
Top 6 Skills หรือ ทักษะ 6 อันดับแรกที่นายจ้างกำลังมองหาสำหรับผู้สำเร็จการศึกษาล่าสุดในปี 2022 สำหรับบัณฑิตหน้าใหม่ทุกคนทั้งที่กำลังจะจบ หรือ กำลังจะรับปริญญา หรือจบมาแล้ว แต่เจอวิกฤตโควิด-19 ทำให้การสมัครงานถูกเลื่อนออกไป ทุกคนมักถูกสอนให้ปั้นเกรดเฉลี่ยงามๆ ตั้งแต่เริ่มเรียนหนังสือตอนเป็นเด็ก จนกระทั่งเข้าปีแรกในมหาวิทยาลัย จนกระทั่งเรียนจบ สิ่งเหล่านี้มันพิสูจน์และการันตีได้หรือไม่ว่าเราจะได้งานที่ดี 100%?
“ข่าวร้าย คือ ตอนนี้นายจ้างให้ความสนใจเกรดเฉลี่ยของผู้สมัครงานน้อยลงกว่าที่เคยเป็น”
นี่ฟังดูเหมือนข่าวร้าย ใช่แล้วล่ะ มันคือข่าวร้ายแน่นอนหากบัณฑิตคนไหนยังคงหลงไหลภาคภูมิใจกับการเรียนจบมาด้วยเกรดเฉลี่ยแสนสวยแล้วคิดว่าแค่นี้คงจะพอแล้วสำหรับการสมัครงานหรือหางานทำ “เกรดดีขนาดนี้ สมัครงานที่ไหน ใครๆ ก็รับ” แต่ผิดแล้ว หากคุณครูคนไหนยังคงสอนให้เด็กมีความคิดและเป้าหมายแบบนี้อยู่ เพราะฉะนั้นข่าวดีคือในปัจจุบันมีนายจ้างจำนวนน้อยลงเรื่อยๆ ที่ยังคงให้ความสนใจเกรดเฉลี่ยของผู้สมัคร แล้วถ้าเกรดไม่ใช่ข้อได้เปรียบที่จะทำให้ได้งาน แล้วเรื่องอะไรกันล่ะที่จะทำให้เรามีข้อได้เปรียบ
“นายจ้างเขากำลังมองหาอะไรจากบัณฑิตที่เพิ่งจบใหม่?”
ตามรายงานล่าสุดจาก National Association of Colleges and Employers (NACE) ระบุว่ามีนายจ้างที่ตั้งใจจะคัดกรองผู้สมัครที่เพิ่งจบใหม่โดยใช้เกรดเฉลี่ยเป็นเกณฑ์เหลือเพียง 37% เท่านั้น ซึ่งลดลงจากปีที่ผ่านมาถึง 73.3% เลยทีเดียว Shawn VanDerziel ผู้อำนวยการบริหารของ NACE กล่าวว่านี่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ส่งสัญญาณให้รู้ว่าการคัดกรองโดยใช้เกรดเฉลี่ยทำให้ความพยายามในการสร้างและพัฒนาบุคลากรลดลง
“ในฐานะผู้สำเร็จการศึกษา คุณต้องเข้าใจอยู่แล้วว่าทำไมเกรดถึงตัดสินใจศักยภาพในการทำงานไม่ได้”
การเปลี่ยนแปลงที่ได้จาก NACE ทำให้เราเห็นว่าอุตสาหกรรมการทำงานกำลังเปิดกว้างและมองโลกตามความเป็นจริงมากยิ่งขึ้น หากเปรียบเทียบกับเมื่อก่อนแล้ว เด็กทุกคนจะถูกตัดสินว่าเก่งหรือไม่เก่งจากตัวเลขเกรดเฉลี่ยกันทั้งนั้น แต่ในฐานะของผู้สำเร็จการศึกษา บัณฑิตทุกคนรู้ดีว่านี่มันไม่แฟร์เลยสักนิดที่จะตัดสินกันด้วยตัวเลขเกรดเฉลี่ยเพียงอย่างเดียว ยังคงมีเด็กที่ทำงานส่วนอื่นและรับผิดชอบในเรื่องอื่นๆ ได้ดีในขณะเรียนหนังสือซึ่งเป็นความสามารถที่อาจถูกพัฒนาให้เป็นประโยชน์ต่อองค์กรได้ แต่ความสามารถในด้านเหล่านี้ กลับไม่ได้ถูกตีค่าเป็นตัวเลขเกรดเฉลี่ยออกมาให้รับรู้ในใบแสดงผลการศึกษา
แล้วตอนนี้คำถามของเราก็คือ นายจ้างเขากำลังมองหาอะไรกันอยู่จากตัวผู้สมัคร?
จากการสำรวจพบว่ามี 6 สุดยอดทักษะ ที่นายจ้างให้ความสำคัญมากและกำลังมองหาจากบัณฑิตใหม่สำหรับปี 2022 ดังต่อไปนี้
ทักษะที่ 1: ทักษะการแก้ปัญหา
มีนายจ้างมากกว่า 61.4% กล่าวว่า ทักษะนี้เป็นทักษะที่สำคัญมากหรือสำคัญมากที่สุดเลยก็ว่าได้ พวกเขาต้องการพนักงานที่สามารถบอกได้ว่าปัญหาคืออะไร? และสามารถหาทางแก้ไขของปัญหาเหล่านั้นได้ ไม่ว่าวิชาเอกของคุณคือวิชาอะไร? หรือ คุณได้เกรดเฉลี่ยเท่าไรจากวิชานั้น คุณต้องประเมินแง่มุมต่างๆ ของปัญหาที่เกิดขึ้นได้ แล้วตัดสินใจเลือกวิธีการที่เป็นไปได้มากที่สุดในการหาคำตอบและสรุปผล แน่นอนว่าต้องมีแผนสำรองสำหรับการตัดสินใจพลาดเอาไว้ด้วย ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญทั้งหมดของกระบวนการแก้ปัญหา
ทักษะที่ 2: ความสามารถในการทำงานเป็นทีม
นายจ้าง 61% มองหาความสามารถในการทำงานเป็นทีมจากตัวผู้เข้าสมัครทั้งหมด เพราะแน่นอนว่างานบริษัทไม่ใช่งานที่เราจะทำคนเดียวได้ ดังนั้นพนักงานที่เข้ามาจึงควรมีทักษะการทำงานเป็นทีมพกติดตัวมาด้วย ซึ่งในขณะที่คุณยังเรียนอยู่ คุณสามารถฝึกฝนทักษะนี้ได้จากตอนการทำงานกลุ่ม หรือการเล่นกีฬาแบบทีม จะมีทั้งผู้เล่นที่ถูกใจและไม่ถูกใจ แต่การอยู่ร่วมกับพวกเขาได้และทำงานสำเร็จลุล่วงได้ นั่นแหละคือ ทักษะการทำงานเป็นทีมที่นายจ้างเขาต้องการ
ทักษะที่ 3: มีจรรยาบรรณในการทำงานสูง
นี่อาจจะเป็นสิ่งที่มีได้ยากหน่อย เพราะตัวคุณเองก็เพิ่งเรียนจบ แต่ 52.4% ของนายจ้างเขาให้ความสำคัญและมองหาคนที่มีจรรยาบรรณในการทำงาน ถ้าคุณสงสัยว่ามันคืออะไร? มันเหมือนกับตอนที่คุณกำลังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย คุณมีการเรียนทั้งนอกและในหลักสูตร คุณมีการสอบกลางภาคและปลายภาค คุณการบ้านส่วนตัว งานกลุ่ม และวิจัยจบการศึกษาที่ต้องทำ หากคุณผ่านมันมาได้หมายความว่าคุณเรียนรู้วิธีการทำงานหนักและการทำสิ่งต่างๆให้สำเร็จด้วยตัวคุณเอง สิ่งนี้คือวิธีการฝึกฝนจรรยาบรรณในการทำงานที่มหาวิทยาลัยมอบให้กับคุณแบบอ้อมๆ (แม้มหาวิทยาลัยเองก็อาจจะไม่ได้ตั้งใจ)
ทักษะที่ 4: ทักษะการวิเคราะห์เชิงปริมาณ
นี่เป็นทักษะที่จะช่วยในด้านการทำงานของคุณได้เป็นอย่างมาก การค้นหา ประเมิน วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อตัดสินใจแก้ปัญหาต่างๆ ล้วนเริ่มจากการวิเคราะห์เชิงปริมาณทั้งนั้น จึงมีนายจ้างต้องการคนที่มีทักษะนี้มากกว่า 50.4% เลยทีเดียว นึกย้อนกลับไปตอนที่ยังเรียน คุณต้องใช้การวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับสูตรมากมายที่ต้องท่องเข้าห้องสอบ ไม่ว่าจะเป็นการคำนวณหรือการวิเคราะห์เชิงธุรกิจ อีกทั้งยังต้องรวบรวมข้อมูลมากมายเพื่อวิเคราะห์แล้วจำแนกว่าใช้ได้หรือไม่ใช่วิจัยก่อนจบ หากคุณดึงมันมาใช้ในการทำงานได้คุณจะมีทักษะในการทำงานที่เหนือคนอื่นมากเลยทีเดียว
ทักษะที่ 5: ทักษะในการสื่อสาร
ทักษะนี้เป็นทักษะที่เราคงไม่ได้แปลกใจมากนัก เพราะไม่ว่าจะทำงานหรือเรียนหนังสือ เรื่องของการสื่อสารเป็นสิ่งที่จำเป็นและต้องทำให้ดีเสมอ มันสามารถเป็นตัวช่วยในการเพิ่มมูลค่าแต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นตัวลดมูลค่าตัวคุณได้เช่นกัน นายจ้างกว่า 50% มองหาผู้สมัครที่มีการสื่อสารที่ดีเยี่ยม เพราะทักษะในการสื่อสารครอบคลุมทุกวิถีทาง คุณอาจแบ่งปันหรือรับข้อมูลจากผู้อื่น ร่วมในการอภิปรายงานต่างๆ นำเสนอ ส่ง Email หรือเอกสารที่ต้องส่งทั้งภายในและนอกบริษัท ทั้งหมดนี้ล้วนถูกครอบคลุมเอาไว้ในการสื่อสารทั้งสิ้น
ทักษะที่ 6: ทักษะทางเทคนิค
นายจ้าง 50% มองหาเด็กจบใหม่ทีมีทักษะทางเทคนิค หรือทักษะในการใช้เทคโนโลยีบางประการ หรือมีวิธีการ หรือเทคนิคเฉพาะเกี่ยวกับเทคโนโลยีนั้นๆ ที่มีประโยชน์ต่อบริษัท เช่น การสร้างสูตรใน Excel การเขียนโค้ดใน JavaScript หรือ การปรับอัตรา Conversion ให้เหมาะสมสำหรับแคมเปญการตลาดออนไลน์ เป็นต้น
บทสรุป
เมื่อเวลาเปลี่ยน ยุคสมัยเปลี่ยน เป็นโชคดีของเด็กรุ่นใหม่ที่ได้เติบโตมาในยุคที่อุตสาหกรรมการทำงานปรับตัวให้เข้ากับโลกมากยิ่งขึ้น อาศัยความเข้าใจมากยิ่งขึ้น เพราะหากเรามองย้อนกลับไป 10-20 ปีก่อน คงเป็นเรื่องยากที่จะไม่ถูกถามถึงเกรดเฉลี่ยตอนสมัครงาน หรือตอนรับประทานอาหารในวันรวมญาติของครอบครัว
มีวีรบุรุษ ตำนาน นักคิดค้น หรือบุคคลตัวอย่างที่ยกย่องมากมายในอดีตที่แสดงให้เห็นว่าการเรียนของพวกเขาไม่ได้เป็นอุปสรรคในการพัฒนาตัวเอง ไม่ได้ขัดขวางในการสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ หรือทำให้พวกเขาไม่ได้เป็นคนเก่ง เพราะฉะนั้นการที่นายจ้างส่วนใหญ่เปลี่ยนความคิดจากเกรดเฉลี่ยเป็นทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานจริงเป็นการเปิดโอกาสให้ทั้งตัวบัณฑิตและบริษัทเองที่จะได้มีบุคลากรที่มีคุณภาพอย่างแท้จริงในการทำงาน และสามารถสร้างผลงานขับเคลื่อนบริษัทให้ก้าวหน้าต่อไปได้จริง
หากคุณเป็นหนึ่งในบัณฑิตที่มี 6 สุดยอดทักษะอยู่ในตัวแล้ว อวดมันให้นายจ้างหรือผู้สัมภาษณ์เห็นอย่างภูมิใจ แต่การอวดทักษะเหล่านี้อาจจะต้องใช้ชั้นเชิงนิดหน่อยเพราะเราไม่สามารถเขียนมันโต้งๆเหมือนตัวเลขเกรดได้ ให้คุณเริ่มต้นบริษัทที่คุณสมัครต้องการอะไร เน้นทักษะที่ตรงกับที่บริษัทตรงการลงในเรซูเม่ ใช้ประโยชน์จากหัวข้อการฝึกงานหรืองานนอกเวลา บอกเล่าประสบการณ์ที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัท ไม่จำเป็นจำต้องเป็นการทำงานที่ได้เงินเท่านั้น คุณสามารถเขียนกิจกรรมนอกหลักสูตรหรือค่ายอาสาสมัครลงไปได้ เชื่อมโยงการศึกษากับประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาในบทบาทที่คุณสมัครเข้าไป และเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการตอบคำถามในตอนสัมภาษณ์งาน แค่นี้คุณก็จะกลายเป็นบัณฑิตที่มีสุดยอด 6 ทักษะที่นายจ้างต้องการแล้ว
Reference:
Top 6 Skills Employers Are Looking for in Recent Grads in 2022
บทความแนะนำ:
Smart Questions – ฉลาดในการตั้งคำถาม เพิ่มโอกาสสำเร็จในการสัมภาษณ์งาน