The SPEED of Trust: The One Thing That Changes Everything โดย Stephen M. R. Covey เป็นการสำรวจบทบาทสำคัญของความไว้วางใจในความสัมพันธ์ทั้งส่วนบุคคลและในที่ทำงานอย่างลึกซึ้ง
Covey ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการยอมรับในด้านการเป็นผู้นำและพฤติกรรมองค์กร ได้ให้เหตุผลไว้อย่างมีประสิทธิภาพว่าความไว้วางใจไม่ใช่เพียงคุณธรรมทางสังคม แต่เป็นตัวขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่สำคัญ หนังสือเล่มนี้เป็นการผสมผสานระหว่างทฤษฎีและคำแนะนำที่นำไปใช้ได้จริง ทำให้เป็นหนังสือที่ต้องอ่านสำหรับใครก็ตามที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพและความสำเร็จผ่านพลังของความไว้วางใจ
ความไว้วางใจเป็นตัวขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ
Covey เริ่มต้นด้วยการท้าทายมุมมองแบบดั้งเดิม โดยนำเสนอความไว้วางใจเป็นปัจจัยทางเศรษฐกิจที่สำคัญ เขาแสดงให้เห็นว่าระดับความไว้วางใจที่สูงภายในความสัมพันธ์ ทีมงาน และองค์กร นำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และเร่งกระบวนการ ในทางกลับกัน ความไว้วางใจที่ต่ำจะทำให้เกิดความขัดแย้ง ประสิทธิภาพต่ำ และต้นทุนที่เพิ่มขึ้น การปรับเปลี่ยนมุมมองนี้ทำให้เห็นว่าความไว้วางใจเป็นสินทรัพย์ที่จับต้องได้ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงต่อผลประกอบการขององค์กร
“ความไว้วางใจส่งผลกระทบต่อสองผลลัพธ์เสมอ—ความเร็วและต้นทุน เมื่อความไว้วางใจลดลง ความเร็วจะลดลงและต้นทุนจะเพิ่มขึ้น เมื่อความไว้วางใจเพิ่มขึ้น ความเร็วจะเพิ่มขึ้นและต้นทุนจะลดลง”
แกนหลักสี่ประการของความน่าเชื่อถือ
แก่นของของ Covey คือ แกนหลักสี่ประการของความน่าเชื่อถือ (The Four Cores of Credibility) ซึ่งประกอบไปด้วย ความซื่อสัตย์, เจตนา, ความสามารถ และผลลัพธ์
- ความซื่อสัตย์ (Integrity) คือความจริงใจและความสม่ำเสมอ
- เจตนา (Intent) คือการมีความห่วงใยแท้จริงต่อผู้อื่น
- ความสามารถ (Capabilities)คือทักษะและความรู้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
- ผลลัพธ์ (Results)คือการทำตามสัญญาอย่างสม่ำเสมอ
โดยกรอบการทำงานนี้เป็นเส้นทางที่ชัดเจนสำหรับบุคคลและองค์กรในการสร้างและรักษาความไว้วางใจ
“ความซื่อสัตย์มากกว่าความจริงใจ มันคือการมีความกล้าที่จะกระทำตามค่านิยมและความเชื่อของเรา”
คลื่นห้าชั้นของความไว้วางใจ
Covey แนะนำแนวคิดคลื่นห้าชั้นของความไว้วางใจ (The Five Waves of Trust) โดยแสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่แผ่ขยายของความไว้วางใจจากตัวเองไปสู่สังคม มันเริ่มต้นด้วยความไว้วางใจในตนเอง(Self-Trust) เน้นความมั่นใจในตนเอง (self-confidence) และความซื่อสัตย์ (integrity) และขยายไปสู่ความไว้วางใจในความสัมพันธ์ (Relationship Trust) ความไว้วางใจในองค์กร (Organizational Trust) ความไว้วางใจในตลาด (Market Trust) และความไว้วางใจในสังคม (Societal Trust) โมเดลนี้แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลที่กว้างขวางของความไว้วางใจ ตั้งแต่การกระทำส่วนบุคคลไปจนถึงผลกระทบทางสังคม
“ความไว้วางใจเป็นฟังก์ชันของทั้งตัวละครและความสามารถ คุณสามารถดูความล้มเหลวในการเป็นผู้นำได้ทุกที่ และมันมักจะเป็นความล้มเหลวของอย่างใดอย่างหนึ่งเสมอ”
พฤติกรรมที่สร้างความไว้วางใจ
Covey ลงลึกในด้านปฏิบัติของการสร้างความไว้วางใจผ่านพฤติกรรมเฉพาะ เขาระบุพฤติกรรมที่สำคัญ 13 อย่างสำหรับการสร้างความไว้วางใจ ซึ่งรวมถึงการพูดตรงไปตรงมา การแสดงความเคารพ การสร้างความโปร่งใส การแก้ไขความผิดพลาด และการทำผลลัพธ์ให้ได้จริง พฤติกรรมเหล่านี้สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ทำให้ความไว้วางใจเป็นแนวคิดที่เข้าถึงได้และจัดการได้
“วิธีที่เร็วที่สุดในการลดความไว้วางใจคือการละเมิดพฤติกรรมของตัวละคร วิธีที่เร็วที่สุดในการสร้างความไว้วางใจคือการแสดงพฤติกรรมของความสามารถ”
ความไว้วางใจและการเป็นผู้นำ
ความคิดเห็นของ Covey เกี่ยวกับความไว้วางใจในด้านการเป็นผู้นำนั้นมีผลกระทบอย่างมาก เขาแย้งว่าการเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพนั้นเกี่ยวพันกับความไว้วางใจ ผู้นำที่สร้างความไว้วางใจในทีมและองค์กรของตน จะสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานร่วมกัน และประสิทธิภาพสูง โดยการเป็นตัวอย่างและแสดงพฤติกรรมที่สร้างความไว้วางใจอย่างสม่ำเสมอ ผู้นำสามารถสร้างวัฒนธรรมของความไว้วางใจที่แผ่ซ่านไปทั่วองค์กรของตน
“งานแรกของผู้นำ—ที่ทำงานหรือที่บ้าน—คือการสร้างแรงบันดาลใจในความไว้วางใจ มันคือการดึงสิ่งที่ดีที่สุดในผู้คนออกมาโดยการไว้วางใจพวกเขา”
การฟื้นฟูความไว้วางใจ
Covey ยอมรับว่าความไว้วางใจสามารถถูกทำลายได้ แต่เขาให้แนวทางในการฟื้นฟูมัน เขาเน้นความสำคัญของการยอมรับความผิดพลาด การแก้ไข และการแสดงพฤติกรรมที่ไว้วางใจได้อย่างสม่ำเสมอ กระบวนการนี้ต้องการความมุ่งมั่นและความอดทน แต่สามารถทำได้ด้วยความพยายามอย่างจริงใจ เป็นข้อความที่มีความหวังสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างความไว้วางใจขึ้นใหม่
“ถึงแม้ว่าความไว้วางใจที่ถูกทำลายจะสามารถฟื้นฟูและสร้างใหม่ได้ ในท้ายที่สุด มันคือคนที่ทำลายความไว้วางใจที่ต้องสร้างมันขึ้นมาใหม่”
ความไว้วางใจและการสื่อสาร
การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเป็นรากฐานสำคัญของความไว้วางใจ Covey สนับสนุนการสื่อสารที่โปร่งใส ตรงไปตรงมา และบ่อยครั้งเพื่อป้องกันความเข้าใจผิดและสร้างความมั่นใจในความสัมพันธ์ เขายังเน้นความสำคัญของการฟังอย่างกระตือรือร้นและมีความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งช่วยเสริมสร้างความไว้วางใจในการปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
“วิธีที่สำคัญที่สุดในการสร้างความไว้วางใจทั้งในเชิงอาชีพหรือส่วนตัวคือผ่านพฤติกรรมของคุณ คำพูดนั้นถูก; ผู้คนจะมองดูสิ่งที่คุณทำ”
ความเร็วของความไว้วางใจ
หนึ่งในแง่มุมที่น่าสนใจที่สุดของข้อโต้แย้งของ Covey คือแนวคิดเกี่ยวกับความเร็วของความไว้วางใจ ระดับความไว้วางใจที่สูงสามารถเร่งการตัดสินใจ เพิ่มความร่วมมือ และส่งเสริมนวัตกรรม ในทางตรงกันข้าม ความไว้วางใจที่ต่ำทำให้กระบวนการช้าลง เพิ่มต้นทุน และขัดขวางความก้าวหน้า แนวคิดนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าความไว้วางใจสามารถเปลี่ยนแปลงพลวัตขององค์กรและขับเคลื่อนความสำเร็จได้อย่างไร
“ในวัฒนธรรมที่มีความไว้วางใจสูง ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วขึ้นและต้นทุนต่ำลง เพราะความไว้วางใจคือกาวที่ยึดชีวิต”
การวัดและการรักษาความไว้วางใจ
Covey แนะนำว่าความไว้วางใจสามารถวัดและจัดการได้เหมือนกับสินทรัพย์ขององค์กรอื่นๆ โดยการประเมินระดับความไว้วางใจภายในความสัมพันธ์และองค์กร ผู้นำสามารถระบุพื้นที่ที่ต้องการการปรับปรุงและดำเนินกลยุทธ์เพื่อเพิ่มความไว้วางใจ นอกจากนี้ การรักษาความไว้วางใจต้องการความพยายามอย่างต่อเนื่องและการระวังอยู่เสมอ การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ข้อเสนอแนะเป็นประจำ และการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความไว้วางใจ
“การรักษาความไว้วางใจต้องการความมุ่งมั่นที่ต่อเนื่องต่อพฤติกรรมที่สร้างความไว้วางใจตลอดเวลา มันไม่ใช่ความพยายามครั้งเดียว แต่เป็นการอุทิศตนอย่างต่อเนื่อง”
บทสรุป
ใน “The SPEED of Trust” Stephen M. R. Covey ให้แนวทางที่ครอบคลุมและนำไปใช้ได้จริงในการทำความเข้าใจบทบาทสำคัญของความไว้วางใจในการบรรลุความสำเร็จทั้งในระดับบุคคลและองค์กร ข้อมูลเชิงลึกของเขาที่สนับสนุนโดยกรอบการทำงานที่แข็งแกร่งและกลยุทธ์ที่นำไปใช้ได้จริง ทำให้หนังสือเล่มนี้เป็นทรัพยากรที่ล้ำค่าสำหรับผู้นำ ผู้จัดการ และใครก็ตามที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพผ่านพลังของความไว้วางใจ โดยการให้ความสำคัญกับความไว้วางใจ Covey ให้เหตุผลว่าบุคคลและองค์กรสามารถปลดล็อกระดับประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และความสำเร็จที่ไม่เคยมีมาก่อนได้
สำหรับใครที่สนใจหนังสือเล่มนี้ หาซื้อได้ที่นี่ The SPEED of Trust: The One Thing That Changes Everything
บทความแนะนำ
Leaders Eat Last | 10 บทเรียนสำคัญ ของ Simon Sinek ที่ผู้นำควรรู้