กองทุนรวมตราสารหนี้ คืออะไร เป็นอย่างไร เสี่ยงแค่ไหน เหมาะกับคนทำงานอย่างเราไหม เดี๋ยวในบทความนี้ เราจะมาหาคำตอบกันว่ามันเป็นอย่างไร
มีคนแนะนำให้ลงทุนในทางอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ เงินฝาก เพราะดอกเบี้ยต่ำเหลือเกิน ทางเลือกการลงทุนนั้นมีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในหลักทรัพย์โดยตรง อาทิ หุ้น หุ้นกู้ และการลงทุนทางอ้อม หรือการที่ผู้ลงทุนนำเงินลงทุนมารวมกัน และ มอบหมายให้มืออาชีพหรือผู้เชี่ยวชาญ คือ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ที่มีผู้จัดการกองทุนเป็นผู้บริหารจัดการเงินให้ ซึ่งนั่นก็คือ
การลงทุนผ่านกองทุนรวม >> กองทุนรวมก็มีหลายหลายอีกแหละครับ อาทิ กองทุนรวมตลาดเงิน ตราสารหนี้ ตราสารทุน กองทุนผสม เป็นต้น
อยากลงทุนจริงๆ ก็ขอให้อดใจเอาไว้ก่อน ถ้ายังไม่เข้าใจ ยังไม่รู้ในสิ่งที่สนใจจะลงทุน ก็ชะลอเวลาตัดสินใจสักนิด เพื่อไปหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจจะดีกว่า
โดยวันนี้ผมจะพาไปทำความรู้จัก กับ เจ้ากองทุนรวม ที่ชื่อว่า กองทุนรวมตราสารหนี้ ครับ
กองทุนรวมตราสารหนี้คืออะไร?
กองทุนรวมตราสารหนี้ คือ “กองทุนรวม” ที่เน้นการลงทุนใน “ตราสารหนี้” (บทความก่อนหน้าได้เขียนนิยามของตราสารหนี้ไว้ครับ)
กองทุนรวมตราสารหนี้ จะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ เช่น หุ้นกู้บริษัทเอกชน พันธบัตรรัฐบาล ซึ่งผลกำไรจะขึ้นอยู่กับดอกเบี้ยของตราสารหนี้ นั้นๆแล้วผลกำไรนั้นก็จะสะท้อนอยู่ในมูลค่าของกองทุน (NAV) (กองทุนตราสารหนี้บางกองทุนอาจมีนโยบายจ่ายปันผล)
หากกองทุนรวมลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทเอกชน ก็จะได้ดอกเบี้ยสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาลเพราะความเสี่ยงของผู้ออกหุ้นกู้ที่เป็นเอกชนสูงกว่ารัฐบาล “high risk high return”
กองทุนรวมตราสารหนี้มีกี่แบบ?
กองทุนรวมตราสารหนี้ มีหลายแบบ หลายประเภท ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในเรื่องความเสี่ยง อัตราผลตอบแทน และ ระยะเวลาในการลงทุน แต่โดยมาก กองทุนตราสารหนี้ ก็จะแบ่งการลงทุนออกเป็น 2 แบบ หลักๆ เช่น
ลงทุนในกลุ่มตราสารหนี้ภาครัฐ เช่น พันธบัตรรัฐบาล, พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ, พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย, ตั๋วเงินคลัง
หรือ ลงทุนในกลุ่มตราสารหนี้ภาคเอกชน เช่น หุ้นกู้ เป็นต้น
อายุของ กองทุนรวมตราสารหนี้เป็นอย่างไร?
กองทุนรวมตราสารหนี้ แบ่งตามอายุได้ 2 แบบ ดังต่อไปนี้
- กองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น (Short-term fixed income fund) คือ กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในเงินฝากหรือตราสารหนี้ที่มีอายุเฉลี่ยไม่เกิน 1 ปี กองทุนรวมประเภทนี้เหมาะสําหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะสั้น และต้องการความเสี่ยงตํ่า
- กองทุนรวมตราสารหนี้ระยะยาว (Long-term fixed income fund) คือ กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในเงินฝากหรือตราสารหนี้ที่มีอายุเฉลี่ยมากกว่า 1 ปีขึ้นไป กองทุนรวมประเภทนี้เหมาะสําหรับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงตํ่าแต่สามารถลงทุนระยะยาวได้
กองทุนรวมตราสารหนี้มีความเสี่ยงต่ำจริงเหรอ?
กองทุนรวมตราสารหนี้มีความเสี่ยงต่ำ ส่วนหนึ่งมาจากการลงทุนในตราสารหนี้ที่คนลงทุนมีสถานะเป็นเจ้าหนี้ และได้รับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในรูปของดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตาม credit rating เปลี่ยนได้นะครับ เพราะเมื่อเวลาผ่านไป ก็เป็นไปได้ว่าอาจมีอย่างไรก็ตาม ไม่มีการลงทุนใดๆ ที่ไม่มีความเสี่ยง อยู่ที่ว่าแบบไหนเสี่ยงมาก หรือ เสี่ยงน้อยกว่ากัน แต่ที่แน่ๆ คือ อยากลงทุน แต่หากไม่ศึกษาหาความรู้และข้อมูลล่ะก็ เสี่ยงมากแน่นอน
การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้เป็นการลงทุนทางอ้อม ที่ต้องดูความเสี่ยงของตราสารหนี้ที่กองทุนไปลงทุน เช่น ความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ เพราะหากตราสารหนี้ที่กองทุนไปลงทุนมีปัญหา ก็จะกระทบกับผลตอบแทนหรือมูลค่าของกองทุนนั้น ๆ
แต่การลงทุนตราสารหนี้ผ่านกองทุนรวม ก็มีข้อดี คือช่วยลดปัญหาในเรื่อง ความเสี่ยงจากสภาพคล่องได้เพราะการซื้อขายกองทุนตราสารหนี้จะสามารถทำได้เลย โดยใช้เวลา 2 วันทำการ นับจากวันซื้อ – ขายหลักทรัพย์ (ทุกกองทุนขายได้ใน 2. วันทำการจริง ๆ เหรอ พี่นึกว่าแล้วแต่กองทุนเขากำหนด หรือเป็นเพราะของในกองทุนนั้น ผู้จัดการกองต้องเลือกของมีสภาพคล่องพอสมควร เลยรับประกันการขายคืนได้)
แต่การซื้อขายในตราสารหนี้โดยตรง จะขึ้นอยู่กับความต้องการซื้อตราสารหนี้ในช่วงนั้น ๆ ด้วย (อาจมีความเสี่ยงที่จะขายไม่ได้ หรือไม่ได้ตามเวลา/ราคาที่ต้องการ)
และเมื่อเป็นการลงทุนผ่านกองทุนรวม ก็เลี่ยงไม่ได้ที่คนซื้อจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม เช่น ค่าธรรมเนียมในการจัดการกองทุน ซึ่งแตกต่างจากการลงทุนโดยตรง
มีอีกประเด็นที่หลายคนสนใจ คือ เรื่องภาษีกองทุนรวมตราสารหนี้
ที่เริ่มจัดเก็บในปีนี้ ตั้งแต่ 20 ส.ค.62 ที่ผ่านมา วัตถุประสงค์หลักๆ ก็เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกับการลงทุนในตราสารหนี้โดยตรงที่มีการหัก ณ ที่จ่าย 15 % จากดอกเบี้ยที่ผู้ลงทุนได้รับ (เดิม ไม่มีการเก็บภาษีจากการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้)
แล้วจะกระทบกับผู้ลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ยังไง?
คำตอบคือกระทบทางอ้อม ครับ
การเก็บภาษีหัก ณ ที่จ่าย 15 % นี้ ผู้ที่ถูกหัก คือ “กองทุนรวมตราสารหนี้” โดยจะถูกหักเมื่อได้รับดอกเบี้ย
เมื่อกองทุนถูกหักภาษี > รายได้กองทุนลดลง > มูลค่าของกองทุนรวมลดลง (NAV ลดลง) นั่นเองครับ ซึ่งการลงทุนโดยตรง ผู้ซื้อหุ้นกู้ก็ต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% เช่นกัน
โดยสรุป การลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุน ที่เหมาะกับผู้ลงทุนที่คาดหวังผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝาก และยอมรับผลตอบแทนที่อาจต่ำกว่าหุ้นได้ โดยกองทุนรวมประเภทนี้ เหมาะสําหรับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้น้อยจนถึงปานกลาง ขึ้นอยู่กับประเภทตราสารหนี้ที่กองทุนไปลงทุน
อย่าลืมนะครับว่าก่อนลงทุนทุกครั้ง อ่านหนังสือชี้ชวนให้ละเอียด ศึกษาเงื่อนไขให้ดี ก่อนตัดสินใจลงทุน โดยศึกษาให้ดีว่ากองทุนตราสารหนี้นั้นไปลงทุนในตราสารหนี้ประเภทไหน มีความน่าเชื่อถือหรืออันดับเครดิตเรตติ้งเท่าไหร่ด้วยนะครับ หรือ อาจจะแวะเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ของ ก.ล.ต.> www.sec.or.th เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมก็ได้เช่นกัน
บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับ หุ้นกู้ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ :
หุ้นกู้ ไม่ใช่การกู้เงินมาลงทุน แล้ว หุ้นกู้ จริงๆ แล้วคืออะไร เหมาะกับใคร?
การลงทุนในหุ้นกู้ เราจำเป็นจะต้องมีความรู้ในเรื่องอะไรบ้าง?