Leaders Eat Last หนังสือของ Simon Sinek เป็นหนังสือที่นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาภาวะผู้นำและการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง โดยเน้นถึงความสำคัญของการดูแลและปกป้องพนักงานเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ทำให้ทุกคนรู้สึกปลอดภัยและมีความสุขในการทำงาน และนี่คือ 10 บทเรียนสำคัญ ที่ทีมงาน The Practical ได้จากหนังสือเล่มนี้
1. ผู้นำที่ดีต้องใส่ใจและดูแลคนในทีม
ผู้นำที่แท้จริงคือคนที่ใส่ใจและดูแลพนักงานก่อนที่จะนึกถึงตัวเอง การสร้างสภาพแวดล้อมที่ทำให้พนักงานรู้สึกปลอดภัยและได้รับการสนับสนุนจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและความสุขในการทำงาน
“ผู้นำที่ดีคือคนที่กินข้าวหลังสุด”
ตัวอย่าง: ในกองทัพสหรัฐฯ ผู้นำมักจะปล่อยให้ทหารของตนกินก่อนเสมอ เพื่อแสดงถึงความใส่ใจและการเสียสละ
2. การสร้างวงกลมแห่งความปลอดภัย (Circle of Safety)
การสร้างวงกลมแห่งความปลอดภัยภายในองค์กรเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้พนักงานรู้สึกปลอดภัยและมีความเชื่อมั่นในองค์กร เมื่อพนักงานรู้สึกว่าพวกเขาได้รับการปกป้อง พวกเขาจะกล้าเสี่ยงและคิดสร้างสรรค์ได้มากขึ้น
“เมื่อพนักงานรู้สึกปลอดภัย พวกเขาจะทุ่มเทและสร้างสรรค์อย่างเต็มที่”
ตัวอย่าง: บริษัท Next Jump ในสหรัฐฯ มีนโยบายที่ไม่มีการไล่พนักงานออก แต่เน้นการพัฒนาและให้โอกาสในการแก้ไขปัญหาแทน
3. การสร้างวัฒนธรรมการรับผิดชอบร่วมกัน
การสร้างวัฒนธรรมที่ทุกคนในองค์กรรู้สึกมีส่วนร่วมและรับผิดชอบร่วมกันจะทำให้เกิดความสามัคคีและความมุ่งมั่นในการทำงาน ผู้นำต้องเป็นตัวอย่างที่ดีและส่งเสริมการทำงานเป็นทีม
“ผู้นำต้องเป็นตัวอย่างที่ดีในการทำงานและการรับผิดชอบ”
ตัวอย่าง: ที่บริษัท Gore-Tex มีการจัดองค์กรแบบไม่มีลำดับชั้นอย่างชัดเจน ทำให้ทุกคนรู้สึกมีส่วนร่วมและรับผิดชอบต่อความสำเร็จขององค์กร
4. การสื่อสารที่เปิดเผยและตรงไปตรงมา
การสื่อสารที่เปิดเผยและตรงไปตรงมาช่วยสร้างความไว้วางใจในองค์กร ผู้นำต้องมีความซื่อสัตย์และกล้าที่จะพูดความจริง เพื่อให้พนักงานรู้สึกว่าพวกเขาได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้
“การสื่อสารที่ดีคือการสร้างความไว้วางใจ”
ตัวอย่าง: บริษัท Buffer เปิดเผยข้อมูลเงินเดือนของพนักงานทุกคนอย่างโปร่งใส เพื่อสร้างความไว้วางใจและความโปร่งใสในองค์กร
5. การดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ของพนักงาน
การดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ของพนักงานเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้นำต้องใส่ใจ การสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนสุขภาพทั้งกายและใจของพนักงานจะช่วยเพิ่มความพึงพอใจและประสิทธิภาพในการทำงาน
“การดูแลสุขภาพของพนักงานคือการลงทุนในอนาคตขององค์กร”
ตัวอย่าง: Google มีสิ่งอำนวยความสะดวกและโปรแกรมต่าง ๆ ที่สนับสนุนสุขภาพและความเป็นอยู่ของพนักงาน เช่น ศูนย์ออกกำลังกาย อาหารเพื่อสุขภาพ และบริการด้านสุขภาพจิต
6. การสร้างแรงจูงใจในทีม
ผู้นำที่ดีต้องรู้วิธีสร้างแรงจูงใจในทีมโดยการให้การยอมรับและสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ การให้รางวัลและการยอมรับความสำเร็จของพนักงานจะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและกระตุ้นให้พวกเขาทำงานให้ดียิ่งขึ้น
“แรงจูงใจไม่ได้มาจากสิ่งที่เราทำเพื่อพวกเขา แต่มาจากสิ่งที่พวกเขารู้สึกว่าได้ทำสำเร็จด้วยตัวเอง”
ตัวอย่าง: บริษัท Apple มีนโยบายการให้พนักงานมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งช่วยสร้างแรงจูงใจและความภาคภูมิใจในการทำงาน
7. การสร้างความไว้วางใจและความภักดี
ผู้นำต้องสร้างความไว้วางใจและความภักดีในทีม การให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์และการสร้างความไว้วางใจจะช่วยสร้างบรรยากาศที่ทุกคนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของทีม
“ความไว้วางใจเป็นรากฐานของทุกความสัมพันธ์ที่ดี”
ตัวอย่าง: บริษัท Southwest Airlines มีวัฒนธรรมที่เน้นการให้ความสำคัญกับพนักงานและการสร้างความไว้วางใจ ซึ่งส่งผลให้พนักงานมีความภักดีและพร้อมที่จะให้บริการลูกค้าอย่างเต็มที่
8. การเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ผู้นำต้องส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะของพนักงานอย่างต่อเนื่อง การสร้างโอกาสในการเรียนรู้และการพัฒนาอาชีพจะช่วยให้พนักงานมีความรู้สึกว่าพวกเขามีคุณค่าและสามารถเติบโตในองค์กรได้
“การเรียนรู้และพัฒนาเป็นกระบวนการที่ไม่มีที่สิ้นสุด”
ตัวอย่าง: บริษัท IBM มีโปรแกรมการฝึกอบรมและการพัฒนาที่ครอบคลุม เพื่อช่วยให้พนักงานสามารถพัฒนาทักษะและเติบโตในสายงานของตน
9. การสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
ผู้นำต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และการนวัตกรรม การให้พนักงานมีอิสระในการคิดและทดลองสิ่งใหม่ ๆ จะช่วยให้เกิดนวัตกรรมและการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ดียิ่งขึ้น
“ความคิดสร้างสรรค์เกิดขึ้นเมื่อมีอิสระและการสนับสนุน”
ตัวอย่าง: บริษัท 3M มีนโยบายให้พนักงานใช้เวลา 15% ของเวลาทำงานในการพัฒนาไอเดียและโครงการใหม่ ๆ ซึ่งนำไปสู่การสร้างผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จหลายอย่าง เช่น Post-it Notes
10. การรับฟังและเคารพความคิดเห็นของพนักงาน
ผู้นำต้องมีทักษะในการรับฟังและเคารพความคิดเห็นของพนักงาน การสร้างวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญกับการรับฟังจะช่วยให้พนักงานรู้สึกว่าพวกเขามีส่วนร่วมและมีค่าในองค์กร
“การรับฟังคือกุญแจสู่การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ”
ตัวอย่าง: บริษัท Toyota ใช้หลักการ Kaizen ซึ่งเน้นการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องโดยการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากพนักงานทุกระดับ ทำให้เกิดการพัฒนากระบวนการผลิตและคุณภาพของผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง
บทสรุป
หนังสือ “Leaders Eat Last” ของ Simon Sinek นำเสนอแนวคิดที่สำคัญเกี่ยวกับการเป็นผู้นำที่ดีและการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ทำให้พนักงานรู้สึกปลอดภัยและมีความสุขในการทำงาน
ผู้นำที่ดีต้องใส่ใจและดูแลพนักงานก่อน คิดถึงการสร้างวงกลมแห่งความปลอดภัย ส่งเสริมวัฒนธรรมการรับผิดชอบร่วมกัน สื่อสารอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมา ดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ของพนักงาน สร้างแรงจูงใจ สร้างความไว้วางใจ ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ และรับฟังและเคารพความคิดเห็นของพนักงาน หากผู้นำสามารถทำตามบทเรียนเหล่านี้ได้ องค์กรก็จะมีความสามารถในการสร้างสรรค์และประสบความสำเร็จในระยะยาว
การนำแนวคิดจากหนังสือเล่มนี้ไปใช้ในองค์กร จะไม่เพียงแต่ช่วยให้พนักงานรู้สึกมีคุณค่าและได้รับการสนับสนุน แต่ยังสร้างวัฒนธรรมที่เน้นการร่วมมือและการเติบโตอย่างยั่งยืน เมื่อพนักงานรู้สึกว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมและมีความสำคัญในองค์กร พวกเขาจะมีแรงจูงใจในการทำงานและพร้อมที่จะร่วมมือกันเพื่อบรรลุเป้าหมายขององค์กรได้อีกด้วย
สำหรับใครที่สนใจหนังสือเล่มนี้ หาซื้อได้ที่นี่ Leaders Eat Last : Why Some Teams Pull Together and Others Don’t
บทความแนะนำ
Start with Why | 10 บทเรียนสำคัญ ของ Simon Sinek ที่ผู้นำทุกคนต้องรู้
Emotional Intelligence | 10 บทเรียนสำคัญ เพื่อพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์