
Philips UVC Disinfection Desk Lamp ทางเลือกของคนทำงาน ในยุคต้องเผชิญหน้ากับโควิด 19
รังสี UVC คืออะไร? สามารถช่วยยับยั้งเชื้อโรคอะไรได้บ้าง? และ เกี่ยวข้องกับโคมไฟ Philips UVC Disinfection Desk Lamp อย่างไร? มาหาคำตอบกันได้เลยครับ
ในยุคโควิด 19 เราก็พยายามคิดหาหลากหลายวิธี ในการกำจัดเชื้อโรคในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรค เช่น เดทตอล (แบบนี้สามารถทำได้ด้วยตนเอง แต่เหนื่อยหน่อย) หรือ ว่าจ้างบริษัทมาฉีดพ่นฆ่าเชื้อ (แบบนี้อาจจะสะดวกก็จริง แต่ก็แลกด้วยการต้องเสียเงินมากหน่อย โดยส่วนใหญ่ค่าบริการจะคิดเป็นต่อครั้ง ต่อตารางเมตรที่ฉีดพ่น ราคาเริ่มต้นก็หลักสองพันกว่าๆ ขึ้นไป ข้อเสีย คือ ต้องมีการวางแผนฉีดพ่นซ้ำ)
ทั้งสองวิธีที่กล่าวมาข้อจำกัดหลายด้าน เช่น หากที่บ้านมีเด็กเล็ก และ คนชรา ก็จะมีความยุ่งยากในช่วงที่ต้องดำเนินการ และ ในเรื่องค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาฆ่าเชื้อโรค หรือ การว่าจ้างเขามาฉีดพ่นต่อครั้ง ก็ถือว่าหนักเอาการ หากเรามาพิจารณาในมุมของเรื่องค่าใช้จ่ายจะพบว่า
ราคา เดทตอล 5 ลิตร ประมาณ 1,700 บาท หากใช้ทำความสะอาดอย่างต่อเนื่อง สำหรับที่พักอาศัยที่มีพื้นที่ ใช้สอยราวๆ 100-120 ตารางเมตร จะใช้ได้ประมาณ 1 เดือน
ราคาค่าบริการฉีดพ่นฆ่าเชื้อ ต่อครั้ง สำหรับที่พักอาศัยที่มีพื้นที่ใช้สอย ราวๆ 100-120 ตารางเมตร ประมาณ 3,500 บาท แต่อย่างน้อยน่าจะต้องมีฉีดทุกๆ 3-4 เดือน ขึ้นอยู่กับการวางแผน และ ความเสี่ยง
ดังนั้นในหนึ่งปี เราต้องหมดเงินไปหลายหมื่นกับการกำจัดเชื้อโรคในบ้าน แต่ไม่ทำก็คงไม่ได้ เพราะ ณ ขณะนี้ เราเองก็ยังไม่รู้ว่าโควิด 19 จะจบลงอย่างไร และ เมื่อไหร่ เอาเป็นว่าเรื่องเหล่านี้ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำ และ หลีกเลี่ยงได้ยาก
แล้วเรามีทางเลือกอื่นๆ ที่ดีกว่านี้อีกไหม?
ผมเองก็เจอปัญหาเหมือนๆ กับหลายๆ คน เสียเงินไปเยอะกับการดูแล ป้องกัน กำจัดเชื้อโรคในบ้าน เพราะเรามีสมาชิกครอบครัวหลายคน มีทั้งเด็กเล็ก และ คนชราอีกด้วย จนได้มาเจอเรื่องของแสง UV ที่เขาว่าสามารถฆ่าเชื้อไวรัสโควิดได้
รู้หรือไม่? แสง UV ฆ่าไวรัสได้
ในเรื่องของแสง UV มีการพูดถึงกันเยอะมาก โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิดว่าสามารถนำมาฆ่าเชื้อไวรัสได้ จนทำให้มีหลายคนนำหน้ากากอนามัยแบบผ้า ไปตากแดด เพราะเชื่อว่าแสง UV จากดวงอาทิตย์ จะช่วยกำจัดเจ้าเชื้อโควิดได้
นอกจากนี้ก็มีอุปกรณ์ ประเภท UV Sterilizer หรือ เครื่องอบแห้งด้วยแสง UV ฆ่าเชื้อ ออกมาขายมากมาย หลากหลายรูปแบบในท้องตลาด มีทั้งแบบราคาหลักร้อย ยันหลักพันปลายๆ แต่ความน่าเป็นห่วงก็คือ ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของผู้บริโภคกับเรื่องของแสง UV รวมไปถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นหากซื้อมาใช้โดยไม่เข้าใจ หรือ ซื้อสินค้าที่ไม่มีคุณภาพมาใช้
แสง UV ฆ่าเชื้อได้จริงไหม?
แสงจาก UV Lamp ที่สามารถจัดการเจ้าไวรัสได้ ต้องเป็นหลอดไฟที่ให้แสง UV ชนิดที่สามารถกำจัดเชื้อโรคได้เท่านั้น ไม่ใช่พอเห็นเป็นหลอด UV ก็ทึกทักว่าสามารถใช้ได้ทั้งหมด
ดังนั้นเราต้องมาทำความเข้าใจในเรื่องสำคัญกันก่อนว่า แสง UV คืออะไร มีกี่ชนิด และ ชนิดใดที่สามารถฆ่าเชื้อโรค หรือ เชื้อไวรัสได้จริง?
แสง UV เป็นแสงที่มีในธรรมชาติ โดยแหล่งกำเนิดแสง UV ก็คือ จากดวงอาทิตย์ นั้นเอง โดยในแสงอาทิตย์ จะประกอบไปด้วย แสง UV อยู่ 3 ชนิด ดังนี้

UV-A เป็นรังสีที่มีความยาวคลื่น 315 – 400 nm ด้วยเหตุที่ แสงแดดที่ส่องมาถึงโลกของเราจะมี UV-A มากถึง 95% และ UV-A มีความสามารถทะลุทะลวงผ่านกระจก และ ทะลุทะลวงไปทำลายผิวหนังชั้นที่มีคอลลาเจน และอีลาสติน ทำให้คนที่ตากแดดบ่อยๆ เกิดอาการผิวแก่ก่อนวัย รอยเหี่ยวย่น เกิดจุดด่างดำ และยังเป็นต้นเหตุของมะเร็งผิวหนังทุกประเภทอีกด้วย
UV-B เป็นรังสีที่มีความยาวคลื่น 280 – 315 nm ในแสงแดดจะมี UVB อยู่ประมาณ 5% ถึงพลังทำลายจะทำร้ายผิวหนังได้ไม่ลึกเท่า UV-A แต่ UV-B จะเป็นตัวการทำให้ผิวของเราไหม้แดด แสบ แดง เป็นฝ้า เป็นกระ ทำให้ผิวแห้งกร้าน รวมถึงรอยคล้ำ หรือ ก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้เช่นกัน โดยทั้ง UV-A และ UV-B เราสามารถป้องกันได้ด้วยการใช้ โลชั่นกันกันแดดที่มี Protection grade of UVA (หรือ PA) และ Sun Protection Factor (หรือ SPF) สูงๆ
UV-C เป็นรังสีที่มีความยาวคลื่นสั้นและมีพลังงานมากที่สุด มีความยาวคลื่นระหว่าง 100 – 280 nm UV-C เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตทุกประเภท มีความสามารถในการ ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ได้ทั้งไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา และยีสต์ รวมถึงสามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ เนื่องจาก UV-C จะถูกสกัดและกรองออกไปในชั้นบรรยากาศโดยโอโซนก่อนที่จะเดินทางมาถึงโลกและผิวของเรา เราจึงไม่ได้รับผลกระทบหรืออันตรายโดยตรงจาก UV-C ที่มาจากดวงอาทิตย์
จึงมีการสร้างแหล่งกำเนิดรังสี UV-C ขึ้นมาเพื่อใช้ในทางการแพทย์ หรือ เพื่อฆ่าเชื้อโรคในอากาศ และบนพื้นผิววัตถุต่าง ๆ ในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ในโรงพยาบาล หรือ ใช้ในการบำบัดน้ำเสีย หรือ การผลิตน้ำดื่ม เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม UV-C เป็นรังสีที่อันตราย หากได้รับสัมผัสโดยตรง จะทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบและไหม้ และหากได้รับในระดับความเข้มสูงๆ อาจทำให้เยื่อบุตาอักเสบ แสบตา น้ำตาไหล แพ้แสง ตาแดง และ ในระยะยาวอาจจะเกิดต้อลม ต้อกระจก จนต้องสูญเสียความสามารถในการมองเห็นได้
Review Philips UVC Disinfection Desk Lamp
ในที่สุด ก็ต้องมาลองใช้ UV-C Lamp ผมใช้เวลาหาข้อมูล และ ตัดสินใจเลือกอยู่พักใหญ่ ในที่สุดก็ตัดสินใจเลือก Philips โดยซื้อผ่าน Lazada มาลองใช้ดูที่บ้าน

ทำไมผมถึงเลือก UVC Disinfection Desk Lamp ของ Philips ทั้งๆ ที่ก็มียี่ห้ออื่นให้เลือกอีกหลายตัว?
ของแบบนี้ มันเป็นของที่ต้องการความมั่นใจ ความน่าเชื่อถือ ว่าหากใช้แล้วต้องใช้ได้จริง และ ต้องปลอดภัย ไม่มีอันตรายต่อผู้ใช้ และ ต่อสมาชิกในครอบครัว
โดยเฉพาะ ชื่อยี่ห้อ Philips มีความน่าเชื่อถือในตัวอยู่แล้ว เป็นบริษัทระดับโลก มีความเชี่ยงชาญเรื่องหลอดไฟ น่าจะมั่นใจได้ ผมเองก็ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมมาอีกเช่นกัน พบว่า ทาง Philips เขาได้มีการทดลอง หลอด UVC ของเขา ในห้องปฏิบัติการ พบว่าสามาถฆ่าเชื้อไวรัส SARS CoV 2 ได้ 99% ในเวลาเพียง 6 วินาที ดังนั้นเมื่อเทียบเคียงกับเจ้าไวรัสโควิด 19 (โควิด 19 และ SARS เป็นไวรัสโคโรน่า แต่คนละสายพันธุ์กัน) จึงมีความเป็นไปได้สูงมาก ที่รังสี UVC จะสามารถกำจัดเชื้อโควิด 19 ได้

เรื่องความปลอดภัย ต้องมั่นใจได้
UVC Disinfection Desk Lamp มาพร้อมกับ หลอดไฟแสง UV-C ประสิทธิภาพสูง (254nm) และ มีเซ็นเซอร์แบบไมโครเวฟเพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวของบุคคล, สัตว์เลี้ยง, และวัตถุ ในรัศมี 3 เมตร นั่นหมายความว่าหากมีการเคลื่อนไหว ระบบจะหยุดการทำงานทันที

อุปกรณ์ตัวนี้ มี มอก. และ เขารับประกัน 1 ปี อายุหลอดไฟ ก็ประมาณ 9,000 ชัวโมง การใช้งานก็ง่าย ไม่ซับซ้อน มีแค่ไม่กี่ปุ่มกด

ส่วนเรื่องราคา ชุดนึงก็ 2,490 บาท ไม่ได้แพงอย่างที่คิดเลย เราสามารถใช้ยาวๆ ไป สิบปีได้เลย ถือว่าคุ้มค่ามากจริงๆ

เพื่อความเข้าใจมากขึ้น และ จะได้ตัดสินใจเลือกซื้อง่ายขึ้น เราลองมาดูวิดีโอรีวิว ฉบับเต็มกันเลยดีกว่า
หาซื้อได้ที่ : https://shope.ee/9K4WshskbM หรือ ร้าน hardware ชั้นนำทั่วประเทศ
Source:
https://www.lighting.philips.com/main/products/uv-disinfection
https://www.lighting.philips.com/main/products/uv-disinfection