งานการพยาบาลผู้ป่วยนอก เป็นงานให้การบริการและการดูแลผู้ป่วยนอกกับการรักษาทุกโรค พร้อมผู้เชี่ยวชาญทุกสาขา “ความหวัง” ของคนไข้ และการ “ใส่ใจ” ดูแลด้วยความเข้าใจ โดยเฉพาะโรคสุดฮิตของคนไทยในยุคนี้ คือ อาการภูมิแพ้ และโรคระบบทางเดินหายใจ ที่ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ให้ความสำคัญ และตั้งเป็น “ศูนย์ความเป็นเลิศทางด้านโรคภูมิแพ้ โรคหืด และโรคระบบหายใจ” หรือ TU-CAAP [Center of Excellence For Allergy Asthma and Pulmonary Diseases] ที่ถือเป็น 1 ใน 5 ศูนย์ความเป็นเลิศของโรงพยาบาล
จากในตอนที่แล้วทุกคนคงได้เห็นเรื่องราวการดูแลด้วยความห่วงใยที่เหมือนจะเป็นเรื่องของเด็กแต่ไม่เด็กเลย เพราะเมื่อเราย้อนกลับไปแก้ปัญหาที่ต้นเหตุแล้วกลับเป็นเรื่องของผู้ใหญ่อย่างคุณพ่อ คุณแม่ หรือผู้ปกครองที่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่เด็กและดูแลเด็กอย่างถูกวิธี แอดกำลังพูดถึง กุมารเวชกรรมและคลินิกโภชนาการ ที่มีเป้าหมายในการทำให้เด็กกลับมาวิ่งเล่นได้อย่างสดใสอีกครั้ง เพราะเด็กตอนที่ยิ้มอย่างมีความสุขน่ะน่ารักที่สุดแล้ว
ครั้งนี้มาถึงคิวของทีมที่เราปวดหัว ตัวร้อน ปวดท้อง ปวดคอ ท้องเสีย เราก็มาเจอพวกเขาก่อนเลย พวกเขาคือ งานการพยาบาลผู้ป่วยนอก ซึ่งเมื่อเจาะลึกลงไปเราจะพบหน่วยย่อยที่คุ้นตาคุ้นชื่อกันแน่นอน เราจะไปรู้จักแผนกนี้กันอย่างจริงจังจากบทสัมภาษณ์ของ พว.พัชรา บุญญอนุชิต หัวหน้าสาขาการพยาบาลผู้ป่วยนอก และ ศ.ดร.พญ.อรพรรณ โพชนุกูล ผอ.ศูนย์ความเป็นเลิศทางด้านโรคภูมิแพ้ โรคหืด และโรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
13 หน่วยงาน + 2 หน่วย
งานการพยาบาลผู้ป่วยนอกมีทั้งหมด 13 หน่วยงานอย่าง งานการพยาบาลตรวจโรคอายุรกรรม งานการพยาบาลตรวจโรคศัลยกรรม งานการพยาบาลตรวจโรคศัลยกรรมกระดูกและข้อ งานการพยาบาลตรวจโรคเวชศาสตร์ฟื้นฟู งานการพยาบาลตรวจโรคสูตินรีเวชกรรม งานการพยาบาลตรวจโรคกุมารเวชกรรม งานการพยาบาลตรวจโรคหูคอจมูก งานการพยาบาลตรวจโรคจักษุ งานการพยาบาลตรวจโรคเวชศาสตร์ทั่วไปและครอบครัว คลินิกสุขภาพจิต หน่วยตรวจโรคปลอดเชื้อ หน่วยผิวหนัง และอีก 2 หน่วยอย่าง ศูนย์ความเป็นเลิศทางด้านโรคภูมิแพ้ โรคหืด และโรคระบบหายใจ และศูนย์หัวใจธรรมศาสตร์
การเข้าใช้บริการ
การเข้ามาใช้บริการของผู้ป่วยนอกจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มด้วยกันคือ มีนัดแล้วกับ Walk in ผู้ป่วย Walk in คือการมาครั้งแรกหรือมาหลายครั้งแล้วแต่ไม่ได้มีนัด ซึ่งเมื่อเข้ามาจะเริ่มจากเดินไปที่ตู้กดคิว
- กดเลข 1 สำหรับผู้ป่วยใหม่หรือผู้ป่วยที่ไม่มีนัด walk in เข้ามา แต่ถ้าเกิดว่ามีนัดอยู่แล้ว และคนไข้มาตรงนัดให้กดเลข ต้องการเช็กสิทธิ์การรักษาพยาบาลต่างๆให้
- กดเลข 2 สำหรับผู้ป่วยที่มีนัดอยู่แล้ว มาตรงวันและเวลาตามที่แพทย์นัด หรือต้องการเช็กสิทธิ์การรักษาพยาบาล
- กดเลข 4 สำหรับผู้ป่วยที่คัดกรองตัวเองได้ เช่นการเข้ารับบริการอย่างการทำฟัน เราสามารถเช็กอาการเบื้องต้นของความเจ็บปวดตัวเองได้ หรือมาเอกซเรย์เฉพาะจุดไปเลย
สำหรับผู้ป่วยใหม่
เมื่อกดเลข 1 ที่ตู้รับคิวแล้ว จะได้บัตรคิวออกมา ซึ่งมีคำอธิบายในบัตรคิวว่าให้ทำอะไรต่อ อย่างเช่นการไปวัดความดันและคัดกรองอาการยังจุดที่มีพยาบาลรับผิดชอบอยู่ พยาบาลจะช่วยประเมินอาการเบื้องต้นว่าคนไข้มีอาการในด้านไหน ควรไปหาหมอแผนกไหน
ศูนย์ความเป็นเลิศทางด้านโรคภูมิแพ้ โรคหืด และโรคระบบหายใจ
ภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นในประชาชนมันมีเยอะมาก ทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติจึงสนใจในการแก้ปัญหาตรงนี้และสร้างศูนย์ความเป็นเลิศนี้ขึ้นมา โดยภายในศูนย์จะประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญ การทำงานแบบสหะสาขาวิชาชีพ หลากหลายอาชีพที่มาร่วมดำเนินการศูนย์ความเป็นเลิศด้วยกัน เช่น แพทย์ พยาบาล เภสัชกร วิทยาศาสตร์การแพทย์ โภชนาการ เป็นต้น
“โรคหืด 30% โรคภูมิแพ้ 80%”
ส่วนใหญ่กลุ่มเด็กจะเป็นโรคภูมิแพ้กันเยอะมาก โรคหืด 30% โรคภูมิแพ้ 80% ซึ่งมีอัตราการเป็นเพิ่มขึ้น 3-5 เท่าจากเดิม อาการแพ้อากาศกับหอบหืดมีการเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน อันดับต่อมาคือโรคแพ้อาหาร ซึ่งเกิดจากวิถีชีวิต ไลฟ์สไตล์ สิ่งแวดล้อม ที่ทำให้การดำเนินชีวิตเปลี่ยนไป เป็นการใช้ชีวิตในเมืองมากขึ้น เมื่อเจอมลพิษมากๆเข้า จึงส่งผลเสียต่อร่างกาย
“เป็นแม่แบบในการรักษา”
นอกจากจะเป็นการทำงานร่วมกันของหลากหลายสาขาอาชีพแล้ว ทางศูนย์ยังมีการพัฒนางานวิจัย นวัตกรรม การสร้างเครือข่ายไปยังโรงพยาบาลอื่นๆ โดยทางโรงพยาบาลศาสตร์เฉลิมพระเกียรติจะเป็นโมเดลหรือแม่แบบในการรักษาที่มีมาตรฐาน และอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือจะต้องได้รับการรับรอง Disease Specific Certification (DSC) การรับรองมาตรฐานสำหรับการรับรองเฉพาะโรค
“ความเป็นเลิศ”
จริงๆคำว่าความเป็นเลิศจะต้องมีความเป็นเลิศทั้งในด้านการรักษา การบริการ และนวัตกรรม เน้นการถ่ายทอดความรู้ให้ยั่งยืน มีการให้บริการที่เป็นองค์รวมเพราะภูมิแพ้เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับหลายระบบของร่างกาย ทำให้ในศูนย์ความเป็นเลิศต้องมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในหลายแขนง มีทั้งแพทย์รักษาเด็กและผู้ใหญ่ ดูแลเป็นทีม ในการรักษาคนไข้หนึ่งคนจะมีการปรึกษาและส่งต่อข้อมูลกันตลอด
“ประเทศไทยมียาเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้เยอะมากแต่ยังขาดนวัตกรรมในการรักษา”
ภายในศูนย์นอกจากแพทย์แล้วยังมีพยาบาล เภสัชกร นักกายภาพ และโภชนาการ เพราะโรคภูมิแพ้จะเกี่ยวกับการใช้ยาและการทำกายภาพบำบัดด้วย จริงๆแล้วประเทศไทยมียาเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้เยอะมาก สิ่งที่ยังขาดก็คือนวัตกรรม ยกตัวอย่างเช่น เครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์พ่นยา หรือการใช้เทคโนโลยีในการดูแลคนไข้ ที่ศูนย์ความเป็นเลิศแห่งนี้จึงนำนวัตกรรมมาใช้ในการดูแลรักษาและการผลิตยาเพื่อรักษาคนไข้
“การสื่อสารกับคนไข้คือหัวใจสำคัญ”
สิ่งสำคัญที่สุดในการดูแลคนไข้ที่เป็นโรคเรื้อรังคือการสื่อสาร ที่จะช่วยทำให้คนไข้เข้าใจเรื่องโรคที่ตัวเองเป็นมากขึ้น และสามารถดูแลตัวเองได้อย่างถูกวิธี รู้ว่าเมื่อไรจะต้องมาพบแพทย์ การสื่อสารจึงควรทำให้ได้ครบทุกมิติ อย่างเช่น บางทีคนไข้จะได้รับการนัด 3-4 เดือนข้างหน้าทำให้อาจจะลืมได้ เราต้องหาวิธีสื่อสารเพื่อเตือนคนไข้ให้มารับการรักษาตามนัด
แอปพลิเคชัน ASTHMA CARE
มีการพัฒนามากว่า 7 ปี เกิดจากเคสการเสียชีวิตของคนไข้ด้วยโรคหอบหืด ซึ่งเป็นโรคที่หลอดลมตีบเฉียบพลัน ถ้ามีอาการปุ๊บต้องพ่นยาฉุกเฉินทันที ถ้าพ่นไม่ทันคนไข้จะเสียชีวิตจากการขาดออกซิเจน แต่เคสนั้นจากการเสียชีวิตเพราะว่าเขาหอบแล้วพ่นยาช้า คนไข้จำไม่ได้ว่าต้องพ่นอย่างไร จึงทำให้ทางโรงพยาบาลตระหนักว่าการสอนคนไข้ให้คนไข้เรียนรู้และจำได้จำเป็นต้องมีสื่อที่คนไข้สามารถเปิดดูเมื่อไรก็ได้ และส่วนใหญ่คนปัจจุบันติดมือถืออยู่แล้ว จึงทำให้เกิดเป็นแอปพลิเคชันขึ้นมา
แอปพลิเคชัน ALLERGY CARE
หลังจากพัฒนา ASTHMA CARE ได้ปีหนึ่ง ก็สังเกตเห็นว่ามีคนไข้แพ้อากาศเยอะมากบวกกับการเข้ามาอย่างรุนแรงของ PM 2.5 ด้วยแล้ว ทำให้ทางศูนย์ได้พัฒนาอีกหนึ่งแอปพลิเคชันที่เป็นประโยชน์ก็คือ Allergy care จะช่วยในการดูแลและประเมินอาการจมูกอักเสบ ภูมิแพ้ หรือแพ้อาการ โดยสามารถเช็กอาการได้ร่วมกับค่า pm 2.5 บริเวณโดยรอบด้วย เปิดขึ้นมาปุ๊บจะบอกดัชนีคุณภาพอากาศเลย ทำให้เรารู้ว่าเราจะดูแลตัวเองอย่างไร
เมื่อโควิด-19 เข้ามา
มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการดูแลคนไข้มากขึ้นในช่วงที่โควิด-19 เข้ามา โดยมีวัตถุประสงค์อยู่ 3 ข้อ ดังนี้
- คนไข้ต้องได้รับการรักษาต่อเนื่อง
- คนไข้ไม่ขาดยา
- คนไข้ไม่มีอาการกำเริบ
ทางศูนย์ต้องพัฒนากันอย่างก้าวกระโดดมาก เพราะคนไข้ไม่กล้ามาโรงพยาบาล แต่แพทย์ไม่อยากให้คนไข้ขาดยา จึงต้องมีการพัฒนาสื่อและช่องทางการสื่อสารเพื่ออุดรอยรั่วตรงนี้ ต้องทำให้ตอบโจทย์ในทุกด้าน ไม่ได้เน้นดูแลคนไข้ธรรมศาสตร์แต่ศูนย์พร้อมดูแลทุกคนที่อยากสอบถามหรือต้องการข้อมูล
การรักษา 4E
- Exercise มีที่พิเศษสำหรับการสอนออกกำลัง
- Eating การกินอาหารดีมีประโยชน์ ปลอดภัย สะอาด
- Environment ปรับสภาพแวดล้อม
- Emotion สอนการดูแลจิตใจ
อย่าไปท้อถอย ทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ หากปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อาการจะสามารถดีขึ้นได้ สิ่งสำคัญคือเราต้องดูแลตัวเอง ไม่ใช่รอให้คนอื่นมาจัดการให้เรา
บทสรุป
งานการพยาบาลผู้ป่วยนอกและศูนย์ทุกศูนย์มีการทำงานด้วยเป้าหมายที่ต้องการดูแลรักษาคนไข้ด้วยใจ ไม่ได้ต้องการแสวงหาผลกำไรจากผู้เข้ามาใช้บริการเลย การให้การดูแลรักษาเป็นไปอย่างครบถ้วนมีทั้งเครื่องแพทย์ แพทย์ มุมให้ความรู้ สุขศึกษา สอนการปรับพฤติกรรม เป็นศูนย์ในฝันที่ดูแลคนไข้ครบในทุกมิติ ซึ่งบางทีแพทย์และบุคคลากรเองก็เหนื่อยมาก แต่พอเห็นคนไข้ถามหา ทักมาให้กำลังใจมันก็ทำให้บุคลากรของศูนย์มีแรงขึ้นมาอีกครั้งแล้ว
“ที่เรามีแรงทำงานทุกวันนี้ ส่วนนึงก็เพราะเราได้กำลังใจจากกลุ่มคนไข้”
งานการพยาบาลผู้ป่วยนอก ที่อยู่ในหัวใจแห่งการบริการ | โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
หรือ จะเลือกรับฟังข้อมูลเพิ่มเติมในรูปแบบของ Podcast:
บทความ แนะนำ :
กุมารเวชกรรม ดูแลด้วยความเอาใจใส่ เสริมด้วยโภชนาการ
ติดตามชมรายการ UNMASK STORY
กับ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
ได้ทุกวันเสาร์ เวลา 20:00 น.
ทาง Facebook เพจ @มนุษย์เงินเดือนพันธุ์ใหม่
และ ช่องทาง Social Media ของ The Practical