คุณประสิทธิ์ เกียรติวัชรวิทย์ หรือ คุณโก้ ก็เป็นอีกคนนึงเช่นกันที่มีความฝันตั้งแต่วัยเด็กว่าอยากเป็นเจ้าของร้านแว่นตา แต่ชีวิตก็ไม่ได้ง่าย คุณโก้ต้องผ่านด่านสำคัญในชีวิตมากมาย อาชีพก่อนหน้าที่ทำก็เป็น นักเล่นเกมมืออาชีพ แต่จนในที่สุดก็ได้มาทำร้านแว่นตาจนได้ อะไรคือจุดเปลี่ยน? และ ทำไมถึงต้องเป็นธุรกิจร้านแว่นตา? ติดตามเรื่องราวชีวิตชัดชัด จาก คุณโก้ ประสิทธิ์ เกียรติวัชรวิทย์ ได้ในตอนนี้เลยครับ
หากลองนึกย้อนไปในตอนที่เรายังเป็นเด็ก หนึ่งการบ้านที่คุณครูมักสั่งให้เราทำตลอดไม่ว่าจะอนุบาล ประถม หรือมัธยม ก็คือการบอกเล่าเกี่ยวกับอาชีพในฝันของเรา อาจจะให้นำเสนอเป็นการวาดรูป การเขียนเรียงความ หรือการเล่าเรื่องหน้าชั้นเรียน แน่นอนว่าความฝันเด็กส่วนใหญ่ก็อาจจะเป็นคุณหมอ ตำรวจ พยาบาล นักการเมือง วิศวกร นักวาดรูป หรือถ้าสมัยนี้นิยมกันก็นักแข่งเกมหรือนักแคสเกม เป็นต้น
อาชีพที่ดูเฉพาะทางอย่างเจ้าของร้านแว่นตา ดูเป็นไปได้ยากมากเลยใช่ไหม หากคุณไปถามเด็กประถมหรือมัธยมดู แต่กับคุณโก้ เจ้าของร้านแว่นตา Prism : Optical lab เขามีร้านแว่นตาเป็นหนึ่งในความฝันมาตั้งแต่เด็ก และเด็กชายคนนั้นก็ได้มีร้านแว่นตาที่ประสบความสำเร็จในวันนี้แล้วด้วย
จุดเริ่มต้นร้านแว่นตา
หากย้อนไปยังจุดเริ่มต้น ก่อนที่จะหันมาหยิบจับธุรกิจร้านแว่นตา ตัวคุณโก้เองได้ลองทำมาหลายอย่างในหลากหลายบทบาท หนึ่งบทบาทที่หากใครได้ฟังเสียงหรือเห็นรูปก็ต้องจำได้อย่างแน่นอนคือการเป็นนักกีฬาและโค้ชอีสปอร์ต แถมถ้าฟังเสียงแล้วรู้สึกคุ้นหูอย่างประหลาดก็ไม่ต้องสงสัยเพราะคุณโก้เองเคยเป็นนักพากย์ด้วยเช่นกัน
“นับเป็น 1 ในความสนใจตั้งแต่เด็ก”
อาชีพและบทบาทที่ผ่านมาของคุณโก้สามารถพูดได้ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องหรือใกล้เคียงกับธุรกิจร้านแว่นตาเลยสักนิด แต่เด็กชายคนนั้นที่มีความฝันอยากเปิดร้านแว่นตาตั้งแต่เด็กก็ยังคงอยู่ในตัวคุณโก้เสมอมา หลังจากสั่งสมประสบการณ์มาจนพร้อม คุณโก้จึงได้ตัดสินใจสานต่อความฝันวัยเด็กด้วยการเปิดร้านแว่นตา Prism : Optical lab อาจดูเหมือนประสบการณ์ที่เก็บเกี่ยวมาระหว่างทางจะไม่ได้เกี่ยวกับธุรกิจร้านแว่นตาเสียเท่าไร แต่จริงๆแล้วประสบการณ์เกี่ยวกับร้านแว่นตาคุณโก้มีมาตั้งแต่เด็กแล้วโดยเริ่มเรียนรู้จากร้านของคุณพ่อคุณแม่ที่เปิดมาตั้งแต่คุณโก้และคุณกี้ น้องสาวของคุณโก้ยังไม่เกิดเสียอีก
“แว่นตามันเปลี่ยนไลฟ์สไตล์คนได้ ทำให้คนที่ทำสิ่งหนึ่งไม่ได้ กลายเป็นทำได้”
อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้คุณโก้สนใจในธุรกิจร้านแว่นตาก็คือความผิดปกติเกี่ยวกับตาข้าวขวา หรือเรียกว่า ตาขี้เกียจ อาการของมันก็คือต่อให้ใส่แว่นก็ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน เพราะไม่ได้รับการรักษาหรือแก้ไขมาตั้งแต่เด็ก ตัวคุณโก้เองก็ไม่รู้มาก่อนว่าเป็น ไม่รู้อีกด้วยว่าสามารถแก้ไขได้ ในวันที่รู้ตัวกลับเป็นวันที่สายเกินกว่าจะรักษาให้หายได้แล้ว สถานการณ์นี้จึงทำให้คุณโก้คิดว่าถ้าคนอื่นต้องเจอกับโรคนี้อีก ก็อยากจะเป็นคนช่วยให้เขารู้ตัวได้ทันในตอนที่ยังสามารถรักษาให้หายได้ เพราะการมองเห็นมันเปลี่ยนไลฟ์สไตล์คนได้เลย อย่างคุณโก้เองก็ไม่สามารถเล่นกีฬาประเภทที่ต้องกะระยะทางได้ เพราะใช้สายตาข้างซ้ายได้ข้างเดียว แม้จะชอบเล่นกีฬาก็ไม่สามารถเล่นได้ ดังนั้นจึงไม่อยากเห็นคนอื่นต้องพบเจอสถานการณ์หรือความรู้สึกแบบนี้อีก
“สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้อยากทำร้านแว่น แต่อยากทำให้มาตรฐานร้านแว่นเป็นแบบไหนมากกว่า”
จริงแล้วๆในท้องตลาดและสถานที่ทั่วไปก็มีร้านแว่นมากมาย ขึ้นชื่อว่าร้านแว่นแล้วมันไม่ได้มีแบบเดียวแน่นอน ร้านแว่นตาค่อนข้างเป็นคำที่กว้างมาก เมื่อพูดถึงร้านแว่นตาแต่ละคนไม่ได้เห็นเป็นภาพเดียวกัน สำหรับคุณโก้แล้ว ถ้าเกิดมีร้านแว่นที่สามารถแบ่งเบาภาระบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลได้ ทำให้คนที่ไม่รู้ตัวหรือรู้ตัวแต่ไม่รู้จะทำอย่างไรเมื่อตนเองต้องประสบกับปัญหาทางสายตามีที่พึ่งพาเพิ่มเติมนอกจากโรงพยาบาลและคลินิก
“ร้านแว่นควรเป็นด่านแรก”
คุณโก้อธิบายว่าจริงๆแล้วร้านแว่นควรเป็นด่านแรก เพราะปัญหาเรื่องสายตาส่วนใหญ่แก้ไขได้ด้วยอุปกรณ์ก่อนที่จะผ่าตัดหรือรักษาด้วยวิธีอื่น ร้านแว่นหลายที่อาจจะไม่ได้พร้อมที่จะตรวจหรือรักษา ดังนั้นคุณโก้จึงคิดว่าถ้ามีร้านแว่นที่สามารถทำได้ขนาดนั้นมันก็จะเป็นเรื่องที่ดี บวกกับคุณกี้เรียนจบทัศนมาตรศาสตร์มา ทำให้ทั้งคุณโก้และคุณกี้มีความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจเกี่ยวกับสายตาแบบเฉพาะทางมาก
ความยากเมื่อทำธุรกิจเหมือนที่บ้านแต่สไตล์แตกต่างกัน
ร้านแว่นตาที่คุณพ่อและคุณแม่ของคุณโก้ทำเป็นร้านแว่นที่เน้นขายแว่นกันแดดสายแฟชั่นให้กับชาวต่างชาติ จะเป็นการแต่งร้านให้หรูเพื่อเรียกลูกค้า ซื้อมาขายไปแล้วจบ แต่ร้าน Prism : Optical lab จะให้ความสำคัญในเรื่องของสุขภาพสายตาและการมองเห็น ซึ่งฉีกจากโจทย์เก่าพอสมควร เพราะแค่การพูดคุยระหว่างคุยกับชาวต่างชาติกับคุยกับคนไทยก็แตกต่างกันแล้ว
“การที่ลูกค้ามีความสุขก็เหมือนได้รับการยอมรับจากลูกค้า”
ถ้าจะบอกว่าได้เรียนรู้กระบวนการต่างๆจากร้านที่บ้านก็คงต้องบอกว่าไม่ใช่ทั้งหมด เพราะการขายสินค้าที่เน้นในเรื่องของสุขภาพให้กับคนไทยเป็นเรื่องของการติดตามผลซึ่งแตกต่างจากชาวต่างชาติที่ซื้อแล้วจบ การซื้อขายต้องครอบคลุม และรวดเร็ว แต่การติดตามผลการซื้อขายกับลูกค้าคนไทยจะมีระยะเวลาเพื่อหาสิ่งที่ตอบโจทย์และแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้อย่างเหมาะสมที่สุด นอกจากนี้การแยกออกมาทำเองคุณโก้ไม่ได้มองเป็นความยาก แต่มองเป็นความท้าทาย ยิ่งถ้าทำได้แล้วลูกค้ามีความสุขก็เป็นเหมือนการได้รับการยอมรับจากลูกค้า
ความประทับใจ
คุณโก้เล่าว่าเคยมีลูกค้าต่างชาติที่ติดใจการให้บริการจนบินกลับมาใช้บริการใหม่หลายครั้ง บางครั้งก็พาครอบครัวกลับมาตัดแว่นด้วย ยกตัวอย่างเช่น เคยมีลูกค้าจากอังกฤษที่อายุค่อนข้างเยอะแล้ว เขามีปัญหากับแว่นที่ตัวเองใส่มาเที่ยวที่ไทย หลังจากมาตัดแว่นที่ Prism : Optical lab แล้วก็ประทับใจมา กลับไปชวนภรรยาและลูกมาตัดที่ร้านด้วย กลายเป็นว่าทั้งครอบครัวของเขากลายเป็นลูกค้าที่บ้านหมดเลย
“อยากให้ลูกค้าทุกคนมีแว่นตัวที่ตอบโจทย์ที่สุดไป”
ลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้ามาใช้บริการจะพูดในเรื่องเดียวกันก็คือการบริการที่ร้านดีมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณโก้ต้องการนำมาใช้แข่งขันในตลาดธุรกิจสายตาตรงนี้ เพราะการเลือกวิธีการให้บริการเป็นเรื่องสำคัญมาก โดยทางร้านจะมีบุคลากรที่เป็นมืออาชีพ ตรวจได้ละเอียดเหมือนกับเวลาที่คุณเดินทางไปรักษากับคุณหมอตามคลินิกแต่บุคลากรทุกคนเข้าถึงง่าย พูดคุยง่าย ให้บริการเหมือนเพื่อนช่วยแนะนำมากกว่าการไปหาหมอ โดยทางคุณโก้เล่าว่ามีความตั้งใจจะเลือกคนที่มีอุปนิสัยเป็นมิตร ซึ่งบุคลากรทุกคนเข้าใจตรงกันและพยายามผลักดันความตั้งใจตรงนี้ไปให้ถึงลูกค้า ผลก็คือได้รับคำชมจากลูกค้าจำนวนมากและกลับมาเป็นแรงใจในการทำงานให้กับผู้ให้บริการเช่นเดียวกัน
อุปสรรคระหว่างทาง
คุณโก้เล่าว่าอุปสรรคมาตั้งแต่เริ่มต้นเลยเพราะว่าเป็นการลองของใหม่ ร้านแว่นในปัจจุบันก็มีไม่น้อย แล้วการเป็นร้านแว่นในห้างถือเป็นโจทย์ที่ไม่ง่ายเลย มีคู่แข่งที่มาก่อน ดังกว่า ทุนหนากว่า ทำให้ต้องคิดเยอะมากว่าทำอย่างไรให้สามารถอยู่ตรงจุดนี้ได้
“ร้านไม่ใช่แค่ทำได้เท่าเขา แต่ต้องต่างจากเขาด้วย”
ถ้าทำได้เท่าเขา สุดท้ายเขาก็จะมีอย่างอื่นที่ทำให้ลูกค้าอยากจะไว้ใจเขาและเลือกเขามากกว่าอยู่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการเปิดมาก่อน แต่เราไม่สามารถเอาชนะใครด้วยเวลาได้อยู่แล้ว สิ่งที่เราใช้เอาชนะได้คือความแตกต่างด้านอื่นที่ต้องดึงดูดสายตาและความสนใจของลูกค้ากลุ่มอื่นๆ ความจริงคือลูกค้าของร้าน Prism : Optical lab ปัจจุบันไม่ใช่กลุ่มที่ตั้งเป้าไว้ในตอนแรกเลย เพราะตอนแรกคิดว่าจะเป็นคนที่มีอายุหน่อย แต่ปรากฏว่าลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเด็ก วัยรุ่น หรือคนอายุน้อยเข้ามาใช้บริการทั้งนั้นเลย
“ช่วยคิดแต่ไม่คิดแทน”
การให้บริการลูกค้าของทางร้านจะโฟกัสเรื่องอาการทางสุขภาพพอสมควร แต่ด้วยสมัยนี้ แว่นตานับเป็นหนึ่งในสิ่งของที่มีส่วนในการเสริมเติมแต่งให้เราดูดีขึ้น แฟชั่นและความชอบส่วนตัวจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก ซึ่งทางร้านเองก็ได้ผสมผสานทั้ง 2 สิ่งเข้าด้วยกันได้ พยายามหยิบยื่นสิ่งที่ดีและตัดตัวเลือกที่ไม่ดีออกให้ เสนอในสิ่งที่เป็นไปได้ แต่สุดท้ายแล้วจะปล่อยให้การตัดสินใจเป็นของลูกค้า ช่วยคิดให้ง่ายแต่ไม่คิดแทนเขา
เป้าหมายที่วางไว้
คุณโก้อธิบายว่าการที่ร้านอยู่ได้ด้วยตัวเองถือว่าทำผลงานได้ดีแล้ว ถ้ามองเป้าหมายระยะสั้นตอนนี้ตอบโจทย์และสามารถวางรากฐานไว้สำหรับเป้าหมายระยะยาวได้แล้วโดยเป้าหมายระยะยาวคืออยากให้ธุรกิจโตไปเรื่อยๆ ผลักดันให้ร้านไปถึงขั้นที่มีบริการและตัวเลือกอื่นๆให้ลูกค้าได้เลือกเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นอีก เพราะสาขาที่อยู่ในห้างตอนนี้เน้นความสะดวก แต่ถ้าย้ายไปอยู่ที่อื่นอาจมีการปรับตัวให้ร้านเหมาะสมกับที่นั้นๆ
ทำไมเลือกใช้ Essilor
Essilor เป็นบริษัทผลิตเลนส์อันดับหนึ่งของโลกตอนนี้ มาตรฐานของเขาชัดเจน ลูกค้าจึงให้ความไว้ใจโดยไม่กังขาเลยเมื่อเป็นผลิตภัณฑ์จาก Essilor รวมถึงงานหลังบ้านที่มีการร่วมมือกันไปได้ดีทั้งในระบบสต็อคหรือการจัดส่ง พอการทำงานของเราไม่มีปัญหาก็สามารถส่งต่อให้ลูกค้าได้อย่างไร้ปัญหาเช่นกัน
ฝากถึงลูกเพจมนุษย์เงินเดือนพันธุ์ใหม่
ในเวลาหนึ่งของทุกคนเราได้เรียนรู้โจทย์มากมายในชีวิตอยู่แล้ว เราไม่ได้เริ่มทำแล้วประสบความสำเร็จเลย กว่าที่คุณโก้จะทำธุรกิจอย่างทุกวันนี้ก็ต้องผ่านการใช้เวลาตัดสินใจ รวบรวมเงินทุน และการศึกษาเยอะเหมือนกัน กว่าจะกล้าก้าวออกมาทำธุรกิจแล้วประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ความเสี่ยงเป็นเรื่องน่ากลัว แต่มุมมองของมนุษย์เงินเดือนหลายคนอาจจะอยากมีอะไรที่เรียกได้ว่าเป็นของตัวเราเองจริงๆ อาจจะเป็นความฝันเลยก็ว่าได้ ถ้าเกิดเราใจเย็น สะสมทั้งข้อมูล เงินทุนในการทำงานจากหลายที่ และประสบการณ์ไม่ว่าจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับสิ่งที่อยากทำทุกอย่างจะกลายเป็นวัตถุดิบชั้นดีที่จะสอนให้คุณเป็นเจ้าของกิจการหรือนักธุรกิจที่ดีในอนาคตได้
“จงเป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีจิตใจใจการใฝ่รู้มากๆ เป็นอะไรที่จะช่วยเราได้มากในอนาคตแน่นอน”
Prism : Optical Lab
ที่อยู่: ห้องที่ 341/3-341/6 ชั้น 3 ห้างเซ็นทรัล ลาดพร้าว โทร. 02 937 2283
ชีวิตชัดชัด ทุกคนมีความฝัน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มีความพร้อม l Vision Mission
บทความแนะนำ:
แพทย์หญิงมัทยา ขวัญอโนชา – หากทำในสิ่งที่รัก ก็จะส่งมอบความสุขให้คนอื่นได้ดี