
Financial Literacy ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ความรู้ทางการเงินเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความสำเร็จและการเติบโตของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เจ้าของ SME และพนักงานของพวกเขาที่ขาดทักษะความรู้ทางการเงิน อาจจะต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายที่สำคัญซึ่งอาจส่งผลเสียต่อความเป็นอยู่ทางการเงินและขัดขวางการเติบโตของธุรกิจ
ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจและเรียนรู้ไปด้วยกัน กับปัญหาของเจ้าของและพนักงาน SME เนื่องจากขาดความรู้ทางการเงิน รวมไปถึงการเริ่มต้นในการพัฒนาทักษะนี้
“ปัญหาของเจ้าของกิจการและพนักงาน เนื่องจากขาดความรู้ทางการเงิน”
เจ้าของกิจการ SME และพนักงานของพวกเขา มักเผชิญกับความท้าทายทางการเงินที่สำคัญเนื่องจากขาดความรู้ทางการเงิน สำหรับเจ้าของกิจการ SME การจัดการกระแสเงินสด การปฏิบัติตามภาระผูกพันทางการเงิน และการรักษาความปลอดภัยทางการเงินสำหรับธุรกิจของพวกเขาอาจจะเป็นงานที่น่ากังวล หากจัดการไม่ได้ก็ไม่ใช่กระทบแค่เจ้าของกิจการ แต่จะกระทบไปถึงพนักงานและคู่ค้าด้วยเช่นกัน สำหรับพนักงานแล้ว การจัดการรายได้ การออม และการลงทุนอาจเป็นเรื่องที่หนี้สินที่ท่วมท้น อาจจะส่งผลต่อความเป็นอยู่ทางการเงินโดยรวมของพนักงานได้เช่นกัน ผลที่ตามมาของการไม่มีทักษะความรู้ทางการเงินที่เพียงพออาจสร้างความเสียหายให้กับทั้ง SME และพนักงานของพวกเขาได้
“ขายดี จนต้องเจ๊ง ปิดกิจการ”
ยกตัวอย่างเช่น เจ้าของ SME ที่ไม่มีความรู้ทางการเงินอาจไม่เข้าใจวิธีการจัดการกระแสเงินสดอย่างมีประสิทธิภาพ เช่นปล่อยเครดิตให้ลูกค้านานเกินไป แต่ซื้อสินค้าหรือวัตถุดิบเข้ามาด้วยเงินสดเป็นส่วนมาก หรือ ซื้อด้วยเครดิตเทอมที่สั้นมาก ส่งผลทำให้พวกเขาอาจใช้จ่ายเงินออกมากเกินไป จนขาดสภาพคล่องทางการเงิน และไม่สามารถชำระค่าใช้จ่ายและหนี้สินได้ทันเวลา สิ่งนี้อาจส่งผลเสียต่อคะแนนเครดิต ชื่อเสียงกับซัพพลายเออร์และผู้ให้กู้ และท้ายที่สุดคือความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในอนาคต เจ้าของกิจการ SME ที่มีปัญหากับการจัดการหนี้อาจใช้เงินกู้ดอกเบี้ยสูงที่พวกเขาไม่สามารถชำระคืนได้ ซึ่งนำไปสู่ปัญหาทางการเงินมากขึ้นและอาจถึงขั้นล้มละลายได้เป็นต้น
“คนไทยมากกว่า 90% มีเงินไม่พอใช้หลังเกษียณ”
สำหรับพนักงาน ผลที่ตามมาของการไม่มีทักษะความรู้ทางการเงินเพียงพออาจสร้างความเสียหายได้ไม่แพ้กัน พนักงานที่ขาดความรู้ทางการเงินอาจไม่เข้าใจวิธีจัดการรายได้และเงินออมอย่างมีประสิทธิภาพ พวกเขาอาจไม่มีส่วนร่วมในแผนการเกษียณอายุของนายจ้าง ซึ่งนำไปสู่การออมไม่เพียงพอสำหรับการเกษียณอายุ พนักงานที่มีปัญหากับการจัดการหนี้อาจตกหลุมพรางหนี้ เช่น บัตรเครดิตดอกเบี้ยสูง ที่สามารถสะสมอย่างรวดเร็วและไม่สามารถจัดการได้
ตัวอย่างทักษะความรู้ทางการเงินที่ดีสำหรับ เจ้าของกิจการ SME และพนักงาน

เพื่อเอาชนะความท้าทายและปัญหาที่เกิดจากการขาดความรู้ทางการเงิน เจ้าของและพนักงาน SME ควรมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาทักษะดังต่อไปนี้:
- การจัดทำงบประมาณ: การจัดทำงบประมาณ เป็นทักษะที่สำคัญสำหรับเจ้าของกิจการและพนักงาน เพราะด้วยการจัดทำงบประมาณ เจ้าของและพนักงานก็จะสามารถตรวจสอบรายได้และค่าใช้จ่ายของพวกเขาได้ การตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเขายังสามารถบริหารจัดการเรื่องเงินกับเรื่องภาระผูกพันทางการเงิน และเก็บออมสำหรับอนาคต การจัดทำงบประมาณช่วยให้เจ้าของและพนักงาน สามารถระบุด้านที่พวกเขาสามารถลดต้นทุนและจัดสรรทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้เช่นกัน
- การจัดการหนี้: ทักษะการจัดการหนี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเจ้าของกิจการและพนักงานด้วยการจัดการหนี้อย่างมีประสิทธิภาพ เจ้าของกิจการและพนักงานสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ ปรับปรุงคะแนนเครดิตของตนเอง และเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มีอัตรดอกเบี้ยถูกได้ง่ายขึ้น สำหรับพนักงาน ทักษะการจัดการหนี้สามารถช่วยให้พวกเขาชำระหนี้ ลดการจ่ายดอกเบี้ย และเพิ่มคะแนนเครดิตได้
- การลงทุน: การลงทุนเป็นทักษะที่สำคัญสำหรับทั้งเจ้าของกิจการและพนักงาน ด้วยการลงทุนเงินอย่างชาญฉลาด เจ้าของธุรกิจ SME สามารถสร้างธุรกิจและความมั่งคั่งส่วนตัวให้เติบโตได้ สำหรับพนักงาน การลงทุนสามารถช่วยให้พวกเขามีเงินออมเพิ่มขึ้นและบรรลุเป้าหมายทางการเงินระยะยาวได้เช่นเดียวกัน
ขั้นตอนเพื่อพัฒนาทักษะความรู้ทางการเงิน
ในการเริ่มพัฒนาทักษะความรู้ทางการเงินสำหรับ เจ้าของกิจการ และพนักงาน ควรปฏิบัติตามขั้นตอนดังต่อไปนี้:
1. ระบุเป้าหมายทางการเงิน: ระบุเป้าหมายทางการเงินของคุณและสิ่งที่คุณหวังว่าจะบรรลุโดยการพัฒนาทักษะความรู้ทางการเงินของคุณ นี่อาจเป็นอะไรก็ได้ตั้งแต่การชำระหนี้ไปจนถึงการออมเพื่อการเกษียณ
2. ระบุรายได้และค่าใช้จ่าย: สร้างรายการรายละเอียดของแหล่งรายได้และค่าใช้จ่ายของคุณ สิ่งนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าเงินของคุณไปที่ไหนและคุณเหลือเงินเท่าไหร่ในแต่ละเดือน
3. จัดหมวดหมู่ค่าใช้จ่ายของคุณ: จัดกลุ่มค่าใช้จ่ายของคุณเป็นประเภทต่างๆ เช่น ที่อยู่อาศัย การเดินทาง อาหาร และความบันเทิง
4. สร้างงบประมาณ: ขึ้นอยู่กับรายได้และค่าใช้จ่ายของคุณ สร้างงบประมาณที่ช่วยให้คุณครอบคลุมภาระผูกพันทางการเงินและเก็บออมสำหรับอนาคต เป็นจริงและทำการปรับเปลี่ยนตามความจำเป็น
5. ให้ความรู้แก่ตัวคุณเอง: ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่มากมายเพื่อพัฒนาทักษะความรู้ทางการเงินของคุณ อ่านหนังสือ เข้าร่วมเวิร์กช็อป และขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน ซึ่งในปัจจุบัน ก็มีแหล่งความรู้ดีๆ และ ฟรีมากมาย
6. ติดตามความคืบหน้าของคุณ: ติดตามความคืบหน้าของคุณอย่างสม่ำเสมอเพื่อบรรลุเป้าหมายทางการเงินของคุณ ตรวจสอบงบประมาณของคุณและปรับเปลี่ยนตามความจำเป็น
7. ฝึกนิสัยทางการเงินที่ดี: สร้างนิสัยทางการเงินที่ดี เช่น จ่ายบิลให้ตรงเวลา หลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และเก็บออมก่อนใช้อย่างสม่ำเสมอ เป็นต้น

ประโยชน์ของการพัฒนาทักษะความรู้ทางการเงินสำหรับ ผู้ประกอบการ SME ที่มีต่อลูกค้าของพวกเขา
การพัฒนาทักษะความรู้ทางการเงินจะเป็นประโยชน์ต่อ ผู้ประกอบการ SME ที่มีต่อลูกค้าของพวกเขาในหลายด้าน อาทิเช่น:
1. การจัดการทางการเงินที่ดีขึ้น: โดยการพัฒนาทักษะความรู้ทางการเงิน เจ้าของกิจการ SME และพนักงาน ก็จะสามารถจัดการการเงินได้ดีขึ้น ลดภาระหนี้ และเก็บออมสำหรับอนาคต ส่งผลทำให้กิจการมีความมั่นคง พนักงาน ลูกค้า หรือ คู่ค้าก็จะมีความมั่นใจที่จะอยู่และสนับสนุนกิจการต่อไป
2. การเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เพิ่มขึ้น: ผู้ประกอบการ SME ที่มีทักษะความรู้ทางการเงินที่ดีมีแนวโน้มที่จะเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากธนาคารและผู้ให้กู้รายอื่น ๆ สิ่งนี้สามารถช่วยให้ธุรกิจของพวกเขาเติบโตและขยายกิจการได้อย่างต่อเนื่อง ในมุมมองของลูกค้าก็จะมองว่าเป็นบริษัทที่มีความมั่นคง
3. ความเชื่อใจของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น: ผู้ประกอบการ SME ที่ให้ความสำคัญกับทักษะความรู้ทางการเงินมีแนวโน้มที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ดีขึ้นแก่ลูกค้า สิ่งนี้สามารถนำไปสู่ความภักดี และความพึงพอใจของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
4. ลดความเสี่ยงของการฉ้อโกงและการหลอกลวง: ผู้ประกอบการ SME และพนักงานของพวกเขาที่มีทักษะความรู้ทางการเงินที่ดี จะมีความพร้อมที่ดีกว่าในการจดจำและหลีกเลี่ยงการถูกหลอกลวงและการฉ้อโกงทางการเงินได้
บทสรุป
โดยสรุปแล้ว ความรู้ทางการเงินเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความสำเร็จและการเติบโตของธุรกิจ SME และความเป็นอยู่ที่ดีทางการเงินของพนักงาน ด้วยการพัฒนาทักษะความรู้ทางการเงิน เจ้าของกิจการและพนักงาน สามารถจัดการการเงินได้ดีขึ้น ลดภาระหนี้ และเก็บออมเพื่ออนาคต การพัฒนาทักษะความรู้ทางการเงินยังสามารถนำไปสู่การเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เพิ่มขึ้น ความภักดีและความพึงพอใจของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และลดความเสี่ยงของการฉ้อโกงและการหลอกลวง ในการเริ่มพัฒนาทักษะความรู้ทางการเงิน เจ้าของกิจการและพนักงาน ควรระบุเป้าหมายทางการเงินของพวกเขา สร้างงบประมาณ ให้ความรู้แก่ตนเอง ติดตามความคืบหน้า และฝึกนิสัยทางการเงินที่ดีได้
สนับสนุนโดย ไดกิ้น ผู้เชี่ยวชาญด้านแอร์บ้านและแอร์เชิงพาณิชย์
ที่สุดของความคุ้มแห่งปี!! กับไดกิ้นแจกมหึมา คุ้มค่าเต็ม MAX แคร์เต็ม MAX ขยายการรับประกัน 2 ปีเต็ม ฟรี!!!! ค่าบริการ ค่าตรวจเช็ค ค่าซ่อมแซมและค่าอะไหล่ทุกชิ้นส่วน เมื่อซื้อเครื่องปรับอากาศไดกิ้นรุ่นที่ร่วมรายการ ตั้งแต่1 มีนาคม 2566 – 30 มิถุนายน 2566 อ่านต่อได้ที่ : ไดกิ้นแจกมหึมา คุ้มค่าเต็ม MAX
บทความแนะนำ:
พลังแห่งการสื่อสารในธุรกิจ ช่วยองค์กรให้เติบโตก้าวหน้าได้อย่างไร?