The Toyota 5 Whys Method หรือ เทคนิคการถาม “ทำไม” 5 ครั้ง เป็นเทคนิคการวิเคราะห์ปัญหาที่พัฒนาโดยบริษัท Toyota Motor Corporation ในญี่ปุ่น มีจุดประสงค์เพื่อค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา โดยวิธีการนี้ช่วยให้สามารถเจาะลึกถึงรากเหง้าของปัญหา แทนที่จะแก้ไขเพียงอาการที่ปรากฏ ทำให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากขึ้น
เรียนรู้วิธีแก้ปัญหาในที่ทำงานด้วยคำถามง่ายๆ
มาทำงาน ก็ต้องเจอปัญหา แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่เจอปัญหาแล้วแก้ได้ ทำให้เราต้องเจอกับเครียด อย่างไรก็ตาม คุณรู้หรือไม่ว่าการแก้ปัญหามากมายของเรานั้นอยู่ในคำถามง่ายๆ เพียงคำเดียวที่ว่า “ทำไม?” วิธีการถาม “ทำไม?” แบบโตโยต้า (The Toyota 5 Whys Method) เป็นเครื่องมือที่ตรงไปตรงมาแต่ลึกซึ้งในการระบุสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา ในบทความนี้จะมานำเสนอวิธีการที่สามารถเปลี่ยนชีวิตการทำงานของเราและนำไปสู่ความสำเร็จได้อย่างไร? มาดูตัวอย่างปัญหาทั่วๆ ไปที่คนทำงานมักจะเจอเป็นประจำดังต่อไปนี้
ปัญหาความเครียดถาโถมในชีวิตประจำวัน
ความเครียดเป็นเพื่อนร่วมทางในชีวิตประจำวันของเรา โดยการใช้วิธีการถาม “ทำไม?” เราสามารถค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของความเครียดและดำเนินการแก้ไขได้
ตัวอย่าง: การถาม “ทำไม” 5 ครั้ง พร้อมตัวอย่างคำตอบ
1. ทำไมฉันรู้สึกเครียดทุกเช้า?
- เพราะฉันต้องรีบไปทำงาน
2. ทำไมฉันต้องรีบไปทำงาน?
- เพราะฉันออกจากบ้านในนาทีสุดท้าย
3. ทำไมฉันออกจากบ้านในนาทีสุดท้าย?
- เพราะฉันเข้านอนดึก
4. ทำไมฉันเข้านอนดึก?
- เพราะฉันต้องการผ่อนคลายหลังจากทำงาน
5. ทำไมฉันต้องการผ่อนคลายหลังจากทำงาน?
- เพราะงานของฉันต้องใช้พลังงานมากและฉันไม่หยุดพักระหว่างวัน
การถามตัวเองว่า “ทำไม” 5 ครั้ง นี้เผยให้เห็นว่าการจัดการความเครียดเริ่มต้นด้วยการจัดการเวลาและดูแลตัวเองระหว่างวัน การให้ความสำคัญกับการหยุดพักและกำหนดเวลานอนที่สม่ำเสมอสามารถเปลี่ยนช่วงเช้าของคุณจากความวุ่นวายเป็นความสงบได้
สำหรับเป้าหมายเพื่อลดความเครียดในชีวิตประจำวัน โดยการถามคำถามที่ถูกต้อง เราจะพบว่านิสัยการทำงานดึกดื่นของหลายคนกลายเป็นสาเหตุหลัก หากมีการตั้งเวลากำหนดการทำงานที่ชัดเจนขึ้นและมีแบ่งเวลาให้ความสำคัญกับการพักผ่อนตอนเย็นบ้าง จะพบว่าช่วงเช้าของการทำงานจะทำให้มีเครียดน้อยลงได้
ค้นหาสาเหตุที่แท้จริงเบื้องหลังความล้มเหลวของโครงการ
เมื่อโครงการล้มเหลว มันไม่เพียงแค่ทำให้ผิดหวัง แต่ยังเป็นการกระทบต่อความมั่นใจในตนเองของเรา การใช้วิธีการถาม “ทำไม?” เราสามารถแยกแยะความล้มเหลวเหล่านี้เพื่อทำความเข้าใจและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต
ตัวอย่าง: การถาม “ทำไม” 5 ครั้ง พร้อมตัวอย่างคำตอบ
1. ทำไมโครงการล่าสุดของเราถึงล้มเหลว?
- เพราะเราพลาดเป้าหมายยอดขาย
2. ทำไมเราถึงพลาดเป้าหมายยอดขาย?
- เพราะผลิตภัณฑ์ของเราไม่ตรงตามความต้องการของลูกค้า
3. ทำไมผลิตภัณฑ์ของเราไม่ตรงตามความต้องการของลูกค้า?
- เพราะเราไม่ได้ทำการวิจัยตลาดอย่างละเอียด
4. ทำไมเราไม่ได้ทำการวิจัยตลาดอย่างละเอียด?
- เพราะเรากำลังรีบเปิดตัวผลิตภัณฑ์
5. ทำไมเรากำลังรีบเปิดตัวผลิตภัณฑ์?
- เพราะเราต้องการเอาชนะคู่แข่ง
โดยการค้นหาสาเหตุที่ลึกลงไปนี้ ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าการให้เวลากับการวิจัยตลาดที่ถูกต้องและการกำหนดเวลาโครงการที่สมจริงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จ การเข้าใจนี้ช่วยให้เราปรับปรุงกระบวนการและผลลัพธ์ของเราได้ดีขึ้นในการทำโครงการถัดไปได้
การสร้างสมดุลชีวิตการทำงาน
เรื่องของสมดุลชีวิตการทำงานเป็นเป้าหมายที่สำคัญแต่ทำได้ยากมากสำหรับหลายคน วิธีการถาม “ทำไม?” สามารถช่วยให้เราระบุอุปสรรคที่แท้จริงในการบรรลุสมดุลนี้
ตัวอย่าง: การถาม “ทำไม” 5 ครั้ง พร้อมตัวอย่างคำตอบ
1. ทำไมฉันรู้สึกเหนื่อยล้า?
- เพราะฉันทำงานนานเกินไป
2. ทำไมฉันทำงานนานเกินไป?
- เพราะฉันมีงานมากเกินไป
3. ทำไมฉันมีงานมากเกินไป?
- เพราะฉันไม่มอบหมายงาน
4. ทำไมฉันไม่มอบหมายงาน?
- เพราะฉันรู้สึกว่าต้องรับผิดชอบทุกอย่าง
5. ทำไมฉันรู้สึกว่าต้องรับผิดชอบทุกอย่าง?
- เพราะฉันต้องการพิสูจน์คุณค่าของตนเองที่ทำงาน
การถาม “ทำไม” 5 ครั้ง นี้เน้นให้เห็นถึงความสำคัญของการมอบหมายงานและการตั้งขอบเขตของการทำงาน การรับรู้ว่าการทำงานเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพและการดูแลตนเองเป็นส่วนประกอบสำคัญของประสิทธิภาพที่ยั่งยืนและความเป็นอยู่ที่ดีส่วนตัวเป็นกุญแจสำคัญในการบรรลุความสมดุลได้
คำแนะนำ: ในขณะที่ใช้วิธีการถาม “ทำไม?” คุณอาจเผชิญกับความท้าทาย เช่น การหยุดถามเร็วเกินไปหรือไม่ซื่อสัตย์กับคำตอบของคุณ จำไว้ว่าจุดมุ่งหมายคือการขุดลึกและพูดความจริง การกลับไปทบทวนคำตอบของคุณเป็นระยะๆ สามารถช่วยปรับปรุงความเข้าใจของคุณได้
บทสรุป
วิธีการถาม “ทำไม?” แบบโตโยต้าเป็นเครื่องมือที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังในการค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาในชีวิตประจำวันของเรา โดยการถาม “ทำไม?” อย่างสม่ำเสมอ เราสามารถมองปัญหาออกและค้นพบความเข้าใจเชิงลึก
วิธีนี้ไม่เพียงแก้ไขปัญหาได้ทันที แต่ยังส่งเสริมความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับพฤติกรรมและการตัดสินใจของเรา นำไปสู่การปรับปรุงที่ยั่งยืนในชีวิตการทำงานของเราได้
บทความแนะนำ:
Time Management Skills ทักษะที่ช่วยให้เรามีสมุดลทั้งชีวิตและการทำงาน
One Easy Habit – หนึ่งนิสัยง่ายๆ ที่จะทำให้คุณมีความสุขกับงานที่ทำ