Close Menu
The Practical

    Subscribe to Updates

    Get the latest creative news from FooBar about art, design and business.

    What's Hot

    ประกันสุขภาพจำเป็นหรือไม่? และส่งผลดีต่อคนทำงานในยุคนี้อย่างไร?

    พฤษภาคม 19, 2025

    ประกันสุขภาพของบริษัทใช้ร่วมกับประกันสังคมแต่ยังต้องจ่ายเพิ่มหรือเปล่า?

    พฤษภาคม 19, 2025

    Flashcards สมัยใหม่ ทำให้คุณใช้คำศัพท์ภาษาอังกฤษเป็นทันทีได้อย่างไร?

    กุมภาพันธ์ 7, 2025
    Facebook YouTube Spotify Pinterest
    Facebook YouTube Spotify
    The Practical
    Login
    • Home
    • Work
    • Life
      • Finance and Investment
      • Guarantee
      • Labor Law
      • Real Estate
    • Balance
      • Book Reviews
      • Movie Reviews
      • Product Reviews
    • Sustainability
      • DJSI
      • SDGs
    • People Stories
      • Happy Growth
      • Others
      • Transformative Learning
      • UNMASK STORY
      • Vision Mission
    • InMind
    • Podcast
    The Practical
    • Home
    • Work
    • Life
    • Balance
    • Sustainability
    • People Stories
    • InMind
    • Podcast
    Home»Work»Storytelling for Leader : เปลี่ยนทีมให้เก่งขึ้นด้วย 6 เทคนิคการสื่อสารที่ทรงพลัง
    Work

    Storytelling for Leader : เปลี่ยนทีมให้เก่งขึ้นด้วย 6 เทคนิคการสื่อสารที่ทรงพลัง

    mypilottest01By mypilottest01กันยายน 7, 2024ไม่มีความเห็น2 Mins Read
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr WhatsApp VKontakte Email
    Storytelling for Leader : เปลี่ยนทีมให้เก่งขึ้นด้วย 6 เทคนิคการสื่อสารที่ทรงพลัง
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email

    Storytelling for Leader : เปลี่ยนทีมให้เก่งขึ้นด้วย 6 เทคนิคการสื่อสารที่ทรงพลังที่ผู้นำหรือหัวหน้าควรมีเอาไว้ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง

    ในยุคของการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้นำที่ประสบความสำเร็จไม่ได้มีหน้าที่เพียงแค่สั่งงาน แต่ยังต้องสร้างแรงบันดาลใจและความเข้าใจในทีมผ่านการสื่อสารที่มีพลัง การใช้ Storytelling หรือการเล่าเรื่องเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในการสื่อสารที่เชื่อมโยงทั้งเหตุผลและอารมณ์ให้ทีมรู้สึกมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง

    ตามที่ Simon Sinek กล่าวไว้ในหนังสือ “Leaders Eat Last” การสร้างความเชื่อใจและความผูกพันในทีมเป็นหน้าที่สำคัญของผู้นำ และการเล่าเรื่องสามารถช่วยสร้างพื้นฐานนี้ได้ ลองจินตนาการว่าการเปลี่ยนโครงการหรือแนวทางใหม่จะไม่เจอกับการต่อต้าน หากคุณสามารถอธิบายเรื่องราวที่ทำให้ทีมรู้สึกมีส่วนร่วมและเข้าใจเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง

    ต่อไปนี้คือ 6 เทคนิค ที่จะช่วยให้คุณสามารถใช้ Storytelling ในการเป็นผู้นำอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมตัวอย่างที่เห็นได้จริงในการนำไปใช้ในโลกการทำงาน


    1. เข้าใจกลุ่มเป้าหมายของคุณอย่างลึกซึ้ง (Empathy-Focused Storytelling)

    เรื่องราวที่มีพลังเริ่มต้นจากการรู้จักกลุ่มเป้าหมายของคุณอย่างแท้จริง ผู้นำที่มีทักษะในการเล่าเรื่องที่ดีต้องเข้าใจสิ่งที่ทีมของพวกเขากังวล สิ่งที่พวกเขาต้องการ และสิ่งที่พวกเขาหวัง ตัวอย่างจากหนังสือ “The Power of Story” ของ Jim Loehr แสดงให้เห็นว่าการเล่าเรื่องที่เชื่อมโยงกับอารมณ์และความรู้สึกสามารถผลักดันคนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้

    ตัวอย่าง: ก่อนที่จะเริ่มโปรเจกต์ใหม่ ลองพูดคุยแบบไม่เป็นทางการกับทีมของคุณเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับความวิตกกังวลหรือข้อสงสัย จากนั้นปรับแต่งเรื่องเล่าที่ตรงกับความรู้สึกและ Pain Points ของพวกเขา ตัวอย่างเช่น หากทีมกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยในช่วงการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีใหม่ คุณอาจเล่าเรื่องเกี่ยวกับประสบการณ์ที่คุณเคยประสบกับความไม่แน่นอน แต่ในที่สุดการเปลี่ยนแปลงนั้นทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างไร

    2. ใช้เหตุผลควบคู่ไปกับอารมณ์ (Balance Logic with Emotion)

    ใน “Made to Stick” Chip และ Dan Heath อธิบายว่าเรื่องราวที่มีประสิทธิภาพจะต้องสามารถเชื่อมโยงระหว่างเหตุผลและอารมณ์ได้ ผู้นำควรทำให้ทีมเข้าใจเหตุผลเบื้องหลังของการตัดสินใจทางธุรกิจ และในขณะเดียวกันก็ทำให้พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางนี้

    ตัวอย่าง: สมมติว่าคุณกำลังแนะนำเครื่องมือซอฟต์แวร์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของทีม อธิบายว่าเครื่องมือนี้จะช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มความแม่นยำอย่างไร พร้อมบอกเล่าเรื่องราวความสำเร็จจากบริษัทอื่นที่นำเครื่องมือนี้มาใช้ และพนักงานในบริษัทเหล่านั้นได้เปลี่ยนแปลงชีวิตการทำงานของพวกเขาให้ดีขึ้นอย่างไร

    3. ทำให้เรื่องราวของคุณมีความเป็นมนุษย์ (Humanize Your Story)

    เรื่องเล่าที่ดีต้องมีส่วนที่สื่อถึงความเป็นมนุษย์ “Dare to Lead” ของ Brené Brown กล่าวถึงการแสดงความเปราะบาง (Vulnerability) ว่าเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการสร้างความเชื่อใจ การยอมรับทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวของคุณจะทำให้คนฟังรู้สึกว่าคุณเป็นผู้นำที่เข้าใจและเข้าถึงได้

    ตัวอย่าง: ในขณะที่คุณแบ่งปันเรื่องราวของโครงการที่ประสบความสำเร็จ อย่าลืมเล่าเรื่องราวของความล้มเหลวที่คุณได้เรียนรู้และเติบโตมา การแสดงให้ทีมเห็นว่าความผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโต จะทำให้พวกเขารู้สึกมั่นใจที่จะพยายามและยอมรับความล้มเหลวมากขึ้น

    4. ทำให้เรื่องราวของคุณง่ายแต่ทรงพลัง (Keep It Simple, Yet Powerful)

    การเล่าเรื่องที่ดีไม่จำเป็นต้องซับซ้อน เรื่องราวที่เรียบง่ายแต่ชัดเจนสามารถสร้างผลกระทบได้มากกว่า หนังสือ “Made to Stick” เน้นว่าความเรียบง่ายของเรื่องราวจะช่วยให้ผู้ฟังเข้าใจและจดจำได้ง่ายขึ้น

    ตัวอย่าง: หากคุณต้องการให้ทีมของคุณเปลี่ยนวิธีการทำงานใหม่ อย่าทำให้เรื่องราวซับซ้อนเกินไป แทนที่จะแสดงแผนงานที่ซับซ้อน ลองเล่าเรื่องสั้นๆ เกี่ยวกับความสำเร็จในโปรเจกต์อื่นที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงที่คล้ายกัน และแสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่สำคัญที่เกิดขึ้น

    5. เล่าเรื่องเชิงกลยุทธ์ (Strategic Storytelling)

    ใน “The Storytelling Animal” ของ Jonathan Gottschall อธิบายว่าการเล่าเรื่องที่มีประสิทธิภาพสามารถเป็นเครื่องมือในการสร้างกลยุทธ์ได้ ผู้นำที่มีทักษะจะเชื่อมโยงเรื่องเล่ากับเป้าหมายองค์กรและภาพใหญ่ให้ชัดเจน และให้ทีมมีส่วนร่วมในการสร้างเรื่องราวนั้นด้วย

    ตัวอย่าง: แทนที่จะสั่งงานตรงๆ ลองอธิบายวิสัยทัศน์องค์กรในระยะยาวว่าเป็นอย่างไร และโครงการใหม่จะช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถของทีมอย่างไร จากนั้นให้ทีมมีส่วนร่วมในการวางแผนเชิงกลยุทธ์ เพื่อให้พวกเขารู้สึกว่ามีบทบาทสำคัญในความสำเร็จ

    6. แสดงความถ่อมตนและเปิดใจรับฟัง (Stay Humble and Open to Feedback)

    ผู้นำที่ยอดเยี่ยมไม่เคยลืมว่าความสำเร็จเกิดขึ้นจากความร่วมมือของทุกคน “Leaders Eat Last” ของ Simon Sinek ชี้ให้เห็นว่าผู้นำที่ถ่อมตนและยอมรับฟังความคิดเห็นจะสร้างความไว้วางใจในทีมได้ดีกว่า การยอมรับว่าคุณไม่ได้มีคำตอบทุกอย่างจะทำให้ทีมรู้สึกมั่นใจและเต็มใจที่จะร่วมมือมากขึ้น

    ตัวอย่าง: เมื่อคุณนำเสนอแนวคิดใหม่ อย่าลืมถามความคิดเห็นและเปิดโอกาสให้ทีมได้แสดงความเห็นของพวกเขา การรับฟังและแสดงให้เห็นว่าคุณนำคำแนะนำไปใช้จริง จะทำให้ทีมรู้สึกมีคุณค่าและพร้อมจะทำงานร่วมกับคุณอย่างเต็มใจ


    บทสรุป

    สำหรับ Storytelling for Leader การใช้ทักษะ Storytelling ในการนำทีมเป็นทักษะที่สำคัญมากในยุคปัจจุบัน การเล่าเรื่องไม่ใช่เพียงแค่เครื่องมือในการสื่อสาร แต่ยังเป็นวิธีการสร้างความเข้าใจ ความเชื่อใจ และแรงบันดาลใจที่แท้จริง เรื่องราวที่มีพลังสามารถทำให้ทีมของคุณรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางสู่ความสำเร็จ และพร้อมที่จะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อเป้าหมายร่วมกัน

    การใช้ 6 เทคนิคที่กล่าวถึงในบทความนี้จะช่วยให้คุณสร้างเรื่องเล่าที่ไม่เพียงแต่สร้างความเข้าใจในทีม แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจและความไว้วางใจในฐานะผู้นำให้คุณได้อีกด้วย:

    1. เข้าใจกลุ่มเป้าหมายของคุณ
    2. ใช้เหตุผลควบคู่กับอารมณ์
    3. ทำให้เรื่องราวมีความเป็นมนุษย์
    4. เล่าเรื่องให้เรียบง่ายแต่ทรงพลัง
    5. ใช้การเล่าเรื่องเชิงกลยุทธ์
    6. แสดงความถ่อมตนและเปิดใจรับฟัง

    การเล่าเรื่องที่ดีจะช่วยให้ทีมของคุณเติบโต แข็งแกร่งขึ้น และก้าวข้ามทุกความท้าทายไปด้วยกัน

    บทความแนะนำ

    Leaders Eat Last | 10 บทเรียนสำคัญ ของ Simon Sinek ที่ผู้นำควรรู้

    Storytelling
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr WhatsApp Email
    Previous Articleการจัดการเวลาแนวใหม่ : กลยุทธ์จาก Deep Work โดย Cal Newport
    Next Article Imposter Syndrome: วิธีจัดการและสร้างความมั่นใจด้วย Self-Coaching
    mypilottest01

      Related Posts

      Flashcards สมัยใหม่ ทำให้คุณใช้คำศัพท์ภาษาอังกฤษเป็นทันทีได้อย่างไร?

      กุมภาพันธ์ 7, 2025

      จำไม่ให้ลืม | ทำไมคนที่พูดได้หลายภาษาจำคำศัพท์แล้วไม่ลืม?

      กุมภาพันธ์ 3, 2025

      เคยจำศัพท์ได้ แต่ถึงเวลาเอาออกมาใช้ไม่ได้ แถมลืมง่ายอีกด้วย เคยไหม?

      มกราคม 26, 2025

      รู้วิธีเลือกฝึก ให้ถูกจุด คุณก็สามารถพูดภาษาอังกฤษได้เหมือนมือโปรใน 3 เดือน!

      มกราคม 25, 2025

      Comments are closed.

      Our Picks

      ตั้งเป้าหมายการเงินให้สำเร็จ – วิธีการและเคล็ดลับจากประสบการณ์จริง

      มิถุนายน 22, 2024

      ลาเพื่อพาพ่อแม่ไปหาหมอ หรือ ลาเพื่อไปดูใจพ่อแม่เป็นครั้งสุดท้าย ใช้ลากิจได้

      สิงหาคม 18, 2023

      แผนการเกษียณ ของคน Gen Z ควรเป็นอย่างไร? และต้องเริ่มต้นอย่างไร?

      มิถุนายน 6, 2023

      7 เหตุผลที่ทำให้คนฉลาดหรือคนที่ทำงานหนักไม่ใช่คนที่ประสบความสำเร็จ

      พฤษภาคม 30, 2023
      • Facebook
      • Pinterest
      • Instagram
      • YouTube
      Don't Miss

      ประกันสุขภาพจำเป็นหรือไม่? และส่งผลดีต่อคนทำงานในยุคนี้อย่างไร?

      By willskillพฤษภาคม 19, 20250

      ประกันสุขภาพ หร…

      ประกันสุขภาพของบริษัทใช้ร่วมกับประกันสังคมแต่ยังต้องจ่ายเพิ่มหรือเปล่า?

      พฤษภาคม 19, 2025

      Flashcards สมัยใหม่ ทำให้คุณใช้คำศัพท์ภาษาอังกฤษเป็นทันทีได้อย่างไร?

      กุมภาพันธ์ 7, 2025

      จำไม่ให้ลืม | ทำไมคนที่พูดได้หลายภาษาจำคำศัพท์แล้วไม่ลืม?

      กุมภาพันธ์ 3, 2025

      Subscribe to Updates

      Get the latest creative news from SmartMag about art & design.

      About Us
      About Us

      Your source for the lifestyle news. This demo is crafted specifically to exhibit the use of the theme as a lifestyle site. Visit our main page for more demos.

      We're accepting new partnerships right now.

      Email Us: admin_thepractical@thepractical.co

      Our Picks

      ตั้งเป้าหมายการเงินให้สำเร็จ – วิธีการและเคล็ดลับจากประสบการณ์จริง

      มิถุนายน 22, 2024

      ลาเพื่อพาพ่อแม่ไปหาหมอ หรือ ลาเพื่อไปดูใจพ่อแม่เป็นครั้งสุดท้าย ใช้ลากิจได้

      สิงหาคม 18, 2023

      แผนการเกษียณ ของคน Gen Z ควรเป็นอย่างไร? และต้องเริ่มต้นอย่างไร?

      มิถุนายน 6, 2023
      New Comments
        Facebook YouTube Spotify Pinterest
        • Home
        • Work
        • Life
        • Balance
        • Sustainability
        • People Stories
        • InMind
        • Podcast
        © 2025 Willskill. Designed by Exaalgia.

        Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

        Sign In or Register

        Welcome Back!

        Login to your account below.

        Lost password?