Work เขียนโดย James Suzman เป็นหนังสือที่ท้าทายแนวคิดเดิมๆ ในเรื่องแรงงานและประสิทธิภาพในการทำงาน โดยหนังสือเล่มนี้จะพาผู้อ่านเดินทางสู่ประวัติศาสตร์ที่เกียวกับการทำงานอันน่าหลงใหล และสำรวจแนวปฏิบัติของวัฒนธรรมพื้นเมืองและข้อมูลเชิงลึกที่ลึกซึ้ง
ผู้เขียน Suzman ตั้งคำถามถึงความหลงใหลในสมัยใหม่กับการทำงานอย่างไม่หยุดยั้ง และเน้นย้ำถึงภูมิปัญญาของแนวทางที่ยั่งยืนและขับเคลื่อนตามวัตถุประสงค์ ซึ่งพบได้ในหลายสังคมทำงาน อาทิเช่น ชาวซานทางตอนใต้ของแอฟริกา และชาว Hadza ในประเทศแทนซาเนีย
หนังสือเล่มนี้ สนับสนุนให้เราสำรวจความสมดุลระหว่างการทำงานและการพักผ่อน สนับสนุนให้เกิดการบูรณาการงานเข้ากับชีวิตประจำวัน และความสำคัญของพิธีกรรมในการส่งเสริมความหมายและการเชื่อมโยงผ่านตัวอย่างที่ชัดเจน เรื่องราวของ Suzman สะท้อนถึงผลกระทบของเทคโนโลยี ลัทธิบริโภคนิยม และการแสวงหาความสุข โดยเสนอการสำรวจที่กระตุ้นความคิดว่าเราจะเปลี่ยนมุมมองในการทำงานเพื่อมีชีวิตที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นได้อย่างไร?
“งานที่สำคัญมีหลายอย่างที่คุณต้องทำ แต่คุณคงเป็นคนพลาดมากๆ ที่รับงานอื่นไปทำ โดยเฉพาะถ้างานนั้นมันไม่จำเป็น หรือ ไม่ได้อยู่ภายใต้การรับผิดชอบของคุณ”
ต่อไปนี้เป็นบทเรียนสำคัญ 10 บทเรียน ที่ได้เรียนรู้จาก หนังสือ “งาน” โดย James Suzman ที่พวกเราสามารถนำไปใช้กับงานและชีวิตของเราได้:
1. สร้างสมดุลระหว่างการทำงาน กับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่คุณอาศัยอยู่: ปรับตัว สร้างจุดสมดุล ให้คุณสามารถทำงาน ไปพร้อมๆ กับการดำเนินชีวิตที่มีความสุข ในแบบฉบับของตัวคุณเองได้ ใช้ประโยชน์จากพลังจากธรรมชาติ เช่น ช่วยในการผ่อนคลายความเครียด หรือ เพิ่มคุณภาพในการพักผ่อน หย่อนใจ เป็นต้น
2. ค้นหาจุดมุ่งหมายในการทำงาน: เพราะ งานเป็นมากกว่า การทำเพื่อการอยู่รอด แต่การทำงานนั้นมันมีความหมายมากกว่า มันสามารถสร้างความรู้สึกที่ดี มีส่วนร่วม และ สร้างการมีตัวตนของคุณในสังคมที่คุณทำงานอยู่ได้
3. ให้ความสำคัญกับคุณภาพมากกว่าปริมาณ: คิดเสียใหม่เกี่ยวกับเรื่องประสิทธิภาพในการทำงาน เพราะมันไม่ได้เกี่ยวกับการทำงานที่นานขึ้นและหนักขึ้น แต่มันเป็นเรื่องของคุณภาพที่แสดงออกมาในรูปแบบของผลงาน ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกถึงความสำเร็จในสิ่งที่คุณทำ
4. ชีวิตต้องการพักผ่อน: เข้าใจถึงความสำคัญของการพักผ่อน เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีและเพื่อรักษาประสิทธิภาพการทำงาน เพราะมันเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของการสร้างชีวิตที่สมดุล
5. ใช้ชีวิตแบบผสมผสานทั้งเรื่องงานและชีวิตในแบบฉบับของคุณเอง: ท้าทายความเชื่อผิดๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องสมดุลระหว่างชีวิตและงาน ที่ว่าต้องหารสอง หรือ ต้องแบ่งครึ่ง มันเป็นหน้าที่ของคุณ ที่จะต้องพยายามผสมผสานงานเข้ากับชีวิตของคุณ ในสูตรลับของคุณเอง ที่ทำให้ทั้งสองด้านเดินหน้าต่อไปได้อย่างราบรื่น
6. รู้จักแบ่งปันและให้ความร่วมมือกับคนอื่นบ้าง: การให้ การช่วยเหลือ การสนับสนุน ในสิ่งที่คุณสามารทำได้ จะช่วยยกระดับคุณภาพจิตใจ และ ทำให้คุณรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่ามากขึ้น และ ในทางกลับกัน การเป็นผู้ให้ ก็ทำให้ภาพลักษณ์ของคุณในสังคมที่คุณอยู่ดีขึ้นได้อีกด้วย
7. เข้าใจ รู้จักใช้เทคโนโลยี: อย่าตกเป็นทาสของมัน จงใช้มันเหมือนมันเป็นผู้ช่วยของคุณ รู้จักนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์เพื่อทำให้งานและชีวิตราบรื่นมากขึ้น
8. รู้จักเลือก รู้จักใช้ ส่ิงของอย่างมีสติ: อยากมี หรือ อยากได้ เป็นเรื่องไม่ผิด แต่การจะมี หรือ จะได้ ก็ต้องพิจารณาว่าสิ่งเหล่านั้นมันจำเป็นกับคุณจริงๆ หรือ ไม่ การบริโภคนิยมมากเกินไป สามารถนำไปสู่การทำงานหนักและความเครียดได้ เพราะคุณต้องทำงานหนักมากเพื่อหาเงินมาใช้กับสิ่งที่ไม่จำเป็น หรือ มาใช้หนี้ที่เกิดจากของที่ไม่จำเป็น
9. ใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย: ทำงาน อย่าแต่ทำให้ผ่านไปในแต่ละวัน แต่จงทำงานในแต่ละวันให้มีความหมาย ทำไปเพื่ออะไร เพื่อใคร และ ทำให้สุดฝีมือ เสมือนกับว่า งานนั้นคือ ศิลปะที่คุณสร้างขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนจดจำ
10. ความสามารถในการปรับตัว คือ สิ่งที่คุณจำเป็นต้องมี: คนที่มีความสามารถในการปรับตัวได้ดี จะเปิดรับการเปลี่ยนแปลงและความเจริญรุ่งเรืองในสภาวะที่หลากหลายได้มากกว่าคนที่ไม่กล้าเปลี่ยน หรือ กลัวการเปลี่ยนแปลง
“ในยุคนึง มีความเชื่อว่า การทำงานหนักได้รับการยกย่องว่าเป็นคนซื่อสัตย์ แต่ปัจจุบันการทำงานหนักถือเป็นงานของคนโง่ ที่ไม่ยอมหาหนทางที่จะทำงานให้ดีขึ้นโดยใช้เวลาที่น้อยลง หรือ เหนื่อยน้อยลง”
เรื่องของงาน วัดที่ผลของงาน คนที่บริหารจัดการได้ดี และใช้ทรัพยากรน้อยที่สุด แต่สร้างผลลัพธ์ดีที่สุด คือ ผู้ชนะ!
จาก หนังสือ “WORK ประวัติศาสตร์แห่งการทำงาน (ไปทำไม)”
รายละเอียดเพิ่มเติม https://shope.ee/509fLt13Ur
บทความแนะนำ:
Time Management Mistakes – ข้อผิดพลาดในการจัดการเวลาที่คุณกำลังทำอยู่