Close Menu
The Practical

    Subscribe to Updates

    Get the latest creative news from FooBar about art, design and business.

    What's Hot

    ประกันสุขภาพจำเป็นหรือไม่? และส่งผลดีต่อคนทำงานในยุคนี้อย่างไร?

    พฤษภาคม 19, 2025

    ประกันสุขภาพของบริษัทใช้ร่วมกับประกันสังคมแต่ยังต้องจ่ายเพิ่มหรือเปล่า?

    พฤษภาคม 19, 2025

    Flashcards สมัยใหม่ ทำให้คุณใช้คำศัพท์ภาษาอังกฤษเป็นทันทีได้อย่างไร?

    กุมภาพันธ์ 7, 2025
    Facebook YouTube Spotify Pinterest
    Facebook YouTube Spotify
    The Practical
    Login
    • Home
    • Work
    • Life
      • Finance and Investment
      • Guarantee
      • Labor Law
      • Real Estate
    • Balance
      • Book Reviews
      • Movie Reviews
      • Product Reviews
    • Sustainability
      • DJSI
      • SDGs
    • People Stories
      • Happy Growth
      • Others
      • Transformative Learning
      • UNMASK STORY
      • Vision Mission
    • InMind
    • Podcast
    The Practical
    • Home
    • Work
    • Life
    • Balance
    • Sustainability
    • People Stories
    • InMind
    • Podcast
    Home»People Stories»เรียนรู้จากธรรมชาติ เพราะในธรรมชาติมีคำตอบ และปัญญาหลายอย่างซ่อนอยู่
    People Stories

    เรียนรู้จากธรรมชาติ เพราะในธรรมชาติมีคำตอบ และปัญญาหลายอย่างซ่อนอยู่

    willskillBy willskillเมษายน 5, 2021ไม่มีความเห็น2 Mins Read
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr WhatsApp VKontakte Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email

    เรียนรู้จากธรรมชาติ ให้ธรรมชาติเป็นครู เพราะว่าถ้าเราอยากจะอยู่รอดในวิกฤติ เราต้องทำความเข้าใจและเห็นความสำคัญของธรรมชาติ เพราะในธรรมชาติมีคำตอบมากมาย และ มีปัญญาหลายอย่างซ่อนอยู่ และกำลังรอเราไปค้นหา

    ในบทความนี้เราจะมาพูดคุยและทำความเข้าใจกันมากขึ้น ในเรื่องของความสำคัญที่ว่า เรียนรู้จากธรรมชาติ เป็นอย่างไร? จากมุมมองของ ดร. สรณรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์

    นักถ่ายทอดจากธรรมชาติ

    ดร. สรณรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์ บอกว่าเธอเป็นคนเมืองรุ่นสุดท้ายที่ได้ใช้ชีวิตอย่างใกล้ชิดกับธรรมชาติ นั่นจึงเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เธอสนใจศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการทำงานด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกับมูลนิธิโลกสีเขียวมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2538 ในปัจจุบันเธอทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการมูลนิธิโลกสีเขียว เป็นนักวิจัยด้านสิ่งแวดล้อม นอกจากนั้นยังทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนกิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติอีกหลายโครงการ อาทิ โครงการนักสืบสิ่งแวดล้อม จักรยานกลางเมือง หรือพลเมืองเปลี่ยนกรุง

    ดร. สรณรัชฎ์ มีมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับชีวิตและธรรมชาติจากความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมมาตลอดชีวิตของเธอ และการชี้ให้สังคมมองเห็นถึงความงามและความเชื่อมโยงที่แท้จริงของธรรมชาติกับมนุษย์นั้นคือหนึ่งในงานที่เธอพยายามทำมาโดยตลอด

    ผสานกายและใจไปกับธรรมชาติ

    ทั้งแนวคิดการเรียนรู้แบบองค์รวม (Holistic Learning) และการเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง (Tranformative Learning) ล้วนแต่เป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นการเรียนรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพของมนุษย์ เรื่องราวการเรียนรู้ ความสนใจ และเนื้องานที่ ดร.สรณรัชฎ์ ทำมาตลอดชีวิตยืนยันว่าเธอคือนักเรียนรู้ที่ผสมผสานแนวคิดการเรียนรู้ทั้งสองรูปแบบไว้ในตนเองอย่างกลมกลืน และสิ่งที่เธอสนใจจนอาจถือว่าเป็นครูที่ได้มอบ ‘ความเข้าใจ’ ต่างๆ ให้มากที่สุดก็คือ ธรรมชาติ นั่นเอง

    “เราเน้นการเรียนรู้จากธรรมชาติ ให้ธรรมชาติเป็นครู เพราะว่าถ้าเราอยากจะอยู่รอดในวิกฤติสิ่งแวดล้อม เราต้องทำความเข้าใจและเห็นความสำคัญของธรรมชาติ น้อมรับธรรมชาติรอบตัวเข้ามาช่วยชีวิตของเรา เพราะในธรรมชาติมีคำตอบมากมาย ปัญญาหลายอย่างซ่อนอยู่ในธรรมชาติรอบตัวเรา ถ้าเราไม่เรียนรู้จากธรรมชาติเราก็จะไม่มีทางออก เพราะว่าปัญญาดั้งเดิมที่คนรุ่นก่อนหน้าเราสะสมมามันได้เห็นผลแล้วว่าทำลายโลกไปแค่ไหน  เราใช้วิธีเดิมไม่ได้แล้ว ต้องใช้เรียนรู้ใหม่ๆ” ดร.สรณรัชฎ์ กล่าวถึงการเรียนรู้จากธรรมชาติ เธอยกตัวอย่างด้วยการตั้งคำถามให้เห็นภาพว่าในเรื่องการสร้างบ้านเรือนของคนเราในยุคต่อไปนั้นจำเป็นต้องใช้วิธีระเบิดภูเขาเพื่อทำปูนซีเมนต์หรือไม่ และเธอชี้ให้เห็นว่าบางครั้งเราอาจเรียนรู้เรื่องนี้และหาคำตอบจากเพื่อนร่วมโลกอย่างปะการังและหอยก็เป็นได้

    ดร.สรณรัชฎ์ กล่าวว่า ธรรมชาติมีความลึกซึ้งและสัมพันธ์กับการดำเนินชีวิตของมนุษย์มากกว่าที่หลายคนคิด ระบบการเรียนรู้ของมนุษย์ไม่ได้เกิดจากการคิดวิเคราะห์ภายในสมองเท่านั้น เพราะก่อนที่สมองจะเริ่มวิเคราะห์นั้น ร่างกายของเราได้มีการสังเกตเพื่อรับข้อมูลผ่านระบบประสาทสัมผัสที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติรอบตัวอย่างลึกซึ้ง

    ภายในที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติภายนอก

     “ทำไมเราต้องเรียนรู้จากธรรมชาติ” ดร.สรณรัชฎ์ ตั้งคำถามกับเราว่า “เพราะเราอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ถ้าเราไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นภายในตัวเองว่ามันสัมพันธ์กับข้างนอกเราก็จะมีปัญหาในการดำเนินชีวิตมากมาย”

    ดร.สรณรัชฎ์ บอกว่า วิธีปฏิบัติในการทำความเข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างตัวเรากับธรรมชาติว่ามนุษย์ต้องสร้างความสัมพันธ์กับธรรมชาติ ลดทอนการใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยี เช่น โซเชียลมีเดีย

    “ทุกวันนี้เราอยากรู้อะไรก็เปิด Google ซึ่งมันก็ดีที่เราจะเข้าถึงข้อมูลได้เยอะ แต่การใช้เทคโนโลยีพวกนี้เยอะก็เป็นการกระตุ้นประสาทสัมผัสของเรา แต่เป็นประสาทสัมผัสแค่แบบหยาบๆ ถ้าเราทำตัวช้าลง ปิดจอ ปิดมือถือ เราจะสามารถรับรู้อะไรได้ละเอียดขึ้น ทุกๆ คนจะต้องมีอย่างน้อยชั่วขณะหนึ่งในชีวิตที่รู้สึกเป็นสุขมาก รู้สึกปิติ สุข สงบ เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ

    เราต้องย้อนไปคิดว่าชั่วขณะนั้นมันคือช่วงไหนของชีวิต อาจจะเป็นคืนวันหนึ่งที่ตื่นขึ้นมาแล้วเห็นดวงดาวเต็มท้องฟ้า เพราะช่วงเวลานั้นคือช่วงเวลาที่คลื่นสมองของเราอยู่ในจังหวะที่ช้าลง การที่เรารับรู้อย่างละเอียดขึ้นคือเราสามารถสัมผัสถึงการเชื่อมโยงกับสรรพสิ่งต่างๆ รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นหมา แมว ต้นไม้ ใบหญ้า แสงดาว หรือสิ่งใดต่างๆ ก็ตาม รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับสิ่งเหล่านั้น” ดร.สรณรัชฎ์ กล่าวถึงความเชื่อมโยงระหว่างธรรมชาติกับมนุษย์เรา

    เติบโตแบบธรรมชาติ    

    ในวัยเด็กของ ดร.สรณรัชฎ์ เธอเติบโตมากับธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์จึงทำให้เธอมีความผูกพันกับทุกสรรพสิ่งรอบกาย เมื่อเติบโตขึ้นความสนใจของเธอจึงอยู่ที่ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นด้านหลัก แม้ว่าเธอจะใช้เวลาค้นหาตัวตนตามประสาเด็กด้วยการเข้าเรียนด้านศิลปะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่เมื่อรู้ตัวว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่เธอสนใจอย่างแท้จริง เธอจึงค้นหาทางสายใหม่ด้วยการทดลองสายงานที่หลากหลาย เช่น การเป็นล่ามให้นักข่าว ทำงานโฆษณา แม้กระทั่งตั้งบริษัทของตัวเองขึ้นมา ทั้งหมดนี้กล่าวได้ว่าเป้นกระบวนการเรียนรู้ในการแสวงหาตัวตนที่ชัดเจน ซึ่งไม่มากก็น้อยได้ขัดเกลาให้เธอมีความคิดและทักษะที่แหลมคมมากขึ้น

    หลังจากชัดเจนในตัวเองมากขึ้น เธอเลือกกลับไปศึกษาต่อปริญญาตรีด้านโบราณคดีสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสาขาที่ทำให้เธอค้นพบความสุขจากการเรียนรู้อย่างแท้จริง

    “โบราณคดีกับภูมิศาสตร์นั้นมีความคล้ายคลึงกันแต่ต่างกันที่ช่วงของเวลาโบราณกับเวลาปัจจุบัน ทั้งสองศาสตร์เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ของมนุษย์หรือของสรรพสิ่งในโลกใบนี้ว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างไร ซึ่งเป็นสิ่งที่เราชอบมาก ยิ่งเมื่อได้เรียนลึกลงไปถึงการเชื่อมโยงของภูมิศาสตร์และระบบนิเวศวิทยาต่างๆ ยิ่งทำให้เข้าใจและเห้นคามเชื่อมโยงทั้งหมด ความสนใจที่หลากหลายของเราเริ่มต่อกัน เอาทุกอย่างที่เราสนใจมาร้อยเรียงเชื่อมโยงได้ทำให้เป็นการเรียนที่มีความสุขมาก” ดร.สรณรัชฎ์ ย้อนถึงการเรียนรู้ที่เป็นต้นทางให้เธอสนใจศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา

    “แต่การเรียนด้านโบราณคดีที่ต้องนำมาประยุต์กับนิเวศวิทยาในยุคปัจจุบันยิ่งทำให้เราค้นพบคำตอบที่เอาไปใช้งานได้ พบความรู้ที่มีประโยชน์โดยตรง ก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นไปอีก” ดร.สรณรัชฎ์ เล่าให้ฟังอย่างมีความสุข

    เรียนรู้จากการสำรวจตัวเอง

    ดร.สรณรัชฎ์ ให้ความสำคัญกับการสำรวจตัวเอง และการใช้ชีวิตของเธอนั้นเป็นตัวอย่างที่ดีในการค้นหาตัวตน ค้นหาสิ่งที่ใช่ เธอไม่เพียงคิดเท่านั้นแต่ยังลงมือทดลองปฏิบัติเพื่อค้นหาคำตอบจากสมมติฐานแห่งชีวิตที่เธอตั้งเอาไว้

    “เราให้เวลาในการสำรวจและใช้เวลาในการทดลอง ซึ่งเราคิดว่าไม่แปลกเพราะสำหรับบางคนเขาอาจจะต้องใช้เวลานานหน่อยเพื่อหาตัวเองว่าชอบอะไร เป็นต้นว่าตอนที่เราจบมัธยมที่อังกฤษ แล้วก็เป็นเรื่องปกตินะคะที่เด็กที่นั่นจะไม่ได้เรียนต่อมหาวิทยาลัยในทันที เขาเรียกว่าเป็น Gap Year ซึ่งมันเป็นเรื่องดีที่เราจะได้เปิดโลกกว้างและได้ลองทำหลายๆ อย่าง ต้องไปหลายๆ ที่ เป็นช่วงเวลาที่ทำให้เราได้เห็นอะไรเต็มไปหมด ซึ่งเป็นการเรียนรู้ที่เหมาะสำหรับเด็กบางคนที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร และนี่คือความสำคัญที่เราต้องเปิดพื้นที่กว้างๆ เอาไว้เพื่อการสำรวจตัวเอง” เธอแนะนำจากประสบการณ์ของตนเอง

    จากช่วงเวลาที่ค้นหาตัวเองและค้นพบศาสตร์ที่ตนเองสนใจและหลงใหล ดร.สรณรัชฎ์ ก็ได้ต่อยอดการเรียนในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกด้านนิเวศวิทยา หลังจากนั้นเธอเข้าร่วมกับมูลนิธิโลกสีเขียวเพื่อทำงานขับเคลื่อนประเด็นสิ่งแวดล้อมในประเทศไทยในหลายๆ ระดับ

    “การได้ทำงานในองค์กรสิ่งแวดล้อมเป็นการเรียนรู้ธรรมชาติที่เหมาะกับตัวเราเอง เพราะจากการทำงานทำให้เราเห็นได้ชัดเจนว่าเราทำอะไรไปเพื่ออะไร”

    ดร.สรณรัชฎ์ บอกและเล่าว่าความสนใจในการทำงานอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยเชื่อมโยงมาจากประสบการณ์ในวัยเด็กที่เคยได้สัมผัสกับธรรมชาติแบบใกล้ชิด

    “เราเป็นคนเมืองรุ่นสุดท้ายที่ได้สัมผัสธรรมชาติตรงๆ เช่น ยืนอยู่บนหาดศรีราชาแล้วได้เจอลูกฉลามมาเกยตื้นเราก็ต้องขุดบ่อช่วยชีวิตมัน นั่นคือชีวิตปกติในวัยเด็ก เราจะเข้าถึงความ wild ได้ง่ายๆ เพราะตอนนั้นธรรมชาติยังไม่ได้ถูกมนุษย์ควบคุม แต่ต่อมาด้วยการพัฒนาทำให้สิ่งที่เคยเข้าถึงได้ง่ายกำลังหายไป

    เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่คนรุ่นเดียวกับเราจึงมาทำงานด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพราะเรามีความผูกพันและมีประสบการณ์ที่ดีในวัยเด็กที่เติบโตมากับธรรมชาติ เพราะฉะนั้นการทำงานอนุรักษ์ก็คือการทำงานในเรื่องที่เราแคร์ กับสิ่งที่เรารัก” ดร.สรณรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์ ประธานกรรมการมูลนิธิโลกสีเขียว อธิบายถึงความหลังที่เป็นปัจจัยสำคัญต่อการเรียนรู้ด้วยหัวใจของเธอ

    เรื่องราวอ้างอิงบทสัมภาษณ์ของ ดร. สรณรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์

    จากโครงการ พื้นที่เรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง (Transformative Learning) 

    สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

    บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับ โครงการ พื้นที่เรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง (Transformative Learning) สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ :

    คุณโรสซาลีน่า อเล็กซานเดอร์ แม็คเคย์ การเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ ด้วยวิธีการสอนที่ถูกต้องและถูกจริตกับเขา

    เหมี่ยว – ปิลันธน์ ไทยสรวง เรียนรู้ผ่านการทำงาน กับผู้คนและชุมชน เพื่อดึงศักยภาพที่พวกเขามีอยู่แล้วออกมา

    Transformative Learning
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr WhatsApp Email
    Previous Articleในวันที่เราประสบความสำเร็จ มีเงิน มีชื่อเสียง แต่กลับไม่ได้เจอกับความสุข
    Next Article ความหวัง โอกาส ความพยายาม และมิตรภาพ ท่ามกลางความผิดที่ตนเองไม่ได้ก่อ
    willskill
    • Website

    Related Posts

    วิธีฟื้นตัวทางจิตใจ : ยอมรับความทุกข์ มุ่งเน้นแง่บวก และการประเมินตนเอง

    พฤษภาคม 25, 2024

    เคล็ดลับการสร้างสมาธิ และเพิ่มผลิตภาพในยุคดิจิทัล | Chris Bailey

    พฤษภาคม 23, 2024

    The neurons that shaped civilization – เซลล์ประสาทที่หล่อหลอมอารยธรรม

    พฤศจิกายน 2, 2023

    คุณประสิทธิ์ เกียรติวัชรวิทย์ – ทุกคนมีความฝัน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มีความพร้อม

    กรกฎาคม 17, 2023

    Comments are closed.

    Our Picks

    ตั้งเป้าหมายการเงินให้สำเร็จ – วิธีการและเคล็ดลับจากประสบการณ์จริง

    มิถุนายน 22, 2024

    ลาเพื่อพาพ่อแม่ไปหาหมอ หรือ ลาเพื่อไปดูใจพ่อแม่เป็นครั้งสุดท้าย ใช้ลากิจได้

    สิงหาคม 18, 2023

    แผนการเกษียณ ของคน Gen Z ควรเป็นอย่างไร? และต้องเริ่มต้นอย่างไร?

    มิถุนายน 6, 2023

    7 เหตุผลที่ทำให้คนฉลาดหรือคนที่ทำงานหนักไม่ใช่คนที่ประสบความสำเร็จ

    พฤษภาคม 30, 2023
    • Facebook
    • Pinterest
    • Instagram
    • YouTube
    Don't Miss

    ประกันสุขภาพจำเป็นหรือไม่? และส่งผลดีต่อคนทำงานในยุคนี้อย่างไร?

    By willskillพฤษภาคม 19, 20250

    ประกันสุขภาพ หร…

    ประกันสุขภาพของบริษัทใช้ร่วมกับประกันสังคมแต่ยังต้องจ่ายเพิ่มหรือเปล่า?

    พฤษภาคม 19, 2025

    Flashcards สมัยใหม่ ทำให้คุณใช้คำศัพท์ภาษาอังกฤษเป็นทันทีได้อย่างไร?

    กุมภาพันธ์ 7, 2025

    จำไม่ให้ลืม | ทำไมคนที่พูดได้หลายภาษาจำคำศัพท์แล้วไม่ลืม?

    กุมภาพันธ์ 3, 2025

    Subscribe to Updates

    Get the latest creative news from SmartMag about art & design.

    About Us
    About Us

    Your source for the lifestyle news. This demo is crafted specifically to exhibit the use of the theme as a lifestyle site. Visit our main page for more demos.

    We're accepting new partnerships right now.

    Email Us: admin_thepractical@thepractical.co

    Our Picks

    ตั้งเป้าหมายการเงินให้สำเร็จ – วิธีการและเคล็ดลับจากประสบการณ์จริง

    มิถุนายน 22, 2024

    ลาเพื่อพาพ่อแม่ไปหาหมอ หรือ ลาเพื่อไปดูใจพ่อแม่เป็นครั้งสุดท้าย ใช้ลากิจได้

    สิงหาคม 18, 2023

    แผนการเกษียณ ของคน Gen Z ควรเป็นอย่างไร? และต้องเริ่มต้นอย่างไร?

    มิถุนายน 6, 2023
    New Comments
      Facebook YouTube Spotify Pinterest
      • Home
      • Work
      • Life
      • Balance
      • Sustainability
      • People Stories
      • InMind
      • Podcast
      © 2025 Willskill. Designed by Exaalgia.

      Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

      Sign In or Register

      Welcome Back!

      Login to your account below.

      Lost password?