เรื่องของวัคซีน กับหลากหลายคำถามที่หลายคนก็อยากรู้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประสิทธิภาพ ข้อดี ข้อเสีย และ ผลข้างเคียงหากได้รับการฉีดไปแล้ว
จากในตอนที่แล้ว ทุกคนได้เห็นการเดินทางของวัคซีนจาก 1,200 โดสสำหรับบุคลากรทางการแพทย์สู่ภารกิจ 2 ล้านโดส สำหรับ 600 คนต่อวัน สำหรับคนไทยทุกคน จากบทสัมภาษณ์ของ รศ.นพ.พฤหัส ต่ออุดม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ที่ได้เผยถึงข้อมูลของวัคซีนซิโนแวค วัคซีนที่นำเข้ามาฉีดในประเทศไทย และการทำความเข้าใจว่าเพราะเหตุใด ถึงจำเป็นต้องมี 30 นาที หลังจากการฉีดวัคซีนแล้ว
นอกจากนี้ รศ.นพ.พฤหัส ต่ออุดม ยังเน้นย้ำกับพวกเราอีกว่า “การป้องกันสำคัญกว่าการรักษา” ยิ่งคนเรามีความรู้ทางการแพทย์เยอะ ยิ่งเรียนรู้ที่จะป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งนั่นเป็นการแสดงให้เห็นว่าความรู้ ความเข้าใจ คืออาวุธชั้นเยี่ยมในการต่อสู้กับโควิด-19
และในตอนนี้ แอดมินจะพาทุกคนไปเพิ่มความรู้กับเรื่องราวของวัคซีน ผ่านบทสัมภาษณ์ของคุณหมอโต๊ด รศ.นพ. ธนา ขอเจริญพร อายุรแพทย์โรคติดเชื้อ และ คุณหมอตูน ผศ.พญ. พิชญาภา รุจิวิชชญ์ อายุรแพทย์โรคระบบการหายใจและเวชบำบัดวิกฤติ ที่จะมาช่วยให้ทุกคนเข้าใจเกี่ยวกับโควิด-19 และเรื่องของวัคซีนมากขึ้น
เมื่อวัคซีนโควิด ทำให้เกิดคำถามมากมาย
เรื่องของวัคซีน เป็นเรื่องที่ทุกคนคงได้เห็นถึงคำถามต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการถกเถียงเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ “วัคซีนซิโนแวค” ในสื่อโซเซียลมีเดียต่างๆ ซึ่งมีทั้งข้อมูลที่ถูกและผิด
คุณหมอโต๊ด ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า วัคซีนซิโนแวค เป็นวัคซีนเชื้อตาย นั่นหมายความว่า วัคซีนตัวนี้ จะลดความรุนแรงของอาการ จนถึงการทำให้ไม่มีอาการเลย แต่ไม่ได้หมายความว่าฉีดแล้วจะไม่มีโอกาสติดเชื้อ เรายังสามารถติดได้ และแพร่เชื้อได้อยู่ ในตอนนี้ยังไม่มีวัคซีนตัวใดในโลก ที่สามารถป้องกันโควิดได้ 100% เลย ในเรื่องของวัคซีนที่ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด คุณหมอโต๊ด บอกว่า เรายังต้องติดตามกันต่อไปก่อน
ฉีดวัคซีนแล้ว ไม่ต้องใส่แมสก์ ได้ใช่หรือไม่?
“ถึงจะฉีดวัคซีนไปแล้ว แต่เราก็ติดได้ แพร่เชื่อได้ แต่ไม่รุนแรง”
สิ่งนี้เป็นความเข้าใจผิดของคนส่วนใหญ่ เพราะวัคซีนซิโนแวค จะช่วยลดความรุนแรงของอาการ แต่ยังสามารถติดเชื้อได้ และแพร่เชื้อได้ หลังจากฉีดวัคซีนแล้วทุกคนยังคงต้องป้องกันตัวเองและใส่แมสก์อยู่เหมือนเดิม แต่มั่นใจได้ว่าถ้าติดโควิด-19 อาการจะเบาลงหรืออาจจะไม่มีอาการเกิดขึ้นเลย
ทำไมต้องมีการรอดูอาการ 30 นาที หลังจากที่ฉีดวัคซีนไปแล้ว?
เนื่องจากร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน ในการรับวัคซีนเข้าไปร่างกายคนเราจึงมีตอบสนองที่แตกต่างกัน สิ่งที่ทางการแพทย์ต้องเฝ้าระวังที่สุด ก็คือ อาการแพ้วัคซีนอย่างรุนแรงที่อาจจะทำให้เสียชีวิตได้ หรือ อาการแพ้ที่ไม่รุนแรง เช่น เวียนศีรษะ คลื่นไส้ ปวดเมื่อยเนื้อตัว เป็นต้น อาการแพ้วัคซีน โดยส่วนใหญ่แล้วจะเกิดภายใน 30 นาทีหลังจากได้รับวัคซีน ทำให้ต้องมีการดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ทางคุณหมอสามารถดูแลได้ทัน หากเกิดอาการแพ้ หรือ อาการผิดปรกติอะไรขึ้นมา
ข่าวการเสียชีวิต เพราะฉีดวัคซีนแล้วเกิดอาการแพ้
บางคนเกิดความกังวล เพราะอาจจะได้รับข่าวสารจากต่างประเทศว่ามีคนไปฉีดวัคซีนแล้วเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต
คุณหมอโต๊ด อธิบายให้เราฟังว่า การเสียชีวิตเพราะวัคซีน อาจจะเกิดขึ้นได้ จากหลาย อาทิเช่น สาเหตุเรื่องอายุ การมีโรคประจำตัว เช่น โรคปอด โรคหัวใจ ซึ่งโรคประจำตัวบางโรคอาจจะทำให้เกิดอาการแพ้วัคซีนได้ อาการแพ้ก็มีตั้งแต่ เกิดการแพ้เพียงแค่เล็กน้อย จนไปถึงระดับที่มีความรุนแรง หรือ จนถึงขั้นที่เสียชีวิตได้
“ตัวเราเองต้องรู้ตัวว่า เราควรฉีดหรือเปล่า”
คุณหมอ บอกกับเราว่า ตอนนี้ภาครัฐ ได้มีการทำเช็กลิสต์ว่าใครสามารถฉีดได้บ้าง? ใครมีข้อจำกัดอะไร? ในตัวยาไหนหรือไม่? ใครที่มีโรคประจำตัวควรทำอย่างไร?
และนอกจากนี้ ยังมีแอปพลิเคชันหมอพร้อม ที่จะให้ความรู้เกี่ยวกับการสำรวจตัวเองก่อนรับการฉีดวัคซีน และให้คำแนะนำหลังจากได้รับวัคซีน เพื่อเป็นการเพิ่มความปลอดภัยในการฉีดวัคซีนได้อีกระดับหนึ่ง
โควิด-19 ลงปอด จะเป็นอย่างไร?
ทุกคนคงเคยได้ยินชื่อเสียงอันเลื่องลือของอาการ “เชื้อลงปอด” กันมาบ้างแล้ว จากตามสื่อต่างๆ ที่พูดถึงผลกระทบของโควิด
คุณหมอตูน เล่าให้เราฟังว่า การติดเชื้อลงปอด อาจจะเกิดจากการสัมผัส การดม การรับเชื้อมาทางลมหายใจซึ่งจะลงไปสู่ปอดทันที แม้แต่การ แสกนนิ้ว ไม่ได้ล้างมือ ก็สามารถทำให้เราติดได้ ตามที่เคยเป็นข่าวในประเทศไทย
แต่จริงๆแล้วผู้ป่วยหนักบางคนที่เข้ามารักษา ส่วนใหญ่หายแล้วสามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ แต่ปอดของเราจะเป็น “แผลเป็น” เป็นลักษณะจุดดำๆบนปอด ซึ่งเราอาจจะวิ่งแล้วเหนื่อยเร็วกว่าเดิม หรือขึ้นบันไดที่บ้านแล้วก้อาจจะเกิดอาการหอบเล็กน้อย ซึ่งต้องใช้เวลาดูแลรักษาเพื่อให้แผลเป็นนั้นจางลง แล้วปอดเราก็จะกลับมาทำงานได้ตามปกติ แต่ทางที่ดีที่สุด คุณหมอตูน บอกเอาไว้ว่า “ดูแลตัวเองให้ดี และ อย่าป่วยจะดีกว่า”
“ล้างมือให้บ่อยๆ ใส่หน้ากากอนามัยอยู่เสมอ ถ้าป่วยให้กักตัวอยู่บ้านก่อน แต่ถ้าใกล้ชิดผู้ป่วยโควิดมา ก็ให้รีบมาโรงพยาบาลเลยทันที”
สิ่งที่ คุณหมอโต๊ดและ คุณหมอตูน เน้นย้ำกับเรา ที่เป็นประเด็นสำคัญ ก็คือ แม้ว่าเราจะได้รับการฉีดวัคซีนหรือไม่ก็ตาม ทุกคนยังคงต้องป้องกันตัวเอง พยายามล้างมือให้บ่อย ใส่หน้ากากอนามัย และพยายามสังเกตอาการตัวเองอยู่เสมอ ถ้ามีความผิดปกติในขั้นตอนแรก ก็ขอให้กักตัวเองไว้ก่อน แต่ถ้ารู้ตัวว่าตัวเราเองได้ไปใกล้ชิดกับผู้ป่วยหรือกลุ่มเสี่ยงมา ก็ขอให้มาโรงพยาบาลทันที ในช่วงนี้ ก็ต้องดูแลรักษาสุขภาพของตนเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ
บทสรุป
เรื่องของวัคซีน ถึงตอนนี้เราก็คงเข้าใจกันมากขึ้นแล้วว่ามีความจำเป็นและสำคัญอย่างไรและ การฉีดวัคซีน เป็นการลดความรุนแรงของโควิด-19 ที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวเรา
ดังนั้นแม้ว่าจะได้รับวัคซีนแล้วเรายังคงสามารถรับเชื้อ และแพร่เชื้อได้ การป้องกันจึงเป็นสิ่งที่ควรทำให้กลายเป็นกิจวัตรประจำวัน อย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง แต่เพื่อความปลอดภัยของคนรอบตัวของเรา รวมไปถึงคนอื่นๆ ในสังคมที่เราอยู่ด้วย
ถึงแม้ว่า โรคโควิดจะสามารถรักษาจนให้หายขาดได้ สามารถออกมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติแต่ผลพวงหลังจากการรักษาโควิด ก็ยังคงทิ้ง “แผลเป็น” เอาไว้ที่ร่างกายของผู้ที่เคยติดเชื้อทุกคน เพราะอย่างที่คุณหมอทั้งสองท่านได้บอกกับเราเอาไว้ว่า “โควิดน่ะ อย่าเป็นจะดีกว่า”
สำหรับเรื่องของวัคซีน ณ ขณะนี้ ประชาชนก็กำลังได้รับการทะยอยเข้าฉีดวัคซีน แอดมิน เชื่อว่าอีกไม่นาน สถานการณ์ของประเทศไทย ก็คงจะคลี่คลาย และ สามารถกลับมาใช้ชีวิตนอกบ้านได้เหมือนกับช่วงต้นปีที่ผ่านมา
….
ติดตามรับชมเรื่องราว เบื้องหลังวิกฤติและการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ในการรับมือกับสถานการณ์โควิด ได้กับรายการ Unmask Story เรื่องเล่าหลังแมสก์ ของ บุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
เรื่องของวัคซีน กับคำถามมากมาย ที่ผู้เชี่ยวชาญอยากตอบ|โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
หรือ จะเลือกรับฟังข้อมูลเพิ่มเติมในรูปแบบของ Podcast:
ติดตามชมรายการ UNMASK STORY
กับ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
ได้ทุกวันเสาร์ เวลา 20:00 น.
ทาง Facebook เพจ @มนุษย์เงินเดือนพันธุ์ใหม่
และ ช่องทาง Social Media ของ The Practical