แอร์อินเวอร์เตอร์ คุ้มค่าจริงหรือเปล่าเมื่อเปรียบเทียบกับแอร์ธรรมดา ตอบโจทย์จริงไหมกับยุคที่ค่าไฟฟ้าแพงมากแบบนี้ เรามาหาคำตอบกันได้กับบทความนี้
ถึงแวลาที่เราต้องเปลี่ยนแอร์ที่บ้านหรือยัง?
บางทีเราเองก็จำไม่ได้ว่าเราซื้อแอร์มาตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือ ล้างแอร์ครั้งสุดท้ายตอนไหน? เพราะเรามักจะใช้งานกันอย่างเต็มที่ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่แอร์เสีย เราจะรู้ทันทีว่าถึงเวลาแล้วที่เราอาจจะต้องเปลี่ยนแอร์ใหม่แล้วเ แต่จะดีกว่าไหม หากเรามีเงื่อนไขที่ดีพอในการตัดสินใจตั้งแต่เนิ่นๆ ว่าเมื่อไหร่ เราควรเปลี่ยน หรือ ไม่ควรเปลี่ยนดี?
นี่คือ รายการตรวจสอบว่าแอร์หรือเครื่องปรับอากาศที่เราใช้อยู่ที่บ้าน ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้วหรือยัง?
- แอร์ของเรามีอายุมากกว่า 10 ปี ใช่หรือไม่?
- เราประสบปัญหาแอร์เสียหรือซ่อมบ่อย ใช่หรือเปล่า?
- แอร์ของเรามีเสียงเริ่มดังเป็นระยะ หรือ มีเสียงแปลกๆ หรือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์หลุดลอดออกมา ใช่หรือไม่?
- ค่าไฟที่บ้านของเราขึ้นสูงมากอย่างต่อเนื่อง โดยที่ระยะเวลาการใช้แอร์ของเราก็เป็นปกติเหมือนที่ผ่านๆ มา ใช่หรือไม่?
- แอร์ของเราเริ่มไม่ค่อยมีความเย็นและความสบายในระดับที่เราต้องการ เช่น กว่าจะเย็นก็ช้ากว่าเมื่อก่อน หรือ ไม่ค่อยเย็นแล้ว ใช่หรือไม่?
หากเราตอบว่าใช่ทั้งหมด มากกว่า 4 ข้อขึ้นไป นั่นแสดงว่าตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่เราต้องพิจารณาเปลี่ยนแอร์ตัวใหม่ แต่ในการเลือกซื้อแอร์ใหม่ ไหนๆ ก็จะเปลี่ยนแล้ว ควรเลือกแอร์ประเภทไหนดี?
แอร์อินเวอร์เตอร์ เย็นสบายและประหยัดเงิน จริงหรือเปล่า?
แอร์ที่ใช้ระบบอินเวอร์เตอร์เป็นอย่างไร? อ้างอิงข้อมูลจากทางไดกิ้น เขาบอกว่า แอร์ที่มีระบบอินเวอร์เตอร์ คือระบบควบคุมการทำงานของคอมเพรสเซอร์ของแอร์ที่จะแปลงไฟกระแสสลับจากแหล่งจ่ายไฟทั่วไปที่มีแรงดันและความถี่คงที่ให้เป็นไฟกระแสตรง โดยวงจรคอนเวอร์เตอร์ (Converter Circuit ) จากนั้นไฟกระแสตรงจะถูกแปลงเป็นไฟกระแสสลับที่สามารถปรับขนาดแรงดันและความถี่ได้โดยวงจรอินเวอร์เตอร์ (Inverter Circuit) โดยการทำงานของแอร์ที่ใช้ระบบอินเวอร์เตอร์ จะแตกต่างจากแอร์ที่เราเคยใช้กันทั่วไป ตรงที่แอร์ที่ใช้ระบบอินเวอร์เตอร์ เมื่อราเริ่มเปิดเครื่อง อุณหภูมิจะค่อยๆ ลดลงถึงระดับที่ตั้งไว้ หลังจากนั้น คอมเพรสเซอร์จะปรับรอบการทำงานลงเพื่อคงอุณหภูมิภายในห้องให้คงที่ตลอดเวลา
ในขณะที่แอร์ทั้วๆ ไปที่ไม่ใช่ระบบอินเวอร์เตอร์ เมื่อเริ่มเปิดเครื่อง อุณหภูมิจะค่อยๆ ลดลงต่ำกว่าระดับที่ตั้งไว้ประมาณ1-2 องศา หลังจากนั้น คอมเพรสเซอร์จะตัดหรือหยุดการทำงาน จากนั้นอุณหภูมิจะค่อยๆสูงขึ้น เกินระดับที่ตั้งไว้ 1-2 องศา คอมเพรสเซอร์ก็จะเริ่มทำงานอีกครั้ง ทำให้อุณหภูมิภายในห้องจะเย็นเกินไป สลับกับร้อนเกินไปอยู่ตลอดเวลา ซึ่งกระบวนการปิดๆ เปิดๆ ของ คอมเพรสเซอร์ของแอร์ทั่วไปนี่แหละ (ซึ่งก็คล้ายๆ กับเราขับรถยนต์ ที่ต้องมาเจอรถติด วิ่งสลับหยุดไปแบบนี้เรื่อยๆ) ทำให้กินไฟสูงมากเพราะคอมเพรสเซอร์ทำงานเต็มที่ เกิดเสียงดังอีกต่างหากอันเนื่องจากการตัดต่อการทำงานของคอมเพรสเซอร์ ทำให้ทำความเย็นได้ช้าและยังควบคุมความเย็นได้ไม่ดีอีกด้วย
นี่จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ แอร์ที่ใช้ระบบอินเวอร์เตอร์ ประหยัดไฟได้มากกว่าแอร์ธรรมดาแบบทั้วๆ ไป แต่ก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงกว่าด้วย
แอร์อินเวอร์เตอร์ ความคุ้มค่า กับราคาที่ต้องจ่ายแพงขึ้น
เรามาลองทำการคำนวณความคุ้มค่ากัน เพื่อแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ทางการเงินของการใช้เครื่องปรับอากาศแบบอินเวอร์เตอร์มากกว่าเครื่องปรับอากาศแบบไม่ใช้อินเวอร์เตอร์ โดยเราจะสมมติว่าบ้านของเรามีเครื่องปรับอากาศสองเครื่องที่มีความสามารถในการทำความเย็นเท่ากัน แต่เครื่องหนึ่งเป็นอินเวอร์เตอร์ และอีกเครื่องหนึ่งเป็นแบบที่ไม่ใช่อินเวอร์เตอร์ เราจะเปรียบเทียบค่าพลังงานต่อปีสำหรับทั้งสองหน่วยโดยอิงจากสมมติฐานว่าจะใช้ 8 ชั่วโมงต่อวัน เป็นระยะเวลา 365 วันต่อปี
แอร์อินเวอร์เตอร์มีความสามารถในการทำความเย็น 12,000 BTU/ชั่วโมง และอัตราการกินไฟที่ 1,200 วัตต์ แอร์ธรรมดาที่ไม่ใช่อินเวอร์เตอร์ยังมีความสามารถในการทำความเย็น 12,000 BTU/ชั่วโมง แต่กินไฟ 1,500 วัตต์
ในการคำนวณต้นทุนพลังงานประจำปี เราจำเป็นต้องกำหนดปริมาณการใช้ไฟฟ้าทั้งหมด (kWh) สำหรับแอร์ทั้งสองแบบ แล้วคูณด้วยต้นทุนต่อ kWh สมมติว่าค่าไฟฟ้าเฉลี่ย 4 บาทต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง ค่าพลังงานต่อปีสำหรับแอร์แต่ละแบบจะคำนวณได้ดังต่อไปนี้
- แอร์อินเวอร์เตอร์: ปริมาณการใช้ไฟฟ้าทั้งหมด = (1,200 วัตต์ x 8 ชั่วโมง/วัน) / 1,000 = 9.6 kWh/วัน ปริมาณการใช้ไฟฟ้าต่อปี = 9.6 kWh/วัน x 365 วัน = 3,504 kWh/ปี ค่าพลังงานต่อปี = 3,504 kWh/ปี x 4 บาท /kWh = 14,016 บาท/ปี
- แอร์ธรรมดา: ปริมาณการใช้ไฟฟ้าทั้งหมด = (1,500 วัตต์ x 8 ชั่วโมง/วัน) / 1,000 = 12 kWh/วัน ปริมาณการใช้ไฟฟ้าต่อปี = 12 kWh/วัน x 365 วัน = 4,380 kWh/ปี ค่าพลังงานต่อปี = 4,380 kWh/ปี x 4 บาท/kWh = 17,520 บาท/ปี
จากการคำนวณ ค่าพลังงานต่อปีสำหรับแอร์อินเวอร์เตอร์คือ 3,504 kWh x 4 บาท/kWh = 14,016 บาท ในขณะที่ค่าพลังงานต่อปีสำหรับแอร์ธรรมดา คือ 4,380 kWh x 4 บาท/kWh = 17,520 บาท ซึ่งหมายความว่าการใช้เครื่องปรับอากาศแบบอินเวอร์เตอร์จะช่วยประหยัดค่าไฟได้ 3,504 บาทต่อปี
อ้างอิงข้อมูลจาก National Renewable Energy Laboratory. “The Cost of Energy Efficiency: Understanding the Lifespan and Maintenance Needs of Your Air Conditioner.” ประจำปี 2023 เขาบอกว่า เครื่องปรับอากาศแบบอินเวอร์เตอร์ยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องปรับอากาศแบบธรรมดาที่ไม่ใช้อินเวอร์เตอร์ เนื่องจากเทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ช่วยให้คอมเพรสเซอร์เริ่มทำงานและหยุดทำงานอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งช่วยลดภาระของคอมเพรสเซอร์และส่วนประกอบอื่นๆ ของเครื่อง ส่งผลให้อินเวอร์เตอร์มีอายุการใช้งานได้ถึง 20 ปีหรือมากกว่านั้นด้วยการบำรุงรักษาที่เหมาะสม ในทางกลับกัน หน่วยที่ไม่ใช่อินเวอร์เตอร์มักมีอายุการใช้งานประมาณ 10-15 ปี
หากเราสมมติว่าแอร์อินเวอร์เตอร์มีอายุการใช้งาน 20 ปี และแอร์แบบธรรมดาที่ไม่ใช้อินเวอร์เตอร์ มีอายุการใช้งาน 15 ปี การประหยัดต้นทุนรวมสำหรับการใช้อินเวอร์เตอร์จะเท่ากับ 3,504 บาท/ปี x 20 ปี = 70,080 บาท ซึ่งนี่เป็นเงินจำนวนมากที่สามารถประหยัดได้โดยการลงทุนในเครื่องปรับอากาศแบบอินเวอร์เตอร์นั่นเอง (ซึ่งจริงๆ แล้วเราใช้แค่ 10 ปี ก็โอเคแล้ว)
อย่างไรก็ตามตัวอย่างการคำนวณข้างต้นเป็นแค่การใช้สมมติฐานเท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ทางการเงินที่เราจะได้รับของการเลือกใช้เครื่องปรับอากาศแบบอินเวอร์เตอร์มากกว่าเครื่องปรับอากาศแบบธรรมดาที่ไม่ใช้อินเวอร์เตอร์ การประหยัดค่าใช้จ่ายจริงๆ จะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ขนาดของแอร์ การติดตั้ง รูปแบบการใช้งาน และอัตราค่าไฟฟ้า เป็นต้น
บทสรุป
เมื่อต้องเลือกระหว่างแอร์แบบอินเวอร์เตอร์และแบบไม่มีอินเวอร์เตอร์ สิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึงประโยชน์ระยะยาวด้วย ถึงแม้ว่าค่าใช้จ่ายในการซื้อแอร์แบบอินเวอร์เตอร์ในครั้งแรกอาจสูงกว่า แต่การประหยัดพลังงานและอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นจะส่งผลให้ต้นทุนลดลงในระยะยาว นอกจากนี้ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการใช้อินเวอร์เตอร์ยังลดลง เนื่องจากช่วยลดการใช้พลังงานและช่วยในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อีกด้วย
โดยสรุปแล้วแอร์แบบอินเวอร์เตอร์ให้ประโยชน์มากมายเหนือเครื่องปรับอากาศแบบธรรมดา อาทิเช่นประหยัดพลังงานมากกว่า ควบคุมอุณหภูมิได้ดีกว่า อายุการใช้งานยาวนานกว่า และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า ด้งนั้นเมื่อถึงเวลาที่เราต้องตัดสินใจเลือกซื้อแอร์ ในสถานการณ์ที่อากาศร้อนขึ้นเรื่อยๆ และ ค่าไฟฟ้าก็เพิ่มขึ้นสูงอีกด้วย แอร์อินเวอร์เตอร์ เย็นสบายและประหยัดเงิน ถือเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปจริงๆ
สนับสนุนโดย ไดกิ้น ผู้เชี่ยวชาญด้านแอร์บ้านและแอร์เชิงพาณิชย์
ที่สุดของความคุ้มแห่งปี!! กับไดกิ้นแจกมหึมา คุ้มค่าเต็ม MAX แคร์เต็ม MAX ขยายการรับประกัน 2 ปีเต็ม ฟรี!!!! ค่าบริการ ค่าตรวจเช็ค ค่าซ่อมแซมและค่าอะไหล่ทุกชิ้นส่วน เมื่อซื้อเครื่องปรับอากาศไดกิ้นรุ่นที่ร่วมรายการ ตั้งแต่1 มีนาคม 2566 – 30 มิถุนายน 2566 อ่านต่อได้ที่ : ไดกิ้นแจกมหึมา คุ้มค่าเต็ม MAX