ปัญหาเรื่องการเขียนภาษาอังกฤษ สำหรับคนที่จบสายวิศวะถือว่าเป็นปัญหาเป็นอย่างมาก และผมก็เชื่อว่าสายงานอื่นๆ ก็น่าจะมีปัญหาไม่น้อยเช่นกัน
และ ก็มีน้องๆ หลายคน จากหลากหลายอาชีพ ก็สอบถามผมมาว่า เราจะแก้ปัญหาเรื่องการเขียนภาษาอังกฤษได้อย่างไร ให้ได้ผลลัพธ์ไวๆ เพราะมันมีความจำเป็นต้องรีบใช้ในเรื่องนี้ และ หากจะไปเรียนการเขียนภาษาอังกฤษก็อาจจะใช้เวลานานเกินไป ไม่ทันกับความต้องการในการใช้งานอย่างแน่นอน และ หากไม่สามารถเอาตัวรอดในเรื่องนี้ได้ ผลที่ตามมาก็อาจจะกระทบกับหน้าที่การงานของเราได้
สำหรับเรื่องนี้ ผมเองก็มีปัญหาแบบนี้มาก่อนเช่นกัน เดี๋ยวมาดูเรื่องราวของผม และวิธีการแก้ปัญหาเรื่องการเขียนภาษาอังกฤษ เพื่อการสื่อสารในที่ทำงาน ว่าผมทำได้อย่างไร?
ผมยังจำได้เลยว่า ตอนที่เริ่มต้นทำงานใหม่ๆ กับบริษัทแรก ภาษาอังกฤษของผมจัดว่าแย่เอามากๆ (ซึ่งก็เหมือนคนทำงานส่วนใหญ่ที่มีปัญหาในเรื่องการใช้ภาษาอังกฤษ)
แต่ว่าก็ถือว่าโชคดีที่ได้ทำงานอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีคนต่างชาติ จึงทำให้ตัวเองต้องพยายามฝึกฝนเรื่องของการสื่อสารภาษาอังกฤษ เพราะมันจำเป็น หากไม่ใช้ หรือ ใช้ได้ไม่ดี ก็อาจจะตกงานได้ (ตอนนั้นผมก็พยายามมองบวกเอาไว้ แต่เอาเข้าจริงโคตรกดดันมาก เพราะต้องใช้ภาษาอังกฤษค่อนข้างเยอะ)
ความยาก หรือ จะเรียกว่าเรื่องน่าปวดหัวสำหรับผมในตอนนั้น ก็คือ ปัญหาเรื่องการเขียนภาษาอังกฤษ
เพราะในตอนนั้นตำแหน่งงานของผมมีความจำเป็นต้องใช้การเขียนภาษาอังกฤษค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะกับงานเขียนโต้ตอบเป็นภาษาอังกฤษ
เพราะต้องติดต่อประสานงานทั้งภายใน กับหน่วยงานของบริษัทฯ ในต่างประเทศ และ กับลูกค้าต่างชาติ เป็นต้น งงกับเจ้านายเหมือนกัน ทำไมให้คนอ่อนด้อยภาษาอย่างเรามารับผิดชอบในงานด้านนี้ (ฮา)
พวกเราลองจินตนาการดูนะครับ คนที่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษไม่ดี พูดก็ติดๆ ขัดๆ แล้วการเขียนภาษาอังกฤษ มันจะเป็นยังไง?
“พูดภาษาอังกฤษว่าแย่แล้ว งานเขียนเรืยกว่าหายนะเลยครับ”
เขียนผิดชีวิตเปลี่ยน ด้วยความที่ถูกกดดันที่จะต้องทำ จำเป็นต้องเขียนแบบงูๆ ปลาๆ แบบที่พอจะรู้ ผลที่ตามมา โดนสิครับ โดนตำหนิจากทีมงานต่างประเทศ และ จากลูกค้า ว่าอ่านไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ (สมัยผมทำงานแรกๆ เราใช้ Fax ในการส่ง สื่อสารกัน เพิ่งจะเริ่มมี Email แรกๆ ดังนั้นอย่าฝันเลยว่าจะมี Google เป็นตัวช่วย ฮา)
“อายมากครับ ที่เราไม่สามารถสื่อสารกับเขาได้ แต่ผมก็ยังไม่ถอดใจ ยังอยากจะสู้ ต้องมองหาทางรอด” และ ในที่สุดผมก็เจอ ตัวช่วยชั้นดี
ตัวช่วยเหล่านี้ อยู่ในที่ทำงานของผมนี่เอง… นั่นก็คือ ตัวอย่างจดหมายเก่าๆ ที่ใช้ในการโต้ตอบทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นกับภายใน ภายนอก กับลูกค้า หรือ คู่ค้า เป็นต้น
เช่น จดหมายขอราคา เสนอราคา เขาเข้าพบ สั่งซื้อ สอบราคา จดหมายขอคำแนะนำ ขอความช่วยเหลือ นัดประชุม นัดหมาย หรือ อธิบายปัญหาเรื่องเทคนิค ความล่าช้า หรือ อื่นๆ
ผมก็เริ่มต้นจากการใช้สิ่งที่มี สร้างเป็น Template ใน format ของตัวเอง
ปรับนิดๆ หน่อยๆ แล้วนำมาใช้ ผลที่ตามมาคือ ต่างชาติ ลูกค้าเขาเข้าใจ ว่าเราต้องการจะสื่ออะไร? งานเขียนพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย
ชีวิตการทำงานเปลี่ยนเลย ทำให้ไม่ต้องมาพะวง กังวล กับการเขียนภาษาอังกฤษเหมือนแต่ก่อน (แต่ภายหลังผมก็ไปเรียนเพิ่มเติมนะครับ เพราะอยากเขียนให้ซับซ้อนมากขึ้น จำเป็นแล้วครับต้องไปเรียน)
พอผมย้ายที่ทำงาน ผมก็ทิ้งมรดก Template จดหมายภาษาอังกฤษ เอาไว้ให้น้องๆ ที่เก่าเขาใช้กัน และ ทุกๆ ที่ ที่ผมทำงาน ผมก็จะสร้าง Template ใหม่ๆ เพิ่มไปเรื่อยๆ
เพราะผมรู้น้องๆ คนไทย จะให้เขาไปเรียนเขียนภาษาอังกฤษเพื่อเอามาใช้ในการทำงานได้ทันที คงไม่ทันกิน คงใช้เวลาหลายปีแน่ๆ ดังนั้นเอา Template จดหมายภาษาอังกฤษที่ผมมีให้เขาไปใช้เลยดีกว่า ไวกว่า และเขาก็จะสามารถเอาไปต่อยอดได้เองง่ายกว่าด้วย (เพราะคนไทย เก่งประยุกต์ เก่งดัดแปลงอยู่แล้ว)
ผลลัพธ์ที่ตามมา “ได้ผลดีเช่นเคย ประหยัดเวลาไปเยอะ”
ปัญหาเรื่องการเขียนภาษาอังกฤษ หมดไป เพราะได้ตัวช่วย
น้องๆ ในทีมงาน ก็ไม่ต้องมากดดัน หรือ เสียเวลานานเกินไป กับการร่างจดหมายภาษาอังกฤษ พวกเขาสามารถเอา Template ไปใช้ได้เลย แทบจะใช้ในครบ จบทุกสถานการณ์ ทุกวันนี้ผมออกมาจากที่ทำงานเก่าหลายปีแล้ว แต่พวกเขาก็ยังใช้ Template ของผมอยู่เลย
นั่นแสดงว่า มีประโยชน์ และ ได้ผลจริงๆ
สำหรับเรื่องการเขียนภาษาอังกฤษ ผมคต้องสรุปว่า Template เปลี่ยนชีวิตจริงๆ คนทำงานอย่างพวกเราจริงๆ นะครับ เราสามารถเร่ิมต้น ด้วยการลองไปมองหาดู Template จากตัวอย่างดีๆ ในที่ทำงานของเราก็ได้ หรือ จะหาหนังสือตัวอย่างเขียนจดหมายภาษาอังกฤษมาดูก็ได้
ข้อแนะนำเพิ่มเติม
ปัญหาเรื่องการเขียนภาษาอังกฤษ อย่าลอก Template เพียงอย่างเดียว อยากให้เราค่อยๆ ทำความเข้าใจคำศัพท์แปลกๆ และโครงสร้างประโยค ไปพร้อมๆ กันด้วยนะครับ ต่อไปเราจะได้สามารถพลิกแพลง และ ประยุกต์ Template ที่เราได้มา ให้เหมาะกับงานของเราเองได้ง่ายและไวมากขึ้น
สำหรับน้องๆ หลายๆ คนที่สอบถามมาว่า เวลาที่เราไม่รู้คำศัพท์ มีเว็บไซด์ไหนในการหาคำแปล ที่ใช้ได้ทั้งมือถือ และ จากคอมพิวเตอร์บ้าง? เอาแบบที่เข้าใจง่ายๆ และ ไม่ซับซ้อน
แอดมินใช้ที่นี่ครับ https://dict.longdo.com/ เว็บไซด์นี้แปลเข้าใจง่าย เราสามารถกดปุ่มฟังเขาออกเสียงคำศัพท์ได้อีกด้วย ว่าเขาออกเสียงในแบบที่ถูกต้องอย่างไร?
สุดท้ายอยากให้พวกเราเห็นว่าภาษาอังกฤษจริงๆแล้วไม่ได้ยากอย่างที่เราคิด เพียงแต่เราอาจจะไม่มีวิธีที่ดีกว่า หรือ ไม่มีใครมาแนะนำ ก็เท่านั้นเอง
ดังนั้นหากต้องการให้ ปัญหาเรื่องการเขียนภาษาอังกฤษ หมดไป และ ต้องการเขียนภาษาอังกฤษให้ดียิ่งขึ้น ต้องลองเอาวิธีแบบนี้ ไปทดลองดูนะครับ ถือเป็นอีกแนวทางในการพัฒนางานเขียนเราให้ก้าวหน้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : คนไทยอ่อนภาษาอังกฤษ เพราะสาเหตุใด? และ ควรแก้ไขอย่างไร?