คิดคิด กับกิจการเพื่อสังคม เป็นบริษัทที่เน้นเรื่องการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหา เพื่อให้เกิดความยั่งยืนต่อไปในอนาคต จากจุดเริ่มต้นจากการเปิดร้านขายสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นำมาสู่การออกแบบโครงการด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อสร้างสรรค์ สิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นให้กับคนไทยทั้งประเทศ เพราะ “คิดคิด” มีความเชื่อว่า เราทุกคนสามารถปรับโลกให้น่าอยู่มากขึ้นด้วยความคิดสร้างสรรค์
บริษัท คิด คิด จำกัด ธุรกิจวิสาหกิจเพื่อสังคมที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการเชื่อมโยงสิ่งที่มีเข้ากับปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมเพื่อแก้ปัญหาอย่างตรงจุดและก่อให้เกิดความยั่งยืนต่อไปในอนาคต บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจขายสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในชื่อ ECO SHOP ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นศูนย์การเรียนรู้งานออกแบบผลิตภัณฑ์และสิ่งของต่างๆที่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้บริษัท คิด คิด จำกัด ยังทำงานในเรื่องของการเป็นที่ปรึกษาด้านการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมให้กับองค์กรต่างๆ การออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้า รวมทั้งการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นอีกด้วย
ในตอนนี้แอดมินจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับธุรกิจวิสาหกิจเพื่อสังคมที่เป็นการใช้ความคิดสร้างสรรค์รวมเข้ากับสิ่งที่มีแล้วทำให้เกิดผลลัพธ์ที่สามารถแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือสิ่งแวดล้อมได้ในวงกว้าง มีการดึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้อย่างชาญฉลาด ในเมื่อคนเราติดเทคโนโลยี เราก็แค่นำการช่วยเหลือสังคมและสิ่งแวดล้อมไปไว้ในเทคโนโลยีเท่านั้นเอง ทุกคนจะได้รู้จักกับความสร้างสรรค์ที่บริษัทนี้สร้างขึ้นผ่านบทสัมภาษณ์ของ คุณท็อป พิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร ผู้ก่อตั้ง บริษัท คิด คิด จำกัด
จุดเริ่มต้นของการเป็นกิจการเพื่อสังคม
ในตอนแรกคุณท็อปเองก็ยังไม่ได้สนใจด้านสิ่งแวดล้อมเลย หลังจากเรียนจบปริญญาตรีคุณท็อปก็ไปเป็นนักแสดง พิธีกร ดีเจ แล้วค่อยกลับมาเรียนต่อในระดับปริญญาโทสาขา MBA จุดเริ่มต้นของการเข้าสู่โลกสิ่งแวดล้อมจึงเริ่มขึ้น คุณท็อปต้องทำธีสิสจบซึ่งหัวข้อต้องเป็นการนำสิ่งแวดล้อมเข้ามาบวกกับสิ่งที่สนใจ และหัวข้อที่คุณท็อปทำก็คือ แนวโน้มพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคที่มีต่อเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
“พวกเรา คิดคิด มีความเชื่อว่า เราสามารถปรับโลกให้น่าอยู่มากขึ้นด้วยความคิดสร้างสรรค์”
เมื่อรู้ตัวว่าสนใจในเรื่องสิ่งแวดล้อม หลังจากเรียนจบคุณท็อปได้ออกมาเปิด ECO SHOP เป็นร้านที่รวบรวมสินค้าออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เมื่อเปิดสักระยะหนึ่งเริ่มมีคนเข้ามาเยอะขึ้น ECO SHOP จึงเพิ่มขนาดกิจการ นอกจากจะรับงานออกแบบแล้วยังมีการเปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้งานออกแบบอีกด้วย เมื่อทุกอย่างดูไปได้สวย คุณท็อปจึงคิดได้ว่าหากเราทำดี เราควรเปิดเผยให้สาธารณะชนรับทราบ คุณท็อปจึงตั้งเป็นบริษัท คิดคิด จำกัด ขึ้นมา
“เราเรียกตัวเองว่าเอเจนซี่”
คุณท็อปเล่าว่าบริษัท คิด คิด จำกัด สามารเรียกได้ว่าเป็นเหมือนเอเจนซี่ แต่เป็นเอเจนซี่ในเรื่องความยั่งยืนเป็นหลัก มีการดึงนวัตกรรมเข้ามาเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงและเก็บข้อมูล ยกตัวอย่างเช่น สร้างวัฒนธรรมองค์กร สร้างแอพพลิเคชั่นเป็นแพลตฟอร์มเพื่อส่งเสริมในด้านวัฒนธรรมองค์กรตามที่ตัวผู้บริหารองค์กรต้องการ หรืออย่างการเข้าไปทำงานให้กับ Air Asia มีการลงพื้นที่นำสินค้าชุมชนมาพัฒนาแล้วนำไปขายบนเครื่องบิน เป็นต้น
บริษัทของเราทำอะไร?
คิดคิด จะทำให้งานให้กับบริษัทที่ต้องการมีส่วนร่วมในด้านสิ่งแวดล้อมแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร พวกเขาจะเข้าไปช่วยดึงตัวสินค้าและแกนหลักธุรกิจขององค์กรนั้นๆมาโยงเข้ากับการแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมให้เกิดเป็นผลลัพธ์ในเชิงสร้างสรรค์ เมื่อองค์กรใดก็ตามที่คิดว่าอยากทำเรื่องดีๆให้แก่สังคมและสิ่งแวดล้อมแล้วพวกเขาก็สมควรได้รับอะไรกลับไปด้วย เพราะฉะนั้นการคิดพัฒนาตรงนี้ก็เป็นตัวช่วยให้องค์กรได้ประโยชน์ไปพร้อมกับช่วยเหลือสังคมด้วย
- ECO LIFE Single-Use Plastic : กิจกรรมนี้เป็นพื้นที่ที่ทางบริษัทอยากให้คนเห็นว่าบริษัทกำลังทำอะไรอยู่อย่างเป็นรูปธรรม ต้องการให้คนเห็นว่ามีการขับเคลื่อนในเรื่องการลดใช้พลาสติกไปขนาดไหน ทางบริษัทมีการจัดกิจกรรมนำพลาสติกมาคืน การคืนขยะอิเล็กทรอนิกส์และการปลูกต้นไม้ โดยการขับเคลื่อนตรงนี้ ทางบริษัทเริ่มกับนักศึกษาตามมหาวิทยาลัยต่างๆกัน เมื่อกดเข้าไปในเว็บไซต์จะเห็นข้อมูลแต่ละมหาวิทยาลัย ย่อยไปแต่ละคณะเลย มีการจัดอันดับให้นักศึกษาได้รู้สึกว่ากำลังแข่งขันกันช่วยเหลือสิ่งแวดล้อม
- ECO LIFE Application : การเริ่มต้นทำ ECO SHOP เป็นการช่วยสังคมและสิ่งแวดล้อมได้ประมาณหนึ่ง แต่คุณท็อปต้องการขยายวงกว้างกว่านั้นในการช่วยเหลือสังคม จึงอยากมีแพลตฟอร์มที่ให้ทุกคนได้เข้าร่วม และการสร้างแอบพลิเคชันก็เป็นวิธีที่ตอบโจทย์ การใช้โทรศัพท์มือถือมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ คุณท็อปจึงเริ่มพัฒนาแอบพลิเคชันขึ้นมา แต่ตอนแรกยังไม่ประสบความสำเร็จมีคนดาวน์โหลดอยู่ที่ประมาณ 20,000 คนและคนที่ใช้งานจริงลดน้อยลงเรื่อยๆ จึงทำให้รู้ว่าแอพลิเคชั่นนี้ยังไม่ตอบโจทย์
“ECO LIFE เป็นการช่วยเหลือสังคมแบบทำได้เลย โดยไม่ต้องทำธุรกิจเพื่อช่วยเหลือสังคม”
การปรับปรุงแอบพลิเคชันใหม่ทำให้เริ่มมองเห็นในเรื่องของพลาสติกอย่างชัดเจน การพัฒนาแอบพลิเคชันใหม่ครั้งนี้มีเป้าหมายว่าแอบพลิเคชันตัวนี้จะต้องใช้งานง่าย สนุก และทำให้ทุกคนมีส่วนร่วม เพราะฉะนั้นแอบพลิเคชัน ECO LIFE ที่ถูกพัฒนาในครั้งนี้ จะมีการสะสมคะแนนเพื่อนำไปแลกสิทธิประโยชน์ในด้านต่างๆได้อีกด้วย และ การต่อยอดของ ECO LIFE ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะภายใน 2 เดือนจะมีการนำคิวร์อาร์โค้ดของแอบพลิเคชันไปติดตามร้านค้าในรั้วมหาวิทยาลัยกว่า 150 มหาวิทยาลัย ซึ่งทางบริษัท คิดคิด จำกัดเองได้มีการลงนาม MOU ร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในการดำเนินการครั้งนี้ด้วย การใช้คิวอาร์โค้ดก็ง่ายนิดเดียว ยกตัวอย่างเช่น เมื่อซื้อน้ำที่ร้านขายน้ำในมหาวิทยาลัยแล้วไม่รับหลอดพลาสติก เราสามารถแสกนคิวอาร์โค้ดเพื่อสะสมแต้มได้ว่าเราไม่รับหลอดพลาสติก หลังจากนั้นเราสามารถนำแต้มไปรับสิทธิประโยชน์อื่นๆที่มีในแอบพลิเคชันได้ เป็นต้น
ทำไมต้องเริ่มต้นกับนักศึกษา?
ส่วนตัวคุณท็อปเองมองเห็นพลังของนักศึกษา เวลาที่คุณท็อปไปตามมหาวิทยาลัยก็จะเห็นการพูดถึงในเรื่องของสิ่งแวดล้อมกันตลอด นักศึกษาเป็นคนรุ่นที่ยังต้องอยู่ต่อไปกับสิ่งแวดล้อมนี้ พวกเขาจะมีพลังในการขับเคลื่อนที่ดี เมื่อเริ่มจากนักศึกษาแล้ว ในตอนที่พวกเขาเรียนจบ ไปทำงาน พวกเขาจะติดนิสัยในการรักสิ่งแวดล้อมแบบนี้ออกไปด้วย นอกจากนี้หลังจากที่ประสบความสำเร็จในกลุ่มนักศึกษาแล้ว ก็จะมีการขับเคลื่อนไปยังกลุ่มมัธยมและกลุ่มวัยทำงานอีกด้วย
“เวลาได้ทำในสิ่งที่ชอบจะมีพลังขึ้นมา”
คุณท็อปเริ่มจากความรู้สึกสนุก ออกค้นหา แล้วชอบ เวลาที่ได้ทำในสิ่งที่ชอบเราจะมีพลังขึ้นมา ยิ่งสิ่งที่ชอบสามารถทำเป็นธุรกิจและสร้างรายได้เข้ามาได้ด้วย มันก็กลายเป็นกำลังในการทำต่อไปเรื่อยๆ ในการทำธุรกิจวิสาหกิจเพื่อสังคม แน่นอนการเป็นธุรกิจก็ต้องการกำไรเข้ามา แต่ในขณะเดียวกันก็จะมีการช่วยเหลือสังคมและสิ่งแวดล้อมไปด้วย ยิ่งพอทำไปเรื่อยๆก็จะยิ่งมีความชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเข้าร่วมและช่วยเหลือได้เยอะเท่าไร ยิ่งมีความน่าเชื่อถือได้มากเท่านั้น
“ในวันที่ท้อ เราก็แค่อยู่กับมัน ไม่หนี เดี๋ยวมันก็หาย”
การทำธุรกิจวิสาหกิจเพื่อสังคมลักษณะนี้เวลาที่มีความสุขก็คือดีใจที่ขายงานได้ ลูกค้าชอบความคิด ตกลงทำสัญญาร่วมกันได้สำเร็จ แต่มันต้องมีอยู่แล้ววันที่ล้มเหลว วันที่ท้อ ขายงานไม่ผ่าน ลูกค้าไม่ซื้องานสิ่งเหล่านี้ก็จะทำให้เกิดความรู้สึกแย่ลงไป แต่เมื่อเรารู้สึกแย่ เราก็แค่อยู่กับมัน ไม่หนี เดี๋ยวมันก็หาย เพราะสุดท้ายเราก็ต้องกลับมาทำงานให้ดีที่สุด ให้เรียบร้อย และผ่านพ้นความรู้สึกแย่เหล่านั้นไปได้
เป้าหมายข้างหน้า
ทุกคนมีสิทธิ์ในการเข้าถึงสิ่งแวดล้อมที่ดีได้ มีร้านค้าเข้าร่วมกับบริษัทมากขึ้นเรื่อยๆในตอนนี้ มีบริษัทที่อยากเข้าทำงานร่วมด้วย มีเรื่องที่ทำให้คนเข้าถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเรื่อยๆ คนก็มีโอกาสได้มีส่วนร่วมในการสร้างสิ่งแวดล้อมด้วยตัวเอง เพราะบางคนอยากจะช่วยเหลือสิ่งแวดล้อมแต่ไม่อาจเข้าถึงสิ่งแวดล้อมที่ดีได้ ไม่สามารถเข้าไปอยู่ในจุดที่สามารถยื่นมือเข้าไปช่วยได้ เป้าหมายของบริษัท คิด คิด จำกัดจึงเป็นเหมือนการสร้างการเข้าถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมแบบจับต้องได้ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
บทสรุป
คุณท็อปเล่าว่าตัวเองก็เป็นคนธรรมดา เพราะฉะนั้นต่อให้รักสิ่งแวดล้อมแค่ไหนก็ยังมีกิเลสด้วยอยู่ดี การช่วยสิ่งแวดล้อมไม่ได้หมายถึงการที่คุณจะต้องเป็นคนใสสะอาด รักสิ่งแวดล้อมตลอดเวลา ไม่ว่าคุณจะอยากช่วยสิ่งแวดล้อมมากหรือน้อย ปลายทางก็คือคุณสามารถช่วยเหลือสิ่งแวดล้อมได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นลองมองหาวิธีที่คุณสามารถช่วยสิ่งแวดล้อมได้ ทำไปเรื่อยๆบ่อยๆ วิธีไหนที่ทำแล้วไม่ถนัด ก็อย่าฝืน ลองเปลี่ยนวิธีในการช่วยเหลือสิ่งแวดล้อม ต่อไปการช่วยเหลือสิ่งแวดล้อมจะขยายออกไปเรื่อยๆเอง
“เลือกวิธีที่ถนัดและเป็นตัวเรา จะทำให้เราสามารถทำไปได้นาน”
คิด”เพื่อน”สังคม – The Practical Sustainability : วิสาหกิจ “เพื่อน” สังคม
หรือ จะเลือกรับฟังรายการ ในรูปแบบของ Podcast ได้ที่:
ช่องทางการติดต่อ
บริษัท คิด คิด จำกัด ที่อยู่ 432/31 Ladprao64, Yak4, Wangtonglang, Bangkok Thailand 10310 โทร (66) 44-065-744 เว็บไซต์ https://kidkid.co.th/ และ อีเมล์: contact@kidkid.co.th
สนับสนุนโดย สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม (สวส.)
บทความแนะนำ :
กรีน สไตล์ กับการพัฒนาและออกแบบ Eco Lifestyle ที่ตอบโจทย์ในยุคที่ต้องการลดภาวะ “ก๊าซเรือนกระจก”
แจสเบอร์รี่ โมเดลใหม่สำหรับชาวนาไทย ผลักดันข้าวไทยไปให้ไกลในตลาดโลก