SSFX และ SSF คืออะไร? มีความแตกต่างกันอย่างไร? เงื่อนไขการลงทุนเป็นอย่างไร เหมาะกับคนทำงานแบบไหน? เดี๋ยวเรามาหาคำตอบกันครับ
กองทุนรวมเพื่อการออม (Super Saving Fund ; SSF)
หลังจากที่ได้รับมติเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้วในวันที่ 3 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา กองทุนใหม่ที่ชื่อว่า “SSF” นี้ จะเป็นตัวใหม่ ที่จะมาใช้ลดหย่อนภาษีแทน กองทุน LTF หรือ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long Term Equity Fund ; LTF) เดิม ที่หมดในปี 2562
โดยกองทุน “SSF” นี้ จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการใช้เพื่อลดหย่อนภาษี ในปี 2563 เป็นต้นไป
ว่าแต่ กองทุน “SSF” คืออะไร? ลงทุนในอะไรบ้าง? ได้สิทธิลดหย่อนอย่างไร? มีเงื่อนไขต่างกับของเดิมเยอะไหม? เดี๋ยวเรามาหาคำตอบกันได้เลย
กองทุน SSF หรือ กองทุนรวมเพื่อการออม
เป็นกองทุนรวม ที่ตั้งขึ้น เพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว โดยมีระยะเวลาในการถือครองหน่วยลงทุนอย่างน้อย 10 ปี นับจากวันที่ซื้อ [ต่างจาก LTF เดิม ที่ให้ถือครองอย่างน้อย 7 ปีปฏิทิน]
เป็นกองทุนรวม ที่มีรูปแบบการลงทุนในหลักทรัพย์ได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น หุ้นกู้ หุ้น กองทุนรวม หรืออื่นๆ ซึ่งเป็นการลงทุนที่มีความยืดหยุ่น และ มีหลายทางเลือกมากขึ้น [ต่างจาก LTF เดิม ที่เน้นลงทุนในหุ้นไทยเท่านั้น]
เงื่อนไขสิทธิประโยชน์ทางภาษีของ กองทุน SSF คือ?
- ให้สิทธิบุคคลธรรมดาสามารถซื้อเพื่อไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ สูงสุดไม่เกิน 30% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท
โดยมีเงื่อนไขเพิ่มเติมอีกว่า ถ้าลงทุนใน กองทุน SSF แล้ว เมื่อเอาไปรวมกับการลงทุนลดหย่อนภาษีเพื่อการเกษียณอายุอื่นๆ ได้แก่ RMF, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ, กองทุนสงเคราะห์ตามกฏหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน, กองทุนการออมแห่งชาติ, และ เบี้ยประกันบำนาญ จะต้องไม่เกิน 500,000 บาท
ซึ่งต่างจากกองทุน LTF เดิม ที่สามารถซื้อได้ไม่เกิน 15% ของรายได้ทั้งปี แต่ไม่เกิน 500,000 บาท (ไม่คิดรวมกับกองทุนลดหย่อนเพื่อเกษียณอายุอื่น ๆ)
- กองทุน SSF ไม่มีการกำหนดขั้นต่ำในการซื้อหน่วยลงทุน และ ไม่กำหนดเงื่อนไขในการซื้อต่อเนื่องหมายความว่า เราสามารถซื้อขั้นต่ำเท่าไหร่ก็ได้ หรือ จะซื้อเฉพาะปีที่เราต้องการก็ได้
แต่จะขายคืนโดยไม่ต้องเสียภาษีได้ก็ต่อเมื่อทำตามเงื่อนไขการถือของ กองทุน SSF คือ ถือครองหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 10 ปี นับจากวันที่ซื้อ
บทสรุปสำหรับ กองทุน SSF
ข้อดี : เหมาะกับคนวัยทำงาน เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการออมระยะยาวเพื่อการเกษียณ มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพราะสามารถเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ได้หลายประเภท ถือเป็นการกระจายความเสี่ยง ไม่ต้องพึ่งพึงตลาดหุ้นไทยเพียงอย่างเดียว มนุษย์เงินเดือนอย่างเราสามารถเลือกการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเราเองได้ง่ายยิ่งขึ้น และมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้น้อยถึงปานกลางจะได้ประโยชน์ในเรื่องสิทธิประโยชน์ทางภาษีมากขึ้น จากการที่สัดส่วนของการลดหย่อนของ กองทุน SSF สูงขึ้นถึง 30% อีกด้วย
ข้อเสีย : ถือนาน 10 ปี ซึ่งหลายๆ คน อาจจะไม่ค่อยชอบ เพราะอาจจะคุ้นชินกับ LTF ที่ถือเพียง 7 ปีปฎิทิน และ กลุ่มมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้สูงอาจจะไม่พอใจสักเท่าไร เพราะ กองทุน SSF จำกัดวงเงินเอาไว้แค่ 200,000 บาท แถมยังเอาไปรวมกับ การลงทุนเพื่อการเกษียณอายุอื่นๆ อีก ทำให้พวกเขาไม่มีทางเลือกในการลดหย่อนภาษีเหมือนกับ LTF
(เดิมวงเงินลดหย่อน LTF ไม่คิดรวมกับกองทุนลดหย่อนภาษีเพื่อเกษียณอายุอื่น ๆ )
กองทุนรวมเพื่อการออมพิเศษ (Super Saving Fund Extra ; SSFX)
กองทุนเพื่อการออมพิเศษ” คือ กองทุนลดหย่อนภาษีวงเงินพิเศษ ที่มีกำหนดระยะเวลาซื้อหน่วยลงทุนได้ระหว่างเดือนเมษายน – มิถุนายน 2563 เท่านั้น
โดยมีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท (ไม่รวมกับวงเงินซื้อหน่วยลงทุนกองทุน SSF แบบปกติ)
ข้อดี : เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการลดหย่อนภาษี ด้วยการลงทุนในหุ้นไทยในจังหวะที่ราคาหุ้นปรับตัวลง และต้องการมีวงเงินลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมอีก 200,000 บาท นอกเหนือจากกองทุน SSF ปกติ
ข้อเสีย : กองทุน SSFX มีเป็นกรณีพิเศษเฉพาะปีนี้ และ เหมาะสำหรับคนทำงานที่มีรายได้มี่อยู่ในกลุ่มที่มีฐานภาษีสูงๆ เท่านั้น เพราะการลงทุนในกองทุน SSFX เป็นส่วนเพิ่มเติมที่จะช่วยให้พวกเขาประหยัดภาษีได้มากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนใน SSFX และ SSF หรือ จะเป็นกองทุนไหนก็ตาม ทุกๆกองทุนย่อมมีความเสี่ยง แต่ระดับความเสี่ยงก็อาจแตกต่างไปตามประเภทและลักษณะกองทุน ผลตอบแทนมาก ความเสี่ยงก็มากด้วย เป็นตามแนวคิดที่ว่า high risk high return
ดังนั้น เราต้องทำความเข้าใจให้ดี ดูว่าเรารับความเสี่ยงได้แค่ไหน วัตถุประสงค์การลงทุนของเราเป็นอย่างไร? สิทธิประโยชน์ทางภาษีมีอะไรต้องพิจารณาไหม? แล้วดูนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง เงื่อนไข และ สิทธิประโยชน์ ต่างๆ ของกองทุนนั้นๆ ด้วยว่าตอบโจทย์เรารึเปล่านะครับ
เพื่อประโยชน์สูงสุด ของตัวเราเอง
บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับ การเงินและการลงทุน สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ :
กองทุน LTF ยกเลิกแล้ว ถ้าเรามี LTF ที่ครบกำหนดแล้ว เราควรทำอย่างไรดี?
กองทุน RMF ปี 2563 มีอะไรใหม่ เงื่อนไขเป็นอย่างไร ดีกว่าเดิมไหม?