ไอเดียดีๆ ถึงไม่เกิดขึ้นในที่ทำงาน เพราะเหตุใด?-thepractical.co

เพราะเหตุใด ทำไม ไอเดียดีๆ ถึงไม่เกิดขึ้นในที่ทำงาน ปัญหาเกิดขึ้นที่ส่วนไหนกันแน่ ระหว่าง คน สิ่งแวดล้อม หรือ องค์กร ที่ทำให้พนักงานไม่สามารถคิดไอเดีย ใหม่ๆ หรือ ดีๆ ออกมาได้

หลายองค์กรบอกว่า ความคิดสร้างสรรค์ เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ในการขับเคลื่อนธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่กำลังเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลง ที่นับวันก็มีระดับความรวดเร็วและรุนแรงมากขึ้นทุกที พวกเขาคาดหวังว่าพนักงานของพวกเขาจะมีความคิดสร้างสรรค์ สามารถคิดไอเดียใหม่ๆ เพื่อมากอบกู้สถานการณ์ หรือ นำพาธุรกิจ และ องค์กรให้รอดพ้นจากวิกฤติครั้งนี้ไปได้

แต่เอาเข้าจริง กลับตรงกันข้าม พนักงานส่วนมาก กลับไม่สามารถ มองหาไอเดียใหม่ๆ หรือ สร้างแรงบันดาลใจเพื่อคิดอะไรใหม่ๆ ในที่ทำงานได้

“ทำไม ไอเดียดีๆ ถึงไม่เกิดขึ้นในที่ทำงาน?”

ก็เพราะที่ทำงาน มันไม่ทำให้ไอเดียดีๆ หรือ ไม่ส่งเสริมให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ จะว่าไปแล้ว ก็มีหลากหลายปัจจัยที่ทำให้เราคิดงานดีๆ หรือ คิดไอเดียดีๆ ไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่น

“งานของเราอาจจะเยอะเกินไป”

ด้วยปริมาณงานที่เยอะ มีทั้งงานเร่ง งานด่วน งานสำคัญมากมายเข้ามาเต็มไปหมดในแต่ละวัน นี่ยังไม่รวมจำนวนของ Meeting ที่เราต้องเข้าร่วมอีก แค่บริหารจัดการงานในแต่ละวันให้จบ ก็แทบจะลำบากแล้ว หากเป็นแบบนี้ เราจะมีเวลาว่างที่จะคิดหาอะไรใหม่ๆ หรือ ไอเดียใหม่ๆ ได้อย่างไร? แต่บางคนงานอาจจะไม่ได้เยอะจริง แต่ดันเอาเวลาไปใช้เยอะกับเรื่องคนอื่น แบบนี้มันก็ยากที่จะคิดไอเดียใหม่ๆ ได้เช่นกัน

“เราติดอยู่ใน Comfort Zone นานเกินไป”

บางครั้งการทำงานเดิมๆ ตำแหน่งเดิมๆ เนื้องานเดิมๆ มานานเกินไป ก็ทำให้ต่อมความคิดสร้างสรรค์ของเราฝ่อได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่ติดอยู่ใน Comfort Zone มานาน จะมีภาวะที่เป็น Fixed Mindset ค่อนข้างเยอะ กล่าวคือ กลัวพลาด กลัวเสียหน้าหากทำผิดพลาด จึงไม่ชอบทำอะไรเสี่ยงๆ หรือ ไม่กล้าคิดนอกกรอบ ทางเลือกก็คือ เลือกทำแบบเดิมดีกว่า ไม่ต้องคิดหาไอเดียใหม่ๆ จะได้ไม่ต้องเอาหน้าที่การงานไปเสี่ยง

“เพื่อนร่วมงานน่าเบื่อ”

ทำงานที่เดิม นานๆ ยังไม่พอ แถมต้องทำงานกับเพื่อนร่วมงานกลุ่มเดิมๆ อีก ยิ่งทำให้ยากที่จะเกิดความคิดสร้างสรรค์ เพราะทุกคนก็ทำงานเดิมๆ ในบริบทเดิมๆ มานานพอๆ กับเราเช่นกัน หากเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ บอกได้เลยว่าไม่มีทางที่จะคิดไอเดียอะไรใหม่ๆ ได้ นอกจากนี้ หากเรามีเพื่อนร่วมงานที่น่าเบื่อ แบบ มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ หรือ แต่ละคนเป็นประเภททำงานด้วยแล้วเพลียใจ รับรองไม่มีทางคิดอะไรในแบบที่สร้างสรรค์ได้อย่างแน่นอน

“เจ้านายน่าเบื่อ”

เจ้านายก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหา ที่ทำให้ความคิดสร้างสรรค์ไม่เกิดในองค์กร เพราะเจ้านายนี่แหละ เป็นตัวการหลักเลยที่ทำลายความคิดสร้างสรรค์ในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในเรื่องของการบริหารงาน หรือการดูแลทีมงาน เช่น เจ้านายที่ทำงานแบบจ้องจับผิด หรือ ไม่ให้โอกาสทีมงานในการแสดงความคิดเห็น เพราะยึดถือความคิดของตนเองเป็นใหญ่ หรือ เลือกปฏิบัติ ทำดีกับพวกพ้องของตน ประเด็นเหล่านี้ ก็เป็นตัวสกัดกั้นความคิดสร้างสรรค์ของพนักงานเช่นกัน เราจะเห็นกันได้ในหลายๆ ที่ พนักงานมีไอเดียดีๆ แต่ไม่อยากจะนำเสนอเจ้านาย เพราะกลัวว่าหากเสนอไป ไม่ถูกใจเจ้านายก็โดนตำหนิอยู่ดี พวกเขาจึงเลือกไม่เสนอซะดีกว่า และ เลือกที่จะทำตามสั่งเพียงอย่างเดียว

“วัฒนธรรมการทำงานมันน่าเบื่อ”

หลายองค์กร ก็มีวัฒนธรรมการทำงานที่ไม่เอื้อต่อการสร้างความคิดสร้างสรรค์ เช่น ไม่เปิดโอกาสในเด็กได้แสดงความคิดเห็น หรือ นำเสนอแนวทางใหม่ๆ หรือ ยึดติดกับการทำธุรกิจด้วยวิธีการและแนวทางแบบเดิมๆ ที่เคยทำมาในอดีต หรือ ไม่ชอบทำอะไรที่ดูแล้วแตกต่างจากเดิม หรือผู้บริหารยึดติดกับความคิดเห็นตนเอง หรือ นโยบายของตนเองเป็นใหญ่ สิ่งเหล่านี้ส่งผลกับพนักงานอย่างเราๆ เต็มๆ เพราะมันเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเสนอความคิดใหม่ๆ ไอเดียๆ ล้ำๆ กับองค์กรที่มีวัฒนธรรมแบบนี้

“บรรยากาศทำงานมันน่าเบื่อ”

บรรยากาศที่ทำงานของเรามันไม่อำนวย ที่ทำงานอาจจะเต็มไปด้วยเอกสาร พื้นที่ทำงานก็น้อย ที่ทำงานบางที่ก็เก่า แถมพื้นที่ส่วนกลางก็อาจจะไม่เพียงพอ ห้องประชุมก็ต้องแย่งกันใช้ ส่ิงเหล่านี้ก็สร้างปัญหาทำให้พนักงานอย่างเรา ขาดแรงบันดาลใจในการคิดไอเดียใหม่ๆ เช่นกัน

“ทำไม ไอเดียดีๆ มักจะมาตอนที่เราไม่ได้อยู่ที่ทำงาน”

ก็เพราะเราไม่ได้อยู่กับเรื่องเดิมๆ บรรยากาศเดิมๆ คนเดิมๆ ปัญหาเดิมๆ ที่ล้วนมีผลทำให้เราไม่อยากคิดอะไรใหม่ๆ สมองของเราจำเป็นต้องเติมสิ่งใหม่ๆ เข้าไปบ้าง เช่น การอ่านหนังสือ หรือ การได้เจอกับผู้คนกลุ่มใหม่ๆ หรือ การออกไปเปิดหูเปิดตา หรือ ทำกิจกรรมใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน ก็ถือเป็นการกระตุ้นทำให้เราเกิดความคิดสร้างสรรค์ได้เช่นเดียวกัน

การเปลี่ยนสถานที่ในการทำงาน มีผลต่อความคิดสร้างสรรค์ได้เช่นเดียวกัน ในยุคนี้หลังจากการเกิดโควิด หลายๆ องค์กร ก็เปิดกว้างมากขึ้น อนุญาตให้พนักงาน สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ เราจึงเห็นร้านกาแฟมากมายในห้างสรรพสินค้า หรือ ในที่อื่นๆ เต็มไปด้วยคนทำงาน ที่มานั่งทำงาน หรือ มาพบปะ พูดคุยเรื่องงานกันเยอะมากขึ้น

แต่ก็มีหลายคน เลือกที่จะใช้พื้นที่ที่บ้าน ในการทำงาน อาจจะเป็นเพราะด้วยความสะดวก จะได้ไม่ต้องเดินทาง หรือ เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด พวกเขาจึงเลือกพื้นที่บางส่วนที่บ้าน ปรับเป็นพื้นที่ทำงาน และ คิดสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ

“ปรับเปลี่ยนพื้นที่บ้านของเราอย่างไร ให้ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์”

ยุคนี้เราสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่บ้านของเรา เช่น น้องรับแขก หรือ ห้องนั่งเล่น ให้สามารถใช้งานได้หลากหลายวัตถุประสงค์ได้ อาจจะเพิ่มเติมเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นบางส่วน หรือ ปรับแต่ห้องด้วยการทาสี ยกตัวอย่างเช่น

รูปที่ 1: ปรับพื้นที่ที่บ้านให้กลายเป็นพื้นที่สร้างสรรค์

สีเขียว ช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ มีงานวิจัยจาก Ludwig-Maximilians University ได้ทำงานทดลองและพบว่า สีเขียว คือ สัญญาณของการเติบโต หมายถึงการพัฒนา ต่อยอด และ มีส่วนกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ได้

ไอเดียดีๆ ถึงไม่เกิดขึ้นในที่ทำงาน — รูปที่ 2: ปรับพื้นที่ทำงานที่บ้านด้วยการเพิ่มสีเขียว

นอกจากนี้ยังมีการศึกษาเพิ่มเติมจากนักวิจัยจาก University of Michigan ได้ทำการทดลองและพบว่า นักศึกษาสามารถคิดไอเดียใหม่ๆ ในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้เยอะมาก หลังจากที่ได้เดินเข้าไปชมสวนธรรมชาติ เมื่อเทียบกับ นักศึกษาที่แค่ออกไปเดินนอกห้อง หรือ ไปออกกำลังกาย

รูปที่ 3: ปรับพื้นที่ส่วนกลางที่บ้านด้วยการเพิ่มสีเขียว

ดังนั้น สีเขียว (หรือเฉดสีเขียว) เหมาะมากที่จะใช้ทาในพื้นที่ที่บ้าน หรือ ที่ทำงาน เพราะเป็นสี ที่ช่วยกระตุ้นทั้งความคิดสร้างสรรค์ส่วนบุคคล และ ยังมีประโยชน์ในการระดมสมองกับทีมในการคิดหาไอเดียใหม่ๆ อีกด้วย

สำหรับใครที่กำลังมองหาความคิดสร้างสรรค์ และต้องการปรับแต่งบ้านให้เป็นแหล่งสร้างไอเดียใหม่ๆ

ที่นี่เลยกับทาง DULUX https://www.dulux.co.th/th/decorating-tips-and-advice/preview-service

เขามีบริการรับออกแบบสีบ้านให้เราฟรี โดยเราสามารถส่งรูปห้องของเราไปให้ทางทีมออกแบบของ DULUX เขาจะออกแบบสีห้องกลับมาให้เราเลือกภายใน 48 ชั่วโมง เลือกได้ตามใจชอบ ทำให้มั่นใจว่าได้สีที่เหมาะกับโจทย์ความต้องการของเราเอง