เพราะ การใช้อารมณ์ ชีวิตและหน้าที่การทำงาน ของหลายๆ คน ที่ทำให้หลายคนต้องมาประสบปัญหาถึงทางตันเพียงเพราะขาด ทักษะการควบคุมอารมณ์ และขาดความมีเหตุผล ที่เราเห็นกันได้ จากหลายๆ ตัวอย่าง ในทุกวันนี้ เราแทบจะเห็นปัญหาคนทะเลาะกันบ่อยมากในหน้าข่าวหนังสือพิมพ์หรือตามสื่อต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นเหตุมาจากการขับรถปาดหน้ากันหรือพูดจาไม่ดีต่อกัน หรือกระทบกระทั่งกัน จนบางกรณีลุกลามใหญ่โตจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ปัญหาเหล่านี้ ล้วนมีต้นตอมาจากเรื่อง การควบคุมอารมณ์ทั้งนั้น
ปัญหาในเรื่องของการควบคุมอารมณ์ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และ ได้กับทุกๆ อาชีพ
ยิ่งถ้าเป็นคนดัง เช่น ดารา นักร้อง นักกีฬา หรือ เป็นคนที่ต้องอยู่ในสายตาของสื่อ มักจะมีโอกาสที่น๊อตหลุด หรือ ถูกกระตุ้น ให้มีปัญหาในเรื่องทางอารมณ์ได้ง่าย กว่าคนทั่วไป เยอะมาก
อย่างกรณีล่าสุด นักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทย “สรรวัชญ์ เดชมิตร” ก็ต้องเจอกับปัญหา เนื่องจากขาดการควบคุมอารมณ์ ในในเกมฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2019 นัดที่ 11 คู่ระหว่าง การท่าเรือ เอฟซี กับ ทรู แบงค็อก เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2562
สรรวัชญ์ กองกลางตัวหลักของทีมชาติไทย วัย 29 ปี และ เป็นนักฟุตบอลในสังกัดของทีมทรู แบงค็อก ถูกใบแดง โดนไล่ออกจากสนามในนาทีที่ 90+3 (ช่วงต่อเวลา) เนื่องจากเขาทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม เจตนาเตะบอลออกนอกสนาม และ เข้ามาในสนามหลังจบเกม ทั้งที่ถูกไล่ออกไปแล้ว ที่หนักไปกว่านั้น คือ สรรวัชญ์ ดันไปชกท้องของผู้ตัดสิน ก่อนที่ตนเองจะถูกไล่ออกจากสนาม
ผลที่ตามมาก็คือ สรรวัชญ์ ถูกแบนทั้งสิ้น 8 นัด พร้อมปรับเงิน 120,000 บาท เรียกได้ว่าพลาดจริงๆ เพราะ การใช้อารมณ์
ในกรณีนี้ ผลกระทบคงไม่ได้โดนแค่ สรรวัชญ์ เพียงคนเดียว
สโมสรของเขา ทรู แบงค็อก ต้องมาจ่ายเงินเลี้ยงเขาฟรีๆ แต่ไม่ต้องลงเตะ แต่นั่นคงไม่เท่าไร ที่น่าห่วงกว่านั้นก็คือ ต้องมาขาดกองกลางตัวหลัก ไปถึง 8 นัด ย่อมมีผลต่อคะแนน และอันดับในการแข่งขันแน่นอน
ชีวิตและหน้าที่การทำงาน ได้รับผลกระทบทันที เรื่องการติดทีมชาติ หรือ เรื่องอื่นๆ อาจจะมีผลตามมา เพราะด้วยภาพลักษณ์และปัญหาที่เขาได้ก่อขึ้น อาจจะกระทบกระเทือนถึงอาชีพนักฟุตบอลของเขาในอนาคตได้
หรืออีกกรณีนึง เป็น อดีตนักนักฟุตบอลชื่อดัง “อีริค คันโตน่า” อดีตสตาร์ชื่อดังของสโมสร แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในยุคก่อน
เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 25 มกราคม ปี 1995 ในนัดที่ สโมสร คริสตัล พาเลซ เปิดบ้านเจอกับ แมน ฯ ยูไนเต็ด เกมส์ในวันนั้นมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เป็นจังหวะหัวร้อนของ อีริค คันโตน่า หลังเขาถูก ริชาร์ด ชอว์ นักเตะของทีม คริสตัล พาเลซ ดึงเสื้อ ทำให้เจ้าตัวไม่พอใจ หันกลับไปเตะเอาคืนจนทำให้ผู้ตัดสินแจกต้องใบแดงไล่ อีริค คันโตน่า ออกจากสนามไป
แต่เหตุการณ์ดันบานปลาย ในขณะที่ คันโตน่า กำลังเดินออกจากสนาม ก็มีแฟนบอลของทีม คริสตัล พาเลซ ชื่อว่า แมทธิว ซิมม่อนส์ วิ่งลงมาจากอัฒจันทร์ชั้นบนเพื่อลงมาด่า คันโตน่า ว่า “เจ้าหน้าโง่กลับฝรั่งเศสไปซะ เจ้าชาวฝรั่งเศสหน้าโง่”
หลังจากที่ คันโตน่า ได้ยิน ก็เกิดอาการน๊อตหลุด วิ่งปรี่เข้าไปกระโดถีบ แมทธิว ซิมม่อนส์ และรัวหมัดไปอีกชุดใหญ่ ผลที่ตามมาจากีรกรรมครั้งนั้น ทำให้ อีริค คันโตน่าต้องโดนแบนห้ามลงแข่ง 9 เดือนพร้อมกับต้องไปบำเพ็ญประโยชน์อีก 120 ชั่วโมง และ โดนปรับอีก 10,000 ปอนด์ ส่วนคู่กรณี แมทธิว ซิมม่อนส์ ถูกปรับ 500 ปอนด์ และจำคุก 7 วัน และห้ามเข้าสนามฟุตบอล 1 ปี
มีผลต่อ ชีวิตและหน้าที่การทำงาน เป็นอย่างมาก ชีวิตต้องมาพังด้วยการใช้อารมณ์ เพราะ หลังจากที่ คันโตน่า ต้องโดนแบนเป็นระยะเวลา 9 เดือน ทำให้ผลงานของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แผ่วลง และ ตกลงอย่างเห็นได้ชัด และในฤดูกาลนั้นแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ก็พลาดแชมป์พรีเมียร์ลีกไปในที่สุด
เห็นผลลัพธ์ที่เกิดจากการไม่ควบคุมอารมณ์แล้วใช่ไหมครับ “เสียหายทั้งอาชีพ ภาพลักษณ์ โอกาส และ กระทบถึงผลงานของสโมสร” เรื่องนี้ มันไม่ใช่กระทบแค่คนเพียงแค่คนเดียว แต่มีผลกระทบไปถึงคนรอบตัวและองค์กรที่เราทำงานอยู่ด้วย
จากตัวอย่างทั้งสองเรื่องนี้ ชี้ให้เห็นว่า เมื่อใดก็ตามที่เราต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ เรายิ่งต้องฝึกเรื่องความสามารถในการควบคุมอารมณ์ให้เยอะๆ
เพราะการปลดปล่อยความโกรธ หรือ โมโห ไม่ได้ส่งผลดีกับตัวเรา หรือ กับใครเลย มีแต่ทำให้แย่ลง
ในปัจจุบัน โดยเฉพาะในวงการกีฬา ได้มีการนำทักษะเรื่องความฉลาดทางอารมณ์ หรือ Emotional Intelligence มาเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาทักษะของนักกีฬา และยังรวมไปถึงผลการแข่งขัน
ทักษะเรื่องความฉลาดทางอารมณ์
จะช่วยให้นักกีฬาตระหนักรู้ เข้าใจอารมณ์ของตนเอง และ สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ดียิ่งขึ้น ผลที่ได้ก็คือ นักกีฬาสามารถเล่นภายใต้ความกดดัน หรือ การแข่งขันที่ตึงเครียดได้ดี ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ในทีมก็ดีมากขึ้น และ ปัญหาเรื่องพฤติกรรมแย่ๆ กับเพื่อนร่วมทีม หรือ กับทีมตรงข้าม ก็ลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดเจน
ทีมที่มีทักษะเรื่องความฉลาดทางอารมณ์ จะมีผลงานดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน นอกจากนี้ยังพบอีกว่า นักกีฬาที่ประสบความสำเร็จในระดับท๊อปๆ ของวางการ พบว่าพวกเขามีความสามารถในเรื่องความฉลาดทางอารมณ์ ทั้งสิ้น
ถึงแม้ว่าพวกเราจะไม่ใช่นักกีฬาระดับโลก แต่เราก็คงเห็นแล้วว่า เรื่องอารมณ์ มันน่ากลัว และ หากควบคุมไม่ได้ มันจะเกิดผลเสียกับเรา และกับผู้อื่นอย่างไรบ้าง
เราสามารถเรียนรู้วิธีการควบคุมอารมณ์ หรือ ทักษะเรื่องความฉลาดทางอารมณ์ ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นอายุเท่าไร ก็สามารถเรียนรู้เรื่องเหล่านี้ได้
“เพื่อที่เราจะได้เป็นเจ้านายของอารมณ์” และ ขยับมาใช้เหตุผลมากขึ้น ในการขับเคลื่อนชีวิต
เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องมาจบอนาคตของเรา ต้องมาเสียเงิน เสียเวลา หรือ ตกงาน ด้วยเพราะ การใช้อารมณ์
Source:
http://www.devilmag.com/page/2657
https://www.nationtv.tv/main/content/378712287