
Apeel – A New Solution to Food Waste ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกและวิธีการที่น่าสนใจเป็นอย่างมากในการช่วยลดผลกระทบของปริมาณขยะอาหาร
Apeel เป็นบริษัทที่อยู่เบื้องหลังพื้นผิวล่องหนที่กินได้บนผักและผลไม้ บริษัทนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 2555 ด้วยทุนสนับสนุนจากมูลนิธิ Bill and Melinda Gates Foundation เป็นบริษัทที่ทำการค้นคว้าด้านเศษอาหารจากแคลิฟอร์เนีย ด้วยการระดมทุนจากธนาคารโลกและผู้บริจาคที่มีชื่อเสียงเช่น Katy Perry และ Oprah Winfrey
“เราสามารถลดของเสีย และปลดล็อกมูลค่าทั่วทั้งระบบอาหารได้”
James Rogers ผู้ก่อตั้งบริษัท Apeel เล่าว่านี่เป็นการเริ่มต้นทางวิทยาศาสตร์อาหารที่มีจุดประสงค์ในการลดจำนวนเศษอาหารบนโลกใบนี้ลง ด้วยเทคโนโลยีสารกันบูดที่เคลือบผิวด้วยนวัตกรรมล้ำสมัย บริษัทของเขาได้พยายามพัฒนาสารเคลือบสารกันบูดแบบใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เน่าเสียได้ง่าย อาทิเช่น อะโวคาโด มะนาว และแอปเปิ้ล โดยปัจจุบันมีการใช้ควบคู่ไปผักและผลไม้ประเภทอื่นๆ อีกมากมาย

“เศษอาหารที่สูญเปล่าทั่วโลกในแต่ละปี มีเพียงพอสำหรับเลี้ยงคนได้ถึงสองพันล้านคน”
รู้หรือไม่ 1 ใน 3 ของปริมาณอาหารทั้งหมดที่ถูกผลิตขึ้นเพื่อการบริโภคของมนุษย์จะสูญเปล่าทุกปี ผลไม้และผักมีอัตราการสูญเปล่าสูงสุด (เช่น เน่าเสีย ทิ้งเนื่องจากหมดอายุ หรือ เหลือเกินจากการบริโภค เป็นต้น) ปริมาณอาหารที่สูญเสียไปทั่วโลกในแต่ละปีประมาณ 1.3 พันล้านตัน ซึ่งถือว่าเป็นการสูญเสียทางเศรษฐกิจประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หากให้เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้นก็คือ มันมากพอๆ กับการทำอาหารแจกคนสองพันล้านคน ซึ่งยังมากกว่าจำนวนผู้ขาดสารอาหารทั่วโลกกว่าสองเท่า
“ผู้หิวโหย 870 ล้านคนทั่วโลก อาจจะไม่ต้องเผชิญกับความไม่มั่นคงทางด้านอาหารอีกต่อไป”
ตามรายงานของ U.N. กล่าวเอาไว้ว่า หากโลกของเราสามารถรักษา 1 ใน 4 ของอาหารที่สูญเสียไปทั่วโลกได้ เราจะสามารถช่วยผู้คนที่อดยากทั่วโลกได้กว่า 870 ล้านคน การลดปริมาณเศษอาหารเป็นหนึ่งใน 17 เป้าหมายการพัฒนาความยั่งยืนของสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals) โดยเป้าหมายของพวกเขาคือต้องการลดเศษอาหารให้ได้ 50% ทั่วโลกและลดการสูญเสียอาหารตลอดห่วงโซ่ของการผลิตและอุปทาน ภายในปี 2030 ด้วยเหตุนี้เอง Apeel จึงอยากเข้ามามีส่วนร่วมอย่างจริงจังในการหาหนทางและแนวทางแก้ไขปัญหาระดับโลกเช่นนี้
“เทคโนโลยีการถนอมอาหารที่ ไร้สี ไร้กลิ่น และ ไร้รส”
น้ำยาเคลือบผักและผลไม้ของ Apeel มีทั้งแบบผง แบบน้ำให้จุ่มลงไป และแบบฉีดพ่น น้ำยาเหล่านี้ผลิตจากสารสกัดที่ได้จากกรดไขมันของพืช เช่นจาก เปลือกมะเขือเทศและเมล็ดพืชต่างๆ ตัวน้ำยาจะสร้างผนึกที่มีความชื้นรอบๆ ผักและผลไม้ที่เราต้องการ กักเก็บความชื้นและปรับอัตราค่าออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ให้อยู่ในจุดที่เหมาะสม ทำให้ผู้บริโภคอย่างเราไม่ต้องกังวลในเรื่องของความเยิ้มหรือเมือกที่จะติดอยู่ที่ผักและผลไม้ของเรา เพราะน้ำยานี้เป็นธรรมชาติทั้งหมด แม้ตาก็มองไม่เห็น ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรสชาติ และไม่มีสารตกค้างอีกด้วย

“อะไรคือปัจจัยที่รักษาความสดใหม่ที่พวกเขากำลังตามหา?”
เพื่อตามให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน Apeel ได้เริ่มการทดสอบในโครงการที่ชื่อ “The Big Apple Apple Taste” คือการทดสอบให้ผู้เข้าร่วมทดลองชาวนิวยอร์กกว่า 500 คน ได้ชิมแอปเปิ้ลโดยที่พวกเขาจะไม่รู้ว่าลูกไหน คือลูกที่ใช้ Apeel และลูกไหนที่ไม่ใช้ โดยแอปเปิ้ลทั้งหมดที่ใช้ทดสอบมาจากล็อตเดียวกันทั้งหมด หมายความว่าแอปเปิ้ลจะอายุเท่ากันทั้งหมด แต่หลังการทดลองที่ผ่านการเคี้ยวและบดละเอียดแอปเปิ้ลกันมาอย่างยาวนาน ในการทดลองนี้เราก็ได้ผู้ชนะ นั่นก็คือ Apeel ที่ชนะไปอย่างขาดลอย
“สิ่งที่ผู้บริโภคต้องการจากแอปเปิ้ลก็คือ สัมผัสภายนอก สีเปลือก ความกรุบกรอบ”
- 46% ของผู้ทดสอบ บอกว่าจุดเล็กๆ เพียงหนึ่งจุดหรือสองจุดสีน้ำตาลบนแอปเปิ้ลก็ทำให้ไม่อยากซื้อแล้ว
- 50% ของผู้บริโภค บอกว่ารอยเหี่ยวย่นเพียงนิดเดียวก็ทำให้ไม่อยากซื้อแล้วเหมือนกัน
จากการทดสอบโครงการ Big Apple Apple Taste Test ผู้เข้าร่วมการทดลองมีความต้องการใช้ Apeel โดยพวกเขาบอกว่าแอปเปิ้ลที่ใช้ Apeel จะมีสีสดใส มีจุดสีน้ำตาลน้อย และสามารถรักษาความกรุบกรอบเอาไว้ได้ดี ราวกับเป็นแอปเปิ้ลที่เพิ่งเก็บมาสดๆ จากต้นเลย ผู้ร่วมการทดลองเล่าว่า “โดยรวมแล้วฉันจะเลือก Apeel เพราะมันทำให้แอปเปิ้ลมีรสชาติดีขึ้นและเก็บได้นานขึ้น” และ “Apeel คงความสดได้นานกว่า จุดสีน้ำตาลน้อยลง รู้สึกถึงความสดใหม่ กรอบและฉ่ำ” เป็นต้น
“คุ้มค่าที่จะจ่ายเพิ่มอีกนิด สำหรับ Apeel”
ด้วยข้อจำกัดที่เกษตรกรอินทรีย์ต้องเผชิญในเรื่องของอายุของผลผลิตที่ถูกเก็บเกี่ยวมาแล้ว ทำให้ Apeel กลายเป็นทางเลือกเและวิธีการสำหรับการเก็บรักษาผักและผลไม้เหล่านั้นให้อยู่ได้นานขึ้น ผู้บริโภคก็รู้สึกปลอดภัยในการรับประทานผักและผลไม้ที่มีการใช้ Apeel บ่อยครั้ง เรามักจะได้ยินพวกเขาพูดว่า “ฉันรู้สึกสบายใจที่จะกินมัน” “ฉันชอบที่มันได้มาจากพืช” หรือ “Apeel ทำให้ฉันรู้สึกถึงระดับพรีเมี่ยม” 89% ของผู้ทดลองเห็นด้วยที่จะยอมจ่ายราคาที่สูงขึ้นสำหรับผักและผลไม้ออร์แกนิกที่คงความกรอบและรสชาติสดใหม่ได้นานกว่าด้วย Apeel
“สิ่งที่ Apeel ขายจริงๆ ก็คือ เวลา”
สิ่งที่ Apeel ทำก็คือ ต่อเวลาความสดใหม่ให้แก่เหล่าผักและผลไม้ ยกตัวอย่างเช่น
- มะนาวคาเวียร์ ปกติจะมีอายุการเก็บรักษา 5-7 วันโดยไม่มี Apeel และ อายุการเก็บรักษาจะกลายเป็น 25 วัน เมื่อใช้ Apeel
- อะโวคาโดที่ใช้ Apeel จะมีอายุการเก็บรักษานานขึ้นถึง 50%
นอกจากนี้ประโยชน์ที่น่าสนใจของ Apeel อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญก็คือ บริษัทต่างๆ สามารถยกเลิกการใช้พลาสติกห่อหุ้มผักผลไม้ได้เลย เพราะ Apeel สามารถช่วยชะลออัตราการสูญเสียน้ำได้ถึง 50% ซึ่งนั่นหมายความว่าพลาสติกห่อหุ้มไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว หากต้องนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์นี้

“Apeel ตัวช่วยในยามวิกฤตโควิด-19”
การหยุดชะงักของเศรษฐกิจที่เกิดจากโควิด-19 ได้ตอกย้ำถึงประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ที่สามารถยืดอายุการเก็บรักษาของผักและผลไม้ที่เน่าเสียได้ง่ายได้ สำหรับผลิตผลที่จำหน่ายในร้านค้าแล้ว การมีอายุการเก็บรักษานานขึ้นไม่ได้มีประโยชน์ต่อผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ต่อผู้ค้า เมื่อผลิตผลบางครั้งอาจจะไม่สามารถขายได้ ปัจจุบันได้มีการใช้ Apeel ถนอมผักและผลไม้กันอย่างกว้างขวางในสหรัฐอเมริกา เช่น Kroger และ Harps นอกจากนี้ยังขยายไปถึงยุโรปด้วย Salling Group ของเดนมาร์กและ Edeka ของเยอรมนี เนื่องจากปัญหาด้านความไม่มั่นคงด้านอาหารเพิ่มขึ้นทั่วโลก
“เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่คือ การลดความอดอยากและความยากจนทั่วโลก”
Apeel ยังมีการระดมทุนสำหรับโครงการฟาร์มในประเทศ โดยมีเป้าหมายในการลดการสูญเสียอาหารสำหรับผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงเครื่องทำความเย็นได้ในแอฟริกาตอนใต้ของทะเลทรายซาฮารา เม็กซิโก อเมริกากลาง อเมริกาใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เทคโนโลยีของ Apeel สามารถช่วยได้ทั้งฟาร์มขนาดเล็กและผู้ผลิตรายใหญ่ในการเก็บรักษาผลผลิตของตนเอง ซึ่งมีบทบาทอย่างมากในการช่วยลดเศษอาหารที่เกิดจากการเน่าเสียจากการเก็บรักษา และแน่นอนช่วยบรรเทาความหิวโหยและความยากจนทั่วโลก
“ผลิตผลเป็นสิ่งที่มีชีวิต หายใจได้ แม้ว่าจะเลือกมันลงตะกร้าแล้วก็ตาม เคล็ดลับคือการรักษาความชุ่มชื้นให้ได้มากที่สุด”
James Rogers
บทสรุป
เรามีอาหารที่สูญเปล่าในแต่ละปีมากมาย และในแต่ละปีเราก็ยังต้องเผชิญกับปัญหาความหิวโหยทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการสูญเสียอาหารทำให้สูญเสียทรัพยากร เช่น ดิน น้ำ และพลังงาน องค์การอนามัยโลกเปิดเผยข้อมูลว่าความยากจนเป็นการขยายความเสี่ยงของภาวะทุพโภชนาการ ซึ่งภาวะทุพโภชนาการนี้เอง ทำให้เกิดต้นทุนการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น และชะลอการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ทำให้คนยากจนต้องเผชิญกับสุขภาพที่ไม่ดีและการเข้าไม่ถึงอาหารดีๆ ได้ ในขณะที่ยังมีการทิ้งขว้างเศษอาหารกันทั่วโลก เรื่องราวมันช่างดูย้อนแย้งมากเลยจริงๆ เราจะไม่มีวันได้เห็นคุณค่าของเศษอาหารที่เราทิ้ง จนกว่าเราจะได้พบกับความหิวโหยนั้นเสียเอง
“ฉันเกลียดที่จะเห็นอาหารสูญเปล่า ทั้งๆ ที่ยังมีผู้คนอีกมากมายในโลกนี้ที่ยังหิวโหย Apeel สามารถยืดอายุการเก็บของผลิตภัณฑ์สดได้ ซึ่งมีความสำคัญต่อแหล่งอาหารและโลกของเราด้วย”
Oprah Winfrey
ที่มา:
Food Waste Fighting Startup Apeel Bags $250M In Temasek-Led Round
Apeel: A New Startup’s Solution to Food Waste
https://www.foodnavigator-usa.com/Article/2020/05/26/Apeel-Sciences-raises-250m-to-tackle-food-waste-with-invisible-plant-based-skin-with-help-from-Oprah-Katy-Perry
https://blog.apeelsciences.com/organic-apple-shoppers-choose-apeel Apeel & The Science of Sustainability