
DCA – Dollar-Cost Averaging ถือเป็นวิธีการลงทุนรูปแบบหนึ่งที่นิยมมากในหมู่ของนักลงทุน ที่ต้องการลดความเสี่ยงอันเนื่องมาจากการมีต้นทุนที่สูง
โดยวิธีการของ DCA – Dollar-Cost Averaging คือการถัวเฉลี่ยต้นทุน โดยนักลงทุนจะต้องทำการลงทุนอย่างต่อเนื่องในแต่ละงวด ด้วยเงินลงทุนจำนวนเท่า ๆ กัน โดยไม่คำนึงถึงราคาของสินทรัพย์ลงทุน ณ ขณะนั้น ซึ่งถือเป็นการตัดในเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกออกไป ดังนั้นการทำ DCA จะทำให้เราได้ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เป็นการสร้างวินัย และเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กับเราในระยะยาว
คนทำงาน หรือ มนุษย์เงินเดือนทุกคน ต่างก็มีความฝันที่จะมีเงินใช้แบบสบายๆ ในชีวิตหลังเกษียณ แต่เอาเข้าจริง มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่สามารถทำความฝันนี้ให้เป็นจริงได้
เป็นเรื่องจริงที่โหดร้าย คนส่วนใหญ่มีโอกาสสูงมากที่จะมีเงินไม่พอใช้ในชีวิตหลังเกษียณ ด้วยเหตุเพราะว่า คนส่วนมากขาดวินัย ขาดความอดทน ในการเก็บเงิน บ้างก็บอกไม่มีเงินก้อนสำหรับลงทุน หรืออาจเพราะขาดความรู้ในเรื่องของการลงทุน ไม่มีเวลาคอยติดตาม ทำให้เงินที่เก็บหอมรอบริบมาตลอดชีวิต ไม่สามารถสร้างความมั่งคั่งที่เพียงพอ หรือ ความมั่นคงทางการเงินให้กับพวกเขาในชีวิตหลังเกษียณได้
หากจะเริ่มลงทุนอย่างมีวินัยแบบใช้เงินน้อยและมีตัวช่วยให้มืออาชีพช่วยดูแลการลงทุนให้จะเป็น การลงทุนในกองทุนรวม แบบถัวเฉลี่ยต้นทุน หรือ Dollar-Cost Averaging (DCA)
การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน หรือ DCA – Dollar-Cost Averaging หมายถึง
การลงทุนแบบที่เราทยอยซื้อกองทุนรวม เป็นงวดๆ ในจำนวนเงินเท่าๆ กัน โดยไม่ต้องสนใจราคาในวันที่ซื้อ
การลงทุนในกองทุนรวมแบบ DCA นี้ก็เหมือนกับการสร้างวินัยการลงทุนโดยซื้อเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ
ยกตัวอย่าง เช่น แอดมิน ลงทุนในกองทุนรวมหุ้น หรือกองทุนตราสารหนี้ หรือกองทุนผสม (แล้วแต่โจทย์ และ ความเสี่ยงที่แต่ละคนยอมรับได้) เป็นจำนวนเงินเท่า ๆ กันทุกเดือน คือ 2,000 บาท โดยตั้งซื้อกองทุนตัวนี้เอาไว้ในทุก ๆ วันที่ 25 ของทุกเดือน โดยไม่สนใจว่าราคาของกองทุนตัวนี้จะเป็นเท่าไร แต่เน้นว่าต้องซื้อตัวเดิมเป็นประจำทุกเดือน ด้วยยอดเงินที่เท่ากัน และต้องติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ
ข้อดีของการลงทุนในกองทุนรวมแบบ DCA เป็นอย่างไร?
ใช้เงินลงทุนน้อยในแต่ละครั้ง เริ่มต้นหลักร้อยก็ได้แล้ว บางกองทุน 1 บาทก็เริ่มลงทุนได้แล้ว และ ไม่ต้องกังวลเรื่องราคาว่าจะขึ้นหรือจะลง เพราะสุดท้ายเราจะได้ราคาต้นทุนเฉลี่ย หรือไม่ต้องกลัวว่าจะลืมลงทุน เพราะถ้าเราใช้วิธีการตัดเงินออกจากบัญชีเงินเดือนไปลงทุนโดยอัตโนมัติ (เช่น แอดมินลงทุนทุกเดือนในวันที่เงินเดือนออกเป็นต้น)
การลงทุนแบบ DCA นี้จึงเป็นการสร้างวินัยในการลงทุนได้อย่างดี เพราะทำให้เราลงทุนได้อย่างสม่ำเสมอ
หากเราเริ่มลงทุนเร็ว ยิ่งได้เปรียบ โอกาสที่เราจะมีเงินพอใช้ยามเกษียณก็จะเป็นจริงได้ไม่ยาก แต่ก็ต้องเลือกลงทุนในกองทุนรวมที่ได้รับผลตอบแทนสูงพอในระดับความเสี่ยงที่เรายอมรับได้ เพราะกองทุนรวมเหล่านั้นก็มักจะลงทุนในสินทรัพย์ที่ค่อนข้างเสี่ยงสูง มีโอกาสเติบโตในอนาคต
นอกจากนี้ การลงทุนแบบ DCA จะช่วยให้เราสามารถสะสมความมั่งคั่งได้ทีละน้อยๆ โดยไม่ต้องทุ่มเงินก้อนใหญ่เพียงครั้งเดียว
“ถึงแม้ว่า การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน หรือ DCA อาจจะไม่ใช่วิธีที่ทำให้เราได้ผลตอบแทนดีที่สุด”
แต่ก็เป็นวิธีที่ทำให้เราสามารถสร้างวินัยและฝึกฝนความอดทนเพื่อสะสมความมั่งคั่ง และสามารถได้ผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม ข้อควรระวังที่สำคัญ ก็คือ
- DCA ไม่ได้เหมาะกับสินทรัพย์ทุกประเภท เช่น สินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ น้ำมัน เพราะการลงทุนในผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ต้องคอยติดตาม จับจังหวะในการลงทุน (Market Timing)
- DCA ควรเป็นการลงทุนระยะยาว ใครที่คิดจะเข้ามาเก็งกำไรระยะสั้นๆ จึงไม่เหมาะที่จะทำ DCA เพราะจุดมุ่งหมายของการลงทุนแบบ DCA ออกแบบมาเพื่อให้เรามีวินัยในการลงทุน
แม้ DCA จะเป็นการทยอยลงทุนไปเรื่อย ๆ แบบสม่ำเสมอ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ปัจจัยต่างๆ อาจกระทบกับพอร์ตการลงทุน ดังนั้น เราก็ควรกลับมาทบทวนพอร์ตการลงทุนของเรา อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ว่ายังตอบโจทย์การลงทุนของเราอยู่หรือไม่
“การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีทุกครั้งก่อนการตัดสินใจลงทุน” แต่ต้องไม่ลืมว่า การไม่ลงทุนมีความเสี่ยงยิ่งกว่า เริ่มลงทุนแบบ DCA เพื่อชีวิตยามเกษียณที่สุขสบายกันครับ

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับ การเงินและการลงทุน สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ :
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ตัวช่วยที่สำคัญในการบรรลุเป้าหมายมีเงินใช้ในยามเกษียณ
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ – Provident Fund มีประโยชน์กับคนทำงานอย่างไร?
Provident Fund – กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ทำไปทำไม เงินแทบจะไม่พอใช้อยู่แล้ว?
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVF) จะต้องทำอย่างไรดี หากต้องลาออกจากงาน?