7 เหตุผลที่ทำให้คนฉลาดหรือคนที่ทำงานหนัก อาจจะไม่ใช่คนที่ประสบความสำเร็จ เพราะจากข้อเท็จจริงในชีวิตจริงก็ได้ชี้ให้เห็นแล้วว่าความฉลาดหรือการทำงานหนักไม่ได้เป็นหลักประกันเลยว่าเราจะประสบความสำเร็จ ดังนั้นเพื่อให้เราเข้าใจในเรื่องนี้มากขึ้น มาอ่านต่อกันได้กับบทความนี้
ตั้งแต่เด็กเรามักถูกพร่ำสอนให้เป็นเด็กที่ตั้งใจเรียน เพราะเด็กที่ตั้งใจเรียนจะกลายเป็นเด็กฉลาด แม้แต่ตัวเราเองก็ยังมองว่าคนที่ตั้งใจอ่านหนังสือสอบอย่าขมักเขม้นจะต้องเป็นเด็กที่ได้คะแนนท็อปของห้องตอนสอบปลายภาคแน่ๆ ราวกับว่ามันคือสูตรสำเร็จที่เราถูกตั้งค่าไว้ว่าถ้าขยันจนฉลาดและได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี คนคนนั้นจะต้องประสบความสำเร็จแน่นอน
แต่เมื่อเราก้าวเข้าสู่การทำงาน เราจะเห็นพบว่าความจริงไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป มีตัวแปรมากมายที่ทำให้ความฉลาดและการทำงานอย่างหนักไม่ได้นำพาความสำเร็จมาให้เสมอไป ก่อนอื่นเลยความสำเร็จที่ทุกคนโหยหาอาจจะแตกต่างกันออกไป แต่หากอธิบายให้เป็นกลางและเข้าใจง่ายมันคือชีวิตที่เรามีหน้าที่การงานตามที่หวัง มีครอบครัวที่อบอุ่นโดยที่ยังมีสุขภาพที่ดีอยู่ แล้วอะไรจะเป็นสาเหตุให้คนฉลาดที่ทำงานอย่างหนักไปไม่ถึงความสำเร็จเหล่านี้ได้กัน
7 เหตุผลที่ทำให้คนฉลาดหรือคนที่ทำงานหนัก ไม่ประสบความสำเร็จ ถึงแม้ว่าคุณจะฉลาดและทำงานหนัก มีดังต่อไปนี้
1. คุณไม่เปิดใจเข้าหาคนใหม่ๆ
เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วที่เราจะยึดติดอยู่กับคนเดิมๆ เช่น เพื่อนกลุ่มเดิม ทีมงานเดิม หรือหัวหน้าคนเดิม จริงๆ เรื่องพวกนี้ไม่ผิดเลย เพราะคนที่เรารู้จักกันดีก็คือคนที่เราสามารถพูดคุยได้อย่างสบายใจ รู้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ เรียกได้ว่ารู้สไตล์ของกันและกันอยู่แล้ว ที่ข้อเสียของการยึดติดอยู่กับสังคมเดิมคือชุดความคิดที่คุณได้รับจะเป็นชุดความคิดเดิมที่ถูกนำกลับมาใช้ซ้ำๆ การที่คุณได้ลองเปิดใจทำความรู้จักคนใหม่ๆ จะช่วยเปิดโลกให้กับคุณ ได้รู้มุมมองความคิดใหม่ๆ ที่คุณไม่เคยสัมผัสหรือแม้แต่คุณและเพื่อนคุณเองก็ไม่เคยได้รับรู้
เริ่มจากการตั้งเป้าหมายง่ายๆ อย่างการแนะนำตัวให้กับคนใหม่ๆ รู้จักสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง อาจจะเป็นเพื่อนต่างแผนก แม่ค้าร้านข้าว หรือคนที่มานั่งจิบเบียร์โต๊ะข้างๆ ก็ได้
2. คุณไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง
การติดอยู่กับสิ่งเดิมๆนานเกินไปอาจทำให้คุณเป็นคนมีกำแพงและไม่เปิดรับสิ่งใหม่ที่เข้ามาเพียงเพราะไม่รู้จัก แต่การเปลี่ยนแปลงคือโอกาสในการเติบโตเสมอ การเปลี่ยนแปลงคือช่องทางที่คนเราใช้เพื่อพัฒนาและก้าวไปข้างหน้า คนที่หยุดอยู่กับที่ไม่มีวันประสบความสำเร็จได้ บางทีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยอาจทำให้คุณเจอหนทางไปสู่เป้าหมายที่คุณรอคอยอยู่กับที่มาตลอดก็ได้
เปิดใจมองโลกออกไปให้กว้างแล้วเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เปลี่ยนแปลงบางอย่าง คุณอาจจะเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงเล็กๆเช่น การนั่งรถโดยสารแทนการขับรถส่วนตัว การเข้าร่วมอบรมในหัวข้อที่ไม่รู้จัก การลองปฏิบัติตามหนังสือโค้ชชิ่งต่างๆ เป็นต้น
3. คุณไม่เต็มใจรับความเสี่ยง
คนฉลาดส่วนใหญ่มักมีการพิจารณาที่สมเหตุสมผลในการกระทำแต่ละอย่างอยู่ตลอดเวลา พวกเขาเลือกเส้นทางที่ปลอดภัยต่อการทำงานและตัวเขาเอง เรียกได้ว่ามี Comfort Zone ที่สร้างขึ้นมาจากความฉลาดนั้นเป็นทุนเดิม เพราะฉะนั้นพวกเขาจะไม่กล้าก้าวออกมาในดินแดนที่ไม่รู้จัก เพราะเสี่ยงเกินกว่าจะคำนวณหาผลลัพธ์ที่ต้องการออกมาได้ แต่การติดอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยนั้นจะทำให้ผลงานของคุณเป็นเพียงความธรรมดา ไม่ได้พิเศษต่อคนทั่วไป ดินแดนที่คุณไม่รู้จักจะสร้างผลงานที่สร้างสรรค์และสร้างการเรียนรู้ที่คุณเองก็เพิ่งเคยได้สัมผัส
เมื่อไรก็ตามที่คุณไม่มั่นใจที่จะก้าวออกจาก Comfort Zone ของตัวเอง ให้คุณลองคิดว่าถ้าคุณไม่ได้ทำสิ่งนี้ ในอีก 10 ปีข้างหน้าที่คุณหมดโอกาสในการทำแล้วคุณจะเสียดายมันหรือไม่ คุณจะพูดว่า “รู้งี้น่าจะทำ” หรือเปล่า?
4. คุณเชื่อว่าคุณจะสำเร็จเพียงเพราะเคยสำเร็จ
ข้อนี้เป็นความน่ากลัวของคนฉลาดอยู่เหมือนกัน เมื่อเราสอบได้เกรด 4 มาตลอดในช่วงชั้นมัธยมศึกษา ปรากฏว่าเมื่อเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยกลับไม่เป็นเช่นนั้น ไม่เพียงแค่เด็กเท่านั้น แต่หลายคนมักหลงกับความสำเร็จในอดีตจนดึงมันมาสู่ปัจจุบันว่าในอดีตเคยสำเร็จอย่างไร หากยังทำตัวแบบเดิม ในปัจจุบันและอนาคตก็ต้องได้รับความสำเร็จแบบนั้น แต่โลกความจริงไม่ใช่เลย การที่งานของคุณถูกต้อง ไม่ได้หมายถึงการได้รับคำชม การที่งานของคุณดีที่สุดในเชิงคุณภาพ อาจจะไม่ได้ดีที่สุดในสายตาคนตรวจงาน คุณไม่ได้รับผลลัพธ์ตรงกับงานที่ทำเสมอไป
ไม่ได้บอกให้โยนความสำเร็จในอดีตทิ้งไป คุณยังคงภูมิใจกับความสำเร็จในช่วงนั้นได้แต่คุณต้องลดอีโก้ลงด้วยการหยุดคิดว่าคุณจะประสบความสำเร็จได้เหมือนครั้งที่ผ่านมา ความสำเร็จในโลกแห่งความจริงประกอบ การทำงานหนัก กลยุทธิ์ และโชค ซึ่งหากคุณอยากมีโชคเยอะหน่อย คุณต้องรู้จักผสมผสานสองข้อแรกเข้าด้วยกัน คุณต้องอย่าเป็นแค่คนฉลาด คุณต้องรู้จักทำงานหนักอย่างมีกลยุทธ์ด้วย
5. คุณกลัวเสียเวลา
หนึ่งสิ่งที่คนฉลาดมักจะเกลียดที่สุดคือการเสียเวลาไปสิ่งที่พวกเขามองว่าเปล่าประโยชน์ ทุกนาทีที่เสียไปอาจจะเป็นนาทีที่ทำให้พวกเขาพลาดเรื่องสำคัญเรื่องอื่น ทำให้พวกเขาพร้อมหันหัวเรือไปทางอื่นทันทีที่รู้สึกว่าทางนี้ไม่ใช่ ถึงแม้ว่านี่จะเป็นทักษะที่แข็งแกร่งในการจัดการเวลา แต่นี่จะทำให้คุณไม่สามารถไปถึงเป้าหมายระยะยาวได้เลย ในที่เดินไปตามทางเพื่อไปสู่เป้าหมาย มันมีขั้นตอนของมัน โดยจะใช้เวลามากหรือน้อยขึ้นอยู่กับวิธีการจัดการขั้นตอนนั้นๆของคุณ แต่หากคุณยังกลัวที่จะเสียเวลา ไม่เดินทางไปจนสุด คุณจะไม่มีวันไปถึงเป้าหมายระยะยาวได้ คุณจะอยู่แค่ครึ่งทางของหลายๆเส้นทางที่คุณไป สุดท้ายแม้คุณจะเก่งแต่ก็ไม่ใช่เก่งที่สุด
ให้เวลากับเส้นทางที่ตัวเองเลือก เมื่อมีเป้าหมายระยะยาว วางแผนอย่างเป็นขั้นตอน อดทนแล้วทำต่อไป แม้ในวันที่รู้สึกเหนื่อย ท้อ หรือมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ให้พยายามจนถึงที่สุดก่อน การไปให้ถึงเป้าหมายต้องอาศัยความเพียรพยายาม มุ่งไปที่เป้าหมายระยะยาวอันเดียวให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการไล่ตามสิ่งหนึ่งเมื่อเบื่อก็เปลี่ยน
6. คุณตัดสินใจไม่ได้
คนเก่งส่วนใหญ่มีตัวเลือกมากมายมาเคาะประตูรอถึงหน้าบ้าน พวกเขามักใช้เวลาไปกับการกระโดดโลดเต้นว่าควรจะเลือกเส้นทางไหนดีเมื่อเปิดประตูออกไปแล้ว เส้นทางมากมายที่อ้าแขนรับล้วนเต็มไปด้วยโอกาสและความเสี่ยง สิ่งที่ทำให้พวกเขาไม่ประสบความสำเร็จคือการไม่สามารถตัดสินใจเลือกได้สักทาง กลัวว่าหากเลือกผิดจะต้องพบกับความล้มเหลวหรือจะไม่สามารถกลับมาเลือกใหม่ได้อีกครั้ง
สิ่งที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้รู้ว่าเส้นทางไหนคือเส้นทางที่เหมาะกับคุณมากที่สุด คือการลอง ลองทำไปก่อน ลองเข้าไปดู พูดคุย สัมผัส ศึกษาค้นคว้า เพื่อดูว่าเส้นทางไหนคือเส้นทางที่คุณต้องการและคุณสามารถประสบความสำเร็จในเส้นทางเหล่านั้นได้ แน่นอนว่าเส้นทางพวกนี้คุณไม่ใช่คนแรกที่เจอ มีตัวอย่างมากมายจากอดีตที่คอยให้เราศึกษาค้นคว้า ดีกว่าการเอาแต่นั่งคิดจนสุดท้ายก็สายเกินกว่าจะเลือกสักทาง
7. คุณไม่เชื่อในตัวเอง
คนฉลาดส่วนใหญ่ที่สามารถประเมินคนหรืองานต่างๆได้ดี กลับประเมินตัวเองได้ต่ำสุดๆ พวกเขาเป็นนักวิจารณ์ที่แย่สำหรับตัวเอง ความฉลาดที่ทำให้เกิดการวิเคราะห์เพื่อค้นหาผลงานที่สมบูรณ์แบบที่สุดมักจะจบลงทีพวกเขายอมรับผลงานที่ทำออกมาเป็นครั้งที่ 2 หากฟังผิวเผินแล้วอาจจะบอกว่านี่เป็นข้อดี แต่การทำงานซ้ำแบบนี้ไม่ดีต่อตัวผู้ทำอย่างมากเลย ร่างกายพวกเขาจะถูกใช้ไปกับงานมากกว่าที่ควรจะเป็น ความสมบูรณ์แบบจากผลลัพธ์ที่เขาต้องการจะเป็นตัวขัดขวางให้ย่ำทำสิ่งเดิมอยู่กับทีและไม่สามารถก้าวไปไหนได้
อย่าให้ปล่อยให้ความคิด “ฉันไม่ดีพอ” ทำให้คุณไม่อยากเดินไปข้างหน้าหรือออกไปสู่การเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ ทุกครั้งที่คุณคิดว่าคุณไม่ดีให้คุณลองถามตัวเองว่า คุณได้ลองหรือยัง ชีวิตคุณจะเป็นอย่างไรถ้าไม่ได้สิ่งนี้ และ จะเป็นอย่างไรถ้าคุณได้ทำ การมองไปที่ผลลัพธ์จะทำให้คุณตื่นเต้นในการเฝ้ารอจนอดใจไม่ไหวแล้วลงมือลองทำในที่สุด
บทสรุป
บทความนี้ไม่ได้มีให้คนฉลาดอ่านเท่านั้น อย่างที่บอกไปว่าพวกคุณที่เป็นคนฉลาดมักจะพลาดเพราะประมาทและเชื่อมั่นใจตัวเองมากเกินไป หากตอนนี้คุณรู้แล้วว่าการคิดแบบนั้นมันขัดขวางความสำเร็จของคุณ
7 สาเหตุข้างต้น คือ สิ่งที่เราทำหรือรู้สึกกันไปโดยที่บางครั้งเราเองก็ไม่รู้สึกตัว ลองสังเกตตัวเองให้ดีแล้วยับยั้งอุปสรรคเหล่านี้ให้ทัน ทุกคนสามารถประสบความสำเร็จได้ ถ้าคุณต้องการ
ดังนั้นจัดการกับ 7 เหตุผลที่ทำให้คนฉลาดหรือคนที่ทำงานหนัก ไม่ประสบความสำเร็จนั้นซะ เพียงเท่านี้ โอกาศที่จะประสบความสำเร็จของคุณก็จะสูงขึ้นมากขึ้นในทันที
Reference: 7 Reasons Why Smart, Hardworking People Don’t Become Successful
บทความแนะนำ:
21 นิสัย ที่จะช่วยพัฒนาชีวิตของคุณให้ดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว | Productivity Hack