ความฝัน กำลังบอกอะไรเราอยู่ - 7 ความหมายของความฝันที่คุณอาจมองข้ามไป

ความฝัน สามารถบอกอะไรเราได้หลายอย่าง ซึ่งมีความหมายมากมายหลายเรื่องที่เราอาจจะเคยมองข้ามมันไป เดี๋ยววันนี้เราจะมาทำความเข้าใจกับเรื่องนี้จากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญด้านความฝันกัน

ปกติแล้วเราจะคิดว่าความฝันของเราจะถูกขับเคลื่อนไปด้วยจินตนาการ สิ่งที่เราสนใจ หรือสิ่งที่เพิ่งได้พบเจอมาระหว่างวัน เรื่องราวความฝันสุดแฟนตาซีที่ไม่มีทางเกิดขึ้นจริงบนโลกไม่ว่าจะเป็นการมีพลังวิเศษ การท่องไปในดินแดนมหัศจรรย์ หรืออะไรก็ตามที่เราสามารถพบเห็นได้ตามหนังหมวดแฟนตาซี

แต่รู้ไหมว่าจริงๆแล้วความฝันของเราบอกอะไรเราได้มากกว่านั้นอีกเยอะเลย ไม่ใช่แค่การเอาความฝันมาตีเลขเพื่อซื้อหวยด้วย มีงานวิจัยที่ทำการศึกษาเกี่ยวกับความฝันมาหลายปี ผลลัพธ์ที่ได้แสดงให้เห็นว่าความฝันของเรานั้นสามารถบอกจุดอ่อนหรืออุปสรรคในการใช้ชีวิตในแต่ละวันของเราได้ด้วย

Suzanne Bergman ผู้เชี่ยวชาญด้านความฝัน เล่าว่าความฝันเป็นภาพที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของอารมณ์และความรู้สึก เป็นสิ่งที่เราแทบจะควบคุมไม่ได้เลย คุณเคยนั่งคิดถึงความฝันหรือวิเคราะห์เกี่ยวกับเรื่องราวที่คุณฝันบ้างไหม ว่ามันกำลังพยายามบอกอะไรกับเรา นี่คือ 7 ความหมายของความฝันที่คุณอาจมองข้ามไป

1. หลงทางหรือติดกับดัก – หากคุณเคยฝันว่าตัวเองกำลังหลงทางหรือติดกับดัก ความฝันแบบนี้กำลังจะบอกคุณว่าคุณไม่รู้ว่าชีวิตของคุณในตอนนี้จะไปทางไหนดี คุณกำลังกังวลเกี่ยวกับการใช้ชีวิตก้าวต่อไป คุณอาจอยู่สถานการณ์ที่ต้องเลือก และสถานการณ์นั้นอาจจะตัดสินอะไรบางอย่างในชีวิตคุณซึ่งสำคัญมาก การฝันว่าหลงทางอยู่ในป่าหรืออยู่ท่ามกลางตึกสูงล้อมรอบ ยิ่งชัดเลยว่าในชีวิตจริงของคุณนั้นกำลังมองหาทางออกของปัญหาในเรื่องชีวิต ความรู้สึก ความสัมพันธ์หรือการเงินอยู่นั่นเอง

2. พลาดโอกาส – หากคุณฝันว่าคุณพลาดรถบัสคันสุดท้าย วิ่งไปโบกรถแท็กซี่ไม่ทัน หรือรถไฟเพิ่งเคลื่อนตัวออกไปต่อหน้าต่อตาคุณตอนที่คุณมาถึงสถานีแล้ว ความฝันที่วนเวียนถึงการพลาดโอกาสเหล่านี้กำลังบ่งบอกว่าในชีวิตจริงของคุณ คุณกำลังนึกย้อนกลับไปเสียใจถึงเรื่องราวต่างๆ ในอดีตที่คุณเลือกที่จะไม่ทำมัน หรือทิ้งโอกาสที่จะได้ทำสิ่งเหล่านั้นไป ถึงแม้คุณจะอยากทำมันมากแค่ไหนก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น เลือกที่จะเรียนคณะที่ครอบครัวชอบ แทนที่จะเรียนคณะที่ตัวเองอยากเรียน หรือปฏิเสธงานในฝันเพราะได้เงินน้อยกว่างานที่ทำอยู่ปัจจุบัน เป็นต้น

3. ปัญหาเกี่ยวกับรถ – ความฝันที่เกี่ยวข้องกับรถ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนขับหรือผู้โดยสารก็ตาม แล้วรถคันนั้นบังเอิญเกิดอุบัติเหตุหรือมีปัญหาอาจจะรถชน ยางแตก รถเสีย หรือขับรถออกนอกเส้นทางไปเสียเอง ความฝันนี้กำลังบอกคุณเกี่ยวกับปัญหาในชีวิตจริงที่คุณกำลังวิตกกังวลอยู่ คุณมีเรื่องที่ต้องจัดการและควบคุมเยอะจนเกินรับไหว หรือคุณกำลังจะประสบกับปัญหาใหญ่ในอนาคตซึ่งสร้างความกังวลให้กับคุณเป็นอย่างมาก

4. สอบตก – ความฝันประเภทนี้จะออกมาในลักษณะที่เกี่ยวกับห้องสอบ คุณอาจจะไปถึงห้องสอบช้า ลืมปากกาเข้าห้องสอบ สอบตก หรือเรียนไม่ทันทำข้อสอบไม่ได้เลยสักข้อ ความฝันพวกนี้มักจะเกิดกับคนที่กำลังเรียนอยู่หรือเรียนจบมาได้ไม่นาน ซึ่งมันหมายถึงคุณกำลังเครียดจากการได้รับบททดสอบในชีวิตจริง ไม่ว่าจะเป็นการประเมินงาน การสอบกลางภาค การสอบสัมภาษณ์เข้าทำงาน หรือการต้องแข่งขันในหน้าที่การงานกับคู่แข่งที่ทำงาน เป็นต้น

5. ถูกไล่ล่า – นี่เป็นความฝันยอดนิยมของคนที่มีความเครียดเลยก็ว่าได้ ความฝันมักเกี่ยวกับการโดนล่าโดยคน สัตว์ หรือตัวอะไรสักอย่างที่คุณเองก็ไม่สามารถระบุได้ ความฝันลักษณะนี้กำลังบอกคุณว่าคุณอยากหนีจากสถานการณ์ที่คุณกำลังเผชิญหน้าอยู่ในชีวิตจริง คุณอาจกำลังเจ็บปวดเครื่องความรัก สูญเสียคนหรือสิ่งของที่รักไป หรืออยากหนีจากความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้คุณรู้สึกแย่ เป็นต้น

6. ฟันผุ – หากคุณเคยฝันว่าตัวเองฟันผุ จับแล้วฟันร่วง หรืออยู่ดีๆฟันของคุณก็หลุดออกมา ความฝันเหล่านี้กำลังบอกคุณว่าคุณรู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตจริง ไม่น่าพึงพอใจ หรือไม่ดีพออย่างที่คุณหวัง ไม่ว่าจะเป็นแง่ฐานะ ความสุข หรือชีวิตรักของคุณ คุณอาจเจอกับสถานการณ์ที่ทำให้ต้องอับอายต่อหน้าคนเยอะๆจนทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย เป็นต้น

7. ตกจากที่สูงหรือจมหายลึกลงไป – เกือบทุกคนมักพูดคุยกันเกี่ยวกับความฝันลักษณะนี้ ฝันว่าตกจากที่สูง หรือจมหายลึกลงไปในมหาสมุทร ความฝันลักษณะนี้กำลังบอกว่าคุณไม่พอใจกับชีวิตของคุณตอนนี้ หาความหมายของชีวิตไม่เจอ คุณควรมองหาเส้นทางใหม่ๆของชีวิตเพื่อค้นพบความหมายของการใช้ชีวิตให้น่าพึงพอใจอีกครั้ง

บทสรุป

จากที่อ่านมาทั้งหมด 7 ข้อด้านบนนี้ คุณเคยพบเจอกับความฝันแบบไหนกันมาบ้าง? ความฝันพวกนั้นได้บอกคุณถึงความรู้สึกหรือสถานการณ์ในชีวิตที่คุณกำลังเผชิญอยู่จริงหรือไม่?

ถ้าใช่ลองหาทางแก้ไขเพื่อให้ความฝันเหล่านี้หมดไปดู ซึ่งจริงๆ แล้วความฝันก็เหมือนตัวช่วยที่เตือนคุณถึงสถานการณ์ในชีวิตจริงที่ตัวคุณเองอาจจะกำลังมองข้ามไปหรือทนทุกข์กับมันนานเกินไปจนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาสังเกตความฝันของตัวเองแล้วแก้ไขให้มันกลายเป็นฝันดีกันได้แล้ว