การเรียนรู้ สำหรับแต่ละคนก็มีได้หลากหมายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับว่าบรรยากาศรอบตัวของแต่ละคน ส่งเสริมความอยากรู้ และ อยากเรียนรู้หรือไม่
“ทุกๆ การเรียนรู้ สร้างการเปลี่ยนแปลงทั้งภายในและภายนอกให้กับเราได้”
ในช่วงชีวิตของคนคนหนึ่งมีปัจจัยหลายต่อหลายอย่างที่เป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดกระบวนการเรียนรู้จนกระทั่งสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงภายในของบุคคลนั้นได้ และเช่นเดียวกันในช่วงชีวิตของแต่ละบุคคลก็ย่อมมีกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลาย มีขั้นตอนในการเรียนรู้เป็นของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ก่อเกิดเป็นการตระหนักรู้เฉพาะตัวในวิถีทางของตนเอง
ป๊อด – ธนชัย อุชชิน ก็เป็นเช่นนั้น ด้วยบทบาทนักร้องนำของวงดนตรีที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานทำให้เขาได้ผ่านประสบการณ์เฉพาะตัวมากมาย และแต่ละขั้นตอนก็ค่อยๆ ทำให้เขาเกิดความรู้สึกบางอย่างที่เข้าไปสั่นสะเทือนภายในจนสร้างความเปลี่ยนแปลงขึ้นทีละเล็กละน้อยโดยที่เขาเองก็แทบไม่ทันรู้ตัว
เรียนรู้สู่ความสนุก
ป๊อด – ธนชัย อุชชิน อดีตนักร้องนำแห่งวง Moderndog เล่าให้เราฟังถึงความรู้สึกในวันที่เขาก้าวเข้าสู่วงการดนตรีครั้งแรกเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วว่า
“สำหรับเด็กอายุ 23 ตอนนั้นก็แน่นอนว่าดีใจ มีความสุข ที่ผลงานสำเร็จ ได้พบกับประสบการณ์แปลกใหม่ในชีวิต เช่น ได้ไปเล่นดนตรีในรายการ 7 สีคอนเสิร์ต ได้ไปออกรายการ Twilight Show กับคุณไตรภพ ลิมปพัทธ์ แม้กระทั่งการได้ยินเพลงของตัวเองในวิทยุครั้งแรก หรือเปิดโทรทัศน์แล้วเจอ MV ที่มีตัวเราเองอยู่ในนั้นด้วย ทั้งหมดนี้มันเป็นเรื่องใหม่ของชีวิตและเป็นประสบการณ์ที่แปลกประหลาดมากเลยครับ”
8 เดือนหลังจากที่พวกเขาได้ออกอัลบั้มชุดแรก (9 สิงหาคม พ.ศ. 2537) ชื่อเสียงที่ถาโถมเข้ามาทำให้ ป๊อด – ธนชัย อุชชิน เกิดความรู้สึกหวาดระแวงต่อความท้าทายในการรักษามาตรฐานและการก้าวผ่านความสำเร็จที่เกิดขึ้นในชีวิตอย่างรวดเร็ว ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะในวัยยี่สิบต้นๆ ในเวลานั้น เขารู้สึกว่าทั้งตัวเขาเองและเพื่อนในวง ก็ยังไม่พร้อมที่จะรับมือกับแรงกดดันที่เกิดขึ้น เขาจึงตัดสินใจเดินทางไปเรียนรู้ด้านดนตรีเพิ่มเติมที่สหรัฐอเมริกา เป็นเวลาเกือบ 2 ปี
“ผมตัดสินใจไปเมืองนอกด้วยความรู้สึกที่หวาดกลัวว่าสิ่งที่เราทำไปในชุดแรกนั้นเราทำไปได้ยังไง หมายถึงว่าเราทำเอาสนุกแล้วมันดันสำเร็จ เราแต่งเพลงด้วยสัญชาตญาณ เราเรียนศิลปะมาเราไม่เคยเขียนเพลงเป็นเรื่องเป็นราว เราก็เลยไม่รู้ว่าเราจะเขียนเพลงแบบนั้นได้อีกไหม เราก็เลยไปเรียนเพื่อที่จะทำความเข้าใจ ไปหาสิ่งใหม่ๆ เติมเข้าตัวเอง เราไม่ได้หนี เราตั้งใจไป ขอไปตั้งหลัก ขอเปิดโลก ขอสำรวจ” ป๊อด – ธนชัย อุชชิน อดีตนักร้องนำวง Moderndog เล่าถึงการออกไปเรียนรู้เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะเข้าสู่เวทีของศิลปินอาชีพอย่างจริงจัง
หลังจากที่ได้ความรู้และประสบการณ์จากการเดินทางและใช้ชีวิตในต่างประเทศ ป๊อด – ธนชัย อุชชิน ก็กลับมาทำเพลงในอัลบั้มที่ 2 ซึ่งในครั้งนี้ วง Moderndog เข้าสู่โหมดเพลงร็อคที่มีสไตล์จัดจ้าน มีเนื้อหาแหวกแนว
ป๊อด – ธนชัย อุชชิน บอกกับเราว่า “มันก็ฉีกล้ำออกไปมากจากตอนทำชุดแรกนะครับในชุดคาเฟ่นั้นมีเพลงรูปไม่หล่อ เพลงติ๋ม ซึ่งเป็นความตั้งใจที่ พยามทำให้ไม่เหมือนชุดแรก คนฟังก็จะงงว่าทำไมมันไม่เหมือน Moderndog ที่ฟังในชุดแรกเลย แต่ก็เป็นความตั้งใจที่เราอยากจะพลิกมัน ทำยังไงไม่ให้เหมือนเพลงตัวเองที่เคยทำ”
อาจกล่าวได้ว่านี่เป็นจังหวะชีวิตของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ที่ไม่ว่าเขาจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม ความสำเร็จของหน้าที่การงานได้พาเขาไปยืนอยู่ในจุดที่สปอตไลท์ฉายส่องขับตัวตนของเขาให้โดดเด่น สร้างภาพลักษณ์ของความเป็นศิลปินขวัญใจวัยรุ่นจนติดอยู่ในจิตใจของคนไทยทั้งประเทศ แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ได้กระตุกให้ ป๊อด – ธนชัย อุชชิน เกิดการตั้งคำถามบางอย่างกับตัวเอง อันเกิดเป็นเชื้อไฟเล็กๆ ขึ้นในใจ ให้เขาเริ่มมองออกไปในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับภาพลักษณ์ของตัวเขาที่คนอื่นเข้าใจ
เรียนรู้สู่ความสงบ
หลังจากที่สร็จสิ้นการทำงานในอัลบั้มชุดที่ 2 ป๊อด – ธนชัย อุชชิน ก็ได้ตัดสินใจที่จะเข้าสู่กระบวนการเรียนรู้อีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นการเรียนรู้ในอีกรูปแบบหนึ่งที่แตกต่างจากกระบวนการเรียนรู้ที่เขาเคยเรียนรู้มา ด้วยการตัดสินใจบวชเรียนเพื่อสำรวจภายในของตนเอง
ป๊อด – ธนชัย อุชชิน เล่าให้เราฟังว่า“ตอนเสร็จชุดแรกผมตั้งเป้าหมายในชีวิตไว้ว่าจะไปเมืองนอก พอไปเมืองนอกกลับมาก็มาทำงานเป็นอัลบั้มชุดที่ 2 พอเสร็จจากชุดที่ 2 ผมจึงคิดว่าคราวนี้เราจะไปเมืองใน นั่นก็คือการเข้าไปสำรวจจิตใจของตัวเอง ผมจึงตัดสินใจบวชเพื่อทำความรู้จักตัวเอง”
“การบวชเรียนครั้งนั้นได้ทำให้เขาพบกับคำตอบหลายอย่างในชีวิต”
ป๊อด – ธนชัย อุชชิน บอกว่า “ผมว่าสิ่งที่สำคัญมากๆ ของการบวชครั้งนั้นคือการที่ผมได้เข้าไปอยู่ในกฎทั้งหมด 227 ข้อ มันหนักมากเลยสำหรับคนคนหนึ่งที่มีความคุกรุ่นและมีอารมณ์ความรู้สึกอ่อนไหวกับสิ่งต่างๆ เพราะมันไม่ใช่วิถีชีวิตเดิมๆ ที่เราเคยอยู่ เราต้องตื่นเช้ามาเดินบนถนนด้วยเท้าเปล่า 4 กิโลเมตรลงจากเขาทุกวันเพื่อบิณฑบาต ไปอยู่ในกระต๊อบที่มีแค่เสื่อกับหมอนใบเล็กๆ ตื่นตี 3 ครึ่งโดยในสมองเต็มไปด้วยความคิดต่างๆ แต่สิ่งเหล่านี้มันทำให้เราเห็นความคิดของเราพุ่งออกมา เหมือนกับเราเป็นเครื่องรับแล้วความคิดในหัวคือคลื่นวิทยุช่องต่างๆ ที่มันแล่นเข้ามาหาเรา ผมว่ามันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผม เพราะมันทำให้เราเห็นตัวเอง เห็นความคิด เห็นอารมณ์ เห็นความคุกกรุ่น เห็นความพอใจความไม่พอใจต่างๆ ของตัวเองที่มันปรากฏขึ้นมา เราเริ่มถอยออกมาเป็นผู้ดู แต่เป็นผู้ดูที่เพิ่งเริ่มฝึกใหม่”
หลังจากการบวช ป๊อด – ธนชัย อุชชิน บอกว่า เขาได้มองเห็นและเข้าใจตัวตนของตัวเองมากขึ้น ทำให้เขาเริ่มละทิ้งตัวตนและอีโก้ที่สะสมมาจากความคิดเดิมออกไป ซึ่งส่งผลต่อเนื่องไปยังวิธีคิดในการทำงานดนตรีหรือขณะเดียวกันมันได้ส่งผลไปถึงวิธีการใช้ชีวิตด้วยเช่นกัน
“เมื่อก่อนเราอาจจะทำงานด้วยพลังแห่งความอยาก ความเอาชนะ ทุกคนล้วนมีแรงขับในการทำงาน บางคนอาจมีแรงขับจากความโกรธ จากคำดูถูกของคนอื่น จนเขาทำผลงานที่สุดยอดออกมาได้ หรือว่าอาจจะเกิดจากพลังที่ไม่เชื่อในสิ่งที่เป็นอยู่และอยากจะพิสูจน์อะไรบางอย่าง สิ่งเหล่านี้เป็นแนวคิดที่เรามีแล้วเราถูกพลังพวกนี้ผลักออกมาเป็นงานศิลปะหรือเป็นเพลงต่างๆ” ป๊อดอธิบายการทำงานในอดีต “จนกระทั่งผมมาทำอัลบั้มชุดที่ 3 ผมคิดว่าการทำงานแบบเดิมที่เคยทำมามันเครียดเกินไป ผมจึงลองทำเพลงแบบประหลาดๆ ที่ฟังไม่รู้เรื่องในชุดที่ 3 จนมีเด็กบางคนมาบอกว่า ผมซื้อเทปพี่มาแล้วฟังไปหน้าเดียวผมเขวี้ยงทิ้งเลย เราก็เลยรู้สึกว่าเออนั่นแหละถูกแล้ว” เขาเล่าพร้อมกับหัวเราะชอบใจ
“ผมมาวิเคราะห์ตัวเองในตอนหลังว่าที่เราทำแบบนั้นเพราะเราอยากลดขนาดตัวเอง แต่ตอนนั้นไม่ได้เข้าใจแบบนี้ เพียงแต่สัญชาตญาณมันบอกว่าให้ทำแบบนั้น แต่พอเราโตมาแล้วเรามาวิเคราะห์ชีวิตถึงได้เข้าใจว่าเราตอนอายุ 28 มันมีความเครียดแบบนี้ก็เลยเลือกที่จะทำแบบนี้เพื่อให้ตัวเองอยู่รอดหรือเบากว่าที่เป็นอยู่”
เรียนรู้เพื่อสื่อสารกับตนเอง
ในความรู้สึกของ ป๊อด – ธนชัย อุชชิน การได้ปล่อยวางอะไรหลายๆ อย่างลง นั่นคือความรู้สึกที่เขาต้องการ การเรียนรู้ในการควบคุมอารมณ์ ควบคุมความรู้สึก ทำให้เขาเข้าใจความจริงที่ว่า สงบดีกว่าสนุก เขาได้ค้นพบว่าที่ผ่านมาเส้นทางด้านดนตรีของเขาเริ่มต้นมาจากความสนุกที่เต็มไปด้วยแรงเหวี่ยงที่พร้อมจะเหวี่ยงให้เขาพุ่งทะยานออกไปไกลกว่าเดิม หรือแม้แต่เหวี่ยงพวกเขาลงไปยังหุบเหวใดๆ ก็ตาม การมองหาความสงบผ่านการฝึกฝนจิตใจเพื่อรับมือกับแรงเหวี่ยงเหล่านั้นจึงต้องอาศัยทักษะอย่างอื่นเข้ามาช่วย รวมถึงการหันหน้าเข้าหาการวาดรูป ซึ่งเป็นทักษะที่เขามีอยู่แต่ดั้งเดิม
“ถ้าเป็นเรื่องของการโต้ตอบกับตัวเองผมยกตัวอย่างให้เห็นชัดๆ เช่น เวลาที่เขียนภาพผมจะเกิดคำถามอยู่ตลอดเวลา เช่น สีอะไรต่อ? เราจะหยิบสีอะไร? สีอะไรดีนะ? นี่ก็คือการได้พูดคุยกับตัวเองแล้ว เราปาดตรงนี้แล้วเราเห็นอารมณ์ตอนที่มันถูกใจ ความถูกใจมันพุ่งขึ้นมาให้เราเห็น หรือว่าเราทำเลอะมันก็ทำให้เราเห็นความตกใจ อันนี้คือกระบวนการเรียนรู้ตัวเองมากกว่าชิ้นงานอีก ชิ้นงานก็คือผลลัพธ์ของการทำความเข้าใจตัวเอง เราก็จะเห็นตัวเองขึ้นลง เห็นอะไรต่างๆ ตลอดกระบวนการเขียนรูปรูปหนึ่ง” เขาอธิบายกระบวนการเรียนรู้ภายในตนเองจากการทำงานศิลปะ
ตราบใดที่ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป ทุกวินาทีที่ผ่านไปจึงต้องเป็นการเรียนรู้อยู่เสมอ แม้ชีวิตในเส้นทางดนตรีของเขาและวง Moderndog จะประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว แต่ปัจจุบันชีวิตของป๊อด – ธนชัย ก็ยังต้องเรียนรู้ต่อไปอย่างไม่มีวันจบ และการเรียนรู้ในอนาคตที่เขาได้เลือกแล้วก็คือการเรียนรู้สู่ความสงบและสบายภายในจิตใจของเขานั่นเอง
ป๊อด – ธนชัย อุชชิน บอกกับเราว่า เขารู้สึกว่าสิ่งที่เขาอยากจะพูดมันก็ค่อนข้างครอบคลุมหมดแล้ว เช่นในอัลบั้มชุดล่าสุดมีอยู่เพลงหนึ่งที่มีเนื้อร้องอยู่แค่ 2 คำ คือ ลอยมา ลอยไป เขารู้สึกว่าเพลงนี้มันตอบเรื่องราวต่างๆ ไปหมดแล้ว
มันเหมือนกับว่า เราไม่ต้องสาธยายด้วยคำพรรณนาอะไรอีกแล้ว เพราะสุดท้ายแล้วชีวิตมันก็ลอยมาลอยไป ซึ่งจริงๆ มันอาจเป็นสัญญาณอันตรายของคนเขียนเพลงก็ได้ เพราะว่าคุณจะเขียนอะไรต่อล่ะ แต่เราทำเพลงก็เพื่อทำความเข้าใจตัวเอง ทุกเพลงที่เขียนไปก็เขียนบอกตัวเอง ไม่บังอาจที่จะไปสอนอะไรใคร
“ทุกเพลงที่เขียนไปก็เพื่อบอกตัวเองเท่านั้นจริงๆ” ป๊อด – ธนชัย ทิ้งท้ายเป็นบทสรุปการเรียนรู้ในชีวิตของเขา
เรื่องราวอ้างอิงบทสัมภาษณ์ของ คุณป๊อด – ธนชัย อุชชิน
จากโครงการ พื้นที่เรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง (Transformative Learning)
สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับ โครงการ พื้นที่เรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง (Transformative Learning) สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ :
คุณอุ๋ย – นที เอกวิจิตร : ความรู้ ไม่ต้องเสียเวลาตามหา เพราะการเรียนรู้สามารถเกิดขึ้นได้รอบตัวเรา