checkup ยังมีคำแนะนำให้เราอีกด้วยว่าเราต้องปรับแผนการใช้จ่าย การออมและการลงทุนของเราอย่างไร? ให้ตอบโจทย์กับอนาคตในแบบที่เราอยากได้
ดังตัวอย่างในกรณีนี้ หากเราแค่ปรับเปลี่ยนแผน การลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยเลือกลงทุนในตราสารหนี้ 100% เราก็บรรลุเป้าหมายแผนเกษียณตามที่ตั้งเอาไว้ได้เเล้ว หรือ เปลี่ยนเป็น เลือกลงทุนในตราสารทุน 100% เราก็จะมีเงินเหลือเกินเป้าหมายแผนเกษียณไปในทันที รับประกันได้ว่าไม่ต้องกลุ้มใจ หรือ ต้องมาวิตกกังวลหลังเกษียณอย่างแน่นอน
ลองไปตรวจเช็คอนาคตทางการเงินของเราได้ที่นี่ https://retirement-checkup.com/

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับ การเงินและการลงทุน สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ :
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ตัวช่วยที่สำคัญในการบรรลุเป้าหมายมีเงินใช้ในยามเกษียณ