Generation Z กำลังจะกลายเป็นประชากรกลุ่มค่อนข้างใหญ่ในบ้านเรา รวมไปถึงภูมิภาคอาเซียน และ กำลังจะกลายเป็นกำลังหลักของคนทำงานในอนาคต
Generation Z คือ กลุ่มคนที่ เกิดระหว่างปี 1996-2009 และมีอายุระหว่าง 9 – 24 ปี พวกเขาเกิดในยุคสมัยที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว พวกเขามีความกล้าแสดงออก ชอบโชว์ มีความมั่นใจสูง แต่ก็พบว่า ความอดทนต่ำ นี่จึงเป็นปัญหาที่ ทำให้ Generation นี้ ถูกมองว่าไม่มีความอดทน หรือ ไม่มุ่งมั่นมากพอ
“หากเราเข้าใจ Gen Z มากขึ้น การทำงานและการใช้ชีวิตร่วมกับพวกเขาก็ง่ายยิ่งขึ้น”
เพราะกาลเวลาเดินไปข้างหน้าอย่างไม่มีวันย้อนกลับ สิ่งที่มาก่อนหมดอายุไปตามกาลเวลา เหลือทิ้งไว้เพียงร่องรอย แม้บางส่วนจะเลือนรางหายไปตามกาลเวลาเช่นกัน สิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นมีสิทธิ์เลือกว่าจะเดินตามร่องรอยเดิมที่ถูกทิ้งไว้ จะยึดร่องรอยนั้นเป็นตัวจุดประกายให้เกิดสิ่งใหม่ หรือจะเลือกสร้างร่อยรอยใหม่ขึ้นเองเลย
แอดมินกำลังพูดถึงเรื่องคน เพราะคนในแต่ละรุ่น ความเหมือนที่ถูกสืบทอดและความแตกต่างของทางเดินที่คนแต่ละยุคนั้นเลือกเอง
“ตอน เรามีอายุ 16 เรากำลังทำอะไรอยู่?”
ลองหวนกลับไปนึกดูว่า เมื่อตอนที่เราอายุ 16 ชีวิตตอนนั้นของเราเป็นอย่างไร? เสื้อผ้าที่เราใส่ สถานที่ที่เราเคยไป หรือ อะไรคือสิ่งที่สำคัญกับเราที่สุดในช่วงชีวิตตอนนั้น สำหรับบางคนอาจจะเป็นการตามเทรนด์แฟชั่นที่เข้ามาและหายวับไปอย่างรวดเร็วในตอนนั้น หรือ เรื่องของการสอบใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งหากใครสอบผ่านคนนั้นก็ดูเท่ห์ที่สุดในห้องเป็นต้น แล้วเด็กอายุ 16 ในตอนนี้ เขายังทำแบบเรา ชอบแบบเรา ตอนที่เราอายุ 16 อยู่หรือ?
“Millennials คือ กลุ่มที่ได้รับความสนใจ”
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โลกกำลังให้ความสนใจเกี่ยวกับการทำความเข้าใจและปรับตัวเข้าหาคนรุ่น Millennials เพราะเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดและมีการศึกษาที่สุดในประวัติศาสตร์ เป็นคนที่เกิดระหว่างปี 1981 จนถึงปี 1990 คนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่จุดประกายการเจรจาที่สำคัญเกี่ยวกับความแตกต่างกันของคนแต่ละรุ่น และเพิ่มความท้าทายให้แก่โลกอุตสาหกรรมการทำงานเพื่อให้ได้รับการตอบสนองความต้องการที่ถูกทาง นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดการนำเรื่องลำดับขั้นชนชั้นต่างๆ กลับมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง
“คนในแต่ละรุ่น ถูกจัดประเภทตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มากกว่าวันที่ที่พวกเขาได้เกิดขึ้นมาบนโลก”
จากการวิเคราะห์คนในแต่ละรุ่น เป็นไปไม่ได้เลยที่จะอธิบายลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคลได้ เพราะทุกคนมีความแตกต่างมากมายในหลายระดับ ซึ่งผันแปรไปตามปัจจัยต่างๆ ที่พวกเขาได้ประสบพบเจอมา ยกตัวอย่างเช่น การแข่งขัน ศาสนา เศรษฐกิจ หรือ สังคม ที่ปรับมุมมองของคนในแต่ละรุ่น ทำให้พวกเขาเห็นโลกในมุมมองที่แตกต่างกันออกไป กุญแจสำคัญที่จะทำให้พวกเราเข้าใจกันมากขึ้น ก็คือ จำแนกคนแต่ละรุ่นตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่วันที่พวกเขาเกิดขึ้นมา
จุดเริ่มต้นและการเข้ามา Generation Z
Gen Z หมายถึง คนที่เกิดในปี 1996-2009 ในเดือนกันยายนปี 1996 ซึ่งในตอนนั้นก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย เช่น การก่อการร้าย การยิงในโรงเรียน และภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ เหตุการณ์น่ากลัวเหล่านั้นมันส่งผลต่อลักษณะของพฤติกรรมคนใน Gen Z อย่างหนัก แต่มันกลับเป็นสิ่งที่จุดประกายให้ยึดมั่นในความต้องการจะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ของพวกเขาแทน ซึ่งมีความหมายต่อความเป็นไปของโลกใบนี้ในอนาคต
สิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ไม่ใช่การมาบอกว่าตอนนี้ Gen Z สำคัญที่สุด (เพราะทุก Gen ก็สำคัญไม่แพ้กัน) แต่มันคือ การหาวิธีอยู่ร่วมกันและร่วมมือกันเพื่อเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้ไปในทางที่ดีที่สุดต่างหาก ดังนั้นเราจึงควรทำความคุ้นเคยและทำความเข้าใจกับลักษณะของ Gen Z ใน 10 เรื่องที่สำคัญดังต่อไปนี้
1. Gen Z – พวกเขาต้องการรับรู้ถึงผลลัพธ์ที่เขาทำได้
พวกเขาพร้อมจะทำทุกอย่างตามเส้นทางที่วางเอาไว้เพื่อให้ได้รับชัยชนะ เพราะพวกเราเติบโตมาจากการแข่งขันกีฬาจนมันกลายเป็นวัฒนธรรมแห่งการเอาชนะ พวกเขาคุ้นชินกับการรู้ผลลัพธ์ในทันที จึงมักจะเกิดอาการหงุดหงิดหรือไม่พอใจหากจะต้องรอผลคะแนนหลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขันหรือทดสอบเป็นเวลานาน ซึ่งอาจจะพูดได้ว่า Gen Z เป็นกลุ่มคนที่ถูกโยนเข้าไปในสังคมที่มีการแข่งขันสูงที่สุดในประวัติศาสตร์
“บางครั้ง เรามองว่าความสำเร็จของคนอื่นเป็นความล้มเหลวของเราเอง หรือความล้มเหลวของพวกเขาเป็นความสำเร็จของเรา”
2. Gen Z – ประเด็นของการสืบทอดลักษณะเฉพาะจาก Millennials
ทุกช่วงอายุ ถูกจำกัดลักษณะเฉพาะมาจากครอบครัวหรือสิ่งแวดล้อมที่พวกเขาต้องเจอ นี่คือเหตุผลที่การรวมกลุ่มของ Millennials และ Gen Z เข้าด้วยกันอาจจะกลายเป็นความผิดพลาด แต่ในความเป็นจริง ไม่ว่าอย่างไรมันก็ต้องเกิดขึ้นอยู่ดี พวกเขายังคงมีความคล้ายคลึงกันในเรื่องของพฤติกรรมที่เป็นผลมาจากสิ่งแวดล้อม แต่ความคล้ายกันเหล่านี้เป็นเพียงจุดเล็กๆ เท่านั้น ซึ่งแตกต่างจาก Millennials ที่สืบทอดลักษณะเฉพาะของ Generation X และ Baby Boomers มาจำนวนมาก
“แม้ว่าพวกเขาจะมีอายุไล่เลี่ยกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า พวกเขาจะมีความเชื่อที่เหมือนกัน”
3. Gen Z – พวกเขาให้ความสนใจในด้านการเงิน
ในช่วง 15 ถึง 20 ปีที่ผ่านมา หน่วยงานด้าน Human Resource หลายๆ ที่ ต่างก็พากันค้นหาว่าอะไรกันแน่ ที่จะสามารถกระตุ้นพนักงานของเขาให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพได้บ้าง? จากการศึกษาทำให้พวกเขาพบว่า การมีส่วนร่วมในสถานที่ทำงานมีความสำคัญต่อ Gen Z น้อยกว่าคนรุ่นก่อน
โดย 2 ใน 3 ของ Gen Z ต้องการทำงานที่ได้รับข้อเสนอทางการเงิน (เน้นเรื่องเงินเป็นหลัก) ที่มั่นคงมากกว่างานที่สบาย การมุ่งเน้นในด้านการเงิน (เรื่องรายได้) นั้น ส่วนหนึ่งของเหตุผลน่าจะมาจากการที่พวกเขาได้เห็นการต่อสู้ที่พ่อแม่ของพวกเขาต้องเผชิญในโลกของการทำงาน เพราะในปี 2008 Gen X สูญเสียความมั่งคั่งไปกว่า 45% ในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่
“Gen Z คือ นักปฏิบัติ ที่ทำงานเพื่อหาเลี้ยงชีพเป็นหลัก มากกว่าตามหาความหมายของชีวิต”
4. Gen Z – พวกเขาสนใจที่จะเป็นผู้ประกอบการ
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเคยเห็นพ่อและแม่ของพวกเขา ต่อสู้กับความท้าทายทางการเงิน และรู้สึกถึงผลกระทบของการล่มสลายทางเศรษฐกิจที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ แต่จากการสำรวจพบว่า 58% ของ Gen Z ต้องการมีกิจการเป็นของตัวเองในอนาคต และ 14% มีกิจการเป็นของตัวเองแล้ว และเรายังได้เห็นวิธีการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจที่น่าตื่นเต้นและให้ผลกำไรโดยมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างต่ำ
“Gen Z เชื่อว่า ถ้ามีเงินมาก เขาจะสามารถสร้างเศรษฐกิจของเขาขึ้นได้เอง”
5. Gen Z – พวกเขามีการเชื่อมต่อกับทั้งออนไลน์และออฟไลน์
ก่อนที่ Gen Z จะถูกกำหนดให้เป็นชื่อทางการ ยังมีชื่ออื่นๆ อีกสองสามชื่อ ที่เข้าชิงด้วย อาทิเช่น Selfie Generation หรือ iGen โดยชื่อที่ถูกนำเสนอเหล่านี้ มีแต่จะสร้างความเข้าใจผิดทั้งนั้น ทำให้ทุกคนมักเข้าใจผิดว่า Gen Z ถูกผูกติดเอาไว้กับเทคโนโลยีเท่านั้น แต่จริงๆแล้ว พวกเขายังคงต้องการการพูดคุยต่อหน้า เพราะเรื่องของความเห็นอกเห็นใจ ความสนใจ และการดูแลเอาใจใส่ จะดีที่สุดถ้าได้รับจากตัวต่อตัว
“การทำงานร่วมกับ Generation Z ให้ประสบความสำเร็จนั้น จำเป็นต้องมีความสมดุลระหว่างการสนทนาโดยตรงและการมีส่วนร่วมทางออนไลน์”
6. Gen Z – พวกเขาต้องการมีปฏิสัมพันธ์
เพราะพวกเขาให้ความสำคัญกับการมีปฏิสัมพันธ์แบบตัวต่อตัว ถึงแม้ว่าจะเป็นคนประเภทไม่ต้องการได้รับแรงสนับสนุนจากใครมากนัก แต่ก็ยังต้องการรับรู้ถึงความรู้สึกที่ซาบซึ้งตอนที่มีคนชื่นชมว่าทำได้ดี สิ่งเล็กๆน้อยๆ เหล่านี้จะทำให้ Gen Z มีกำลังใจในการทำงานและตั้งใจทำงานเพื่อให้ได้รับการชื่นชมในครั้งต่อไปมากขึ้น นอกจากนี้ Gen Z ยังเป็นประเภทที่จะตั้งใจทำงานมากๆ เมื่อมีการกำหนดเวลาส่งอีกด้วย
“ประสบการณ์ที่อ่อนไหวจากการแข่งขันในวัยเด็ก สู่การโหยหาคำยืนยันเพื่อที่จะบอกว่าตัวเองนั้นได้ทำดีที่สุดแล้ว”
7. Gen Z – พวกเขาชอบทำงานอิสระ
คนทำงานในกลุ่ม Millennials ชอบสภาพแวดล้อมการทำงานร่วมกัน โดยสถานที่ทำงานหลายแห่งได้ยกเลิกสำนักงานและลดกำแพงห้องให้เล็กลงเพื่อส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์มากขึ้น แต่ Gen Z มีความต้องการที่แตกต่างจาก Millennials พวกเขามักต้องการทำงานภายใต้สิ่งแวดล้อมที่เป็นส่วนตัวมากกว่า สถานที่ทำงานที่สงบ และมอบความส่วนตัวให้ได้จะเป็นสถานที่ทำงานที่สามารถดึงศักยภาพในการแข่งขันของ Gen Z ออกมาได้อย่างสูงสุด
“ในอนาคต เราอาจจะได้เห็นที่ทำงานที่ให้ความเป็นส่วนตัวพนักงานมากขึ้น มากกว่าการส่งเสริมให้นั่งทำงานรวมกัน”
8. Gen Z – พวกเขามีความหลากหลายมาก จนเราไม่สามารถระบุความหลากหลายเหล่านั้นได้
ในต่างประเทศ เช่น Gen Z ถือ เป็นยุคสุดท้ายในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ ที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นคนผิวขาว เมื่อพิจารณาจากการเปลี่ยนแปลงทางประชากรของประเทศแล้ว พวกเขาไม่สนใจในเรื่องของสีผิว ศาสนา หรือรสนิยมทางเพศของใครมากเท่ากับที่คนรุ่นเก่าทำ ประชากรที่หลากหลายเป็นเพียงบรรทัดฐาน สิ่งที่เราใส่ใจในผู้อื่นมากที่สุดคือความซื่อสัตย์ ความจริงใจ และสิ่งที่อาจสำคัญที่สุดก็คือความสามารถ
“ความแตกต่างไม่ใช่สิ่งที่จะต้องเอามาระบุหรือแบ่งแยก ความสามารถต่างหากที่ควรสนใจ”
9. Gen Z – พวกเขายินดีและพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง
ความวุ่นวายของระบบการเมือง เป็นสิ่งที่จุดประกายให้เรามีพัฒนาการมากยิ่งขึ้นเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าเราจะกำลังเดินอยู่ฝั่งไหน พวกเราส่วนใหญ่แค่ต้องมุ่งสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในสังคมเท่านั้น เช่น นักเรียนของ Marjory Stoneman Douglas High School ใน Parkland, Fla. รวมตัวกันเคลื่อนไหวทางการเมืองเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธปืนหลังจากเกิดเหตุการณ์กราดยิงที่โรงเรียนของพวกเขา หรือ วัยรุ่นหลายคนออกมารณณรงค์และเคลื่อนไหวในเรื่องของการแก้ปัญหาเรื่องของขยะในทะเล เป็นต้น
“เราต้องสร้างความเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าผลกระทบจะเกิดขึ้นกับเราหรือไม่”
10. Gen Z– พวกเขาต้องการมีส่วนร่วม
Gen Z แสวงหางานที่เปิดโอกาสให้มีส่วนร่วม สร้างความเป็นผู้นำ และได้รับการเรียนรู้ หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการทำงานร่วมกับพวกเขาก็คือ การลองถามพวกเขาให้ออกความคิดเห็นและรับฟังพวกเขา เพราะ Gen Z มีความสามารถที่น่าทึ่งในการรวบรวมข้อมูล ประมวลผล และการดำเนินการ
“เมื่อเราอนุญาตให้พวกเขาแบ่งปันความคิด สิ่งที่ยิ่งใหญ่จะเกิดขึ้นตามมา”
บทสรุป
เพราะโลกมันกำลังก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว คนหลายรุ่นที่กำลังเข้ามาเป็นหนึ่งในนักขับเคลื่อนที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่โลกไปในทิศทางที่ดีขึ้น ดังนั้นอย่าให้เรื่องของอายุมากลายเป็นช่องว่างที่สร้างความไม่เข้าใจระหว่างกัน
ทุกคนมีความแตกต่าง มีความหลากหลายทางบุคลิกที่เฉพาะตัว ที่มีผลมาจากสิ่งแวดล้อมที่ตีกรอบคนในแต่ละรุ่น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ทุกคนพิเศษในความแตกต่าง และความแตกต่างเหล่านี้เมื่อนำมารวมกัน ถึงจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่สร้างสรรค์ได้ เพราะถ้าเราทุกคนเหมือนกัน ก็คงไม่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ ดังนั้นเราต้องเข้าใจและยอมรับความแตกต่างของกันและกันอย่างไม่แบ่งแยก ถึงจะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีบนโลกใบนี้ได้
“สิ่งสำคัญคือ ไม่ว่าเราจะทำอะไร ก็ขอให้จำเอาไว้ว่ายังมีคนรุ่นหลังต่อจากเราอีก”
Source: 10 Things You Need to Know About Generation Z