ทำไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง? - 8 เหตุผลและสาเหตุ ว่าทำไมคุณถึงไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง

ทำไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง? ในบทความนี้ ได้รวบรวม 8 เหตุผลและสาเหตุ ว่าทำไมคุณถึงไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง ลองมาดูกันว่าวันนี้ที่เรายังไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง เป็นเพราะเหตุผลหรือสาเหตุใน 8 ข้อนี้หรือเปล่า

คุณคือพนักงานที่ทำงานให้บริษัทเดิมมาสองถึงสามปีแล้วโดยที่ตั้งใจทำงานมาตลอด เข้างานก่อนเวลา ไม่เคยมาสาย วันลาก็แทบจะไม่ได้ใช้ เจ้านายให้ทำโอทีก็ไม่เคยปฏิเสธ แต่ความก้าวหน้าหรือการเป็นคนที่ได้เลื่อนตำแหน่งดูจะอยู่ไกลเกินเอื้อมหรือเปล่า? หรือ ทำงานมาตั้งนานก็แล้ว ทำไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง?

“ผลไม้แวววาว ที่อยู่สูงเกินเอื้อมถึง”

เมื่อความก้าวหน้าเปรียบเสมือนเป็นผลแอปเปิ้ลแวววาวที่อยู่ไกลจากพื้นดินมากเกินไปจนตัวของคุณไม่สามารถคว้ามันมาได้ คุณต้องเริ่มคิดว่านอกเหนือจากประสิทธิภาพการทำงานและจำนวนชั่วโมงการทำงานที่คุณทุ่มเทให้กับบริษัทแล้ว ยังมีอะไรอีกบ้างที่ทำให้เพื่อนร่วมงานหลายคนได้เลื่อนตำแหน่ง แต่ตอนนี้ทำไม่ถึงคิวของคุณสักที หากคุณต้องการปีนบันไดเพื่อไปให้ถึงผลไม้ที่กำลังยั่วยวนคุณอยู่บนต้นไม้สูงนั้น ขอให้คุณลองพิจารณา 8 เหตุผลและสาเหตุต่อไปนี้ดูว่าคุณกำลังอยู่ในจุดที่ตัวเองพลาดอยู่หรือเปล่า

1. การเลื่อนตำแหน่งไม่ได้ขึ้นอยู่กับระยะเวลา

คุณอาจรู้สึกว่าไม่ยุติธรรม เมื่อเห็นเพื่อนร่วมงานที่เข้างานมาได้เพียงปีหรือสองปี หรือ มีอายุงานที่น้อยมากกลับได้เลื่อนตำแหน่งก่อนหลายคนที่เข้าทำงานมาแล้วห้าปีหรือหกปี แถมคุณเองที่อยู่มาก่อนเขาก็ไม่ได้เลื่อนตำแหน่งเสียด้วย

“ระยะเวลาไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้ใครได้เลื่อนตำแหน่ง”

พนักงานจำนวนมาก ถือเอาเรื่องเวลาเป็นสำคัญในการที่ใครสักคนจะได้เลื่อนตำแหน่ง แต่ความจริงแล้วในหลายๆ บริษัท เรื่องของระยะเวลาในการทำงานหรือายุงานถือเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญไม่มากอย่างที่คิด ในการที่จะได้เลื่อนตำแหน่ง สิ่งที่สำคัญที่แท้จริง ก็คือความก้าวหน้าโดยรวมของคุณและขั้นตอนที่คุณทำเพื่อให้ได้รับความก้าวหน้า หากคุณยังไม่แน่ใจว่าคุณควรทำอะไรเพื่อให้ไปถึงความก้าวหน้าที่คุณต้องการ ให้ลองพูดคุยกับผู้จัดการอย่างตรงไปตรงมาเพื่อเกี่ยวกับเรื่องของการเติบโตของคุณในบทบาทที่คุณทำอยู่

2. สนับสนุนตัวเอง

หนึ่งเหตุผลที่คนไทยเป็นกันเยอะก็คือ พวกเขาไม่พูดเพื่ออนาคตของตัวเอง การพูดว่า “ไม่เป็นไร เล็กน้อย” หรือ “ไม่ลำบากเลย เล็กน้อยมาก” คำพูดเหล่านี้แม้จะแสดงให้เห็นว่าคุณใจกว้าง แต่คุณกำลังทำให้คนฟังเสียนิสัยด้วยการมองว่าการมีส่วนร่วมของคุณเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย และพวกเขาอาจมองข้ามความพยายามในการทำงานของคุณไปได้

“ให้เครดิตเมื่อถึงกำหนดชำระ แล้วคนอื่นจะรับรู้ถึงความสำเร็จของคุณ”

คุณต้องหัดที่จะยอมรับคำชมในงานของคุณ หรือติดตามความสำเร็จและความคืบหน้าของตัวเองเสียบ้าง เพื่อให้คุณมีเรื่องที่จะเอาไปพูดคุยกับผู้จัดการหรือหัวหน้าในการเลื่อนตำแหน่ง การที่คุณทำให้คนอื่นมองว่าความพยายามในการทำงานของคุณเป็นเรื่องเล็กน้อย พวกเขาจะใช้งานคุณโดยไม่ได้ยกย่องหรือเห็นความสำคัญ ซึ่งนั่นคือเหตุผลที่อาจทำทำให้คุณไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง

3. เจ้านายอ่านใจไม่ออก

คุณอาจจะประหลาดใจถ้ารู้ว่าเพื่อนร่วมงานของคุณได้ตำแหน่งที่ต้องการเพราะพวกเขาเข้าไปพูดกับผู้จัดการหรือหัวหน้าโดยตรง ไม่ใช่พนักงานทุกคนที่จะต้องการเลื่อนตำแหน่ง แม้ว่าการเลื่อนตำแหน่งตจะมาพร้อมกับเงินเดือนที่สูงขึ้น แต่ก็มาพร้อมความรับผิดชอบที่มากขึ้นและรูปแบบงานที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย พนักงานหลายคนพอใจกับตำแหน่งที่เป็นอยู่แล้ว เมื่อถูกเลื่อนตำแหน่งพวกเขาเลยไม่ประสบความสำเร็จหรือทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้นหากคุณไม่บอกเจ้านายของคุณว่าคุณต้องการก้าวไปข้างหน้าหรือไม่ เจ้านายของคุณก็ไม่มีทางรู้แน่นอนว่านั่นคือสิ่งที่คุณต้องการนั่นเอง ดังนั้นอยากได้อะไร หากดูแล้วว่าคุณเองก็มีโอกาสและสมควรที่จะได้ ก็ต้องกล้าที่จะคุยแบบตรงไปตรงมากับเจ้านายของคุณ

4. ไม่แสดงความเป็นผู้นำ

การเลื่อนตำแหน่งไม่ได้หมายถึงการก้าวเข้าสู่ตำแหน่งใหม่เท่านั้น แต่หมายถึงการก้าวเข้าสู่จุดที่ต้องดูแลและจัดการพนักงานคนอื่นๆได้อีกด้วย แม้ว่างานปัจจุบันของคุณอาจจะทำได้ดี แต่ถ้าหากคุณยังไม่ได้แสดงให้เห็นถึงภาวะความเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพได้ คุณก็อาจจะไม่ได้รับการพิจารณาให้เลื่อนตำแหน่งได้เช่นกัน

5. วิเคราะห์ผลงานที่ผ่านมา

หากคุณมีการทำงานที่มีประสิทธิภาพที่ดี แต่ไม่มีโอกาสในการโปรโมตเลย ประสิทธิภาพของคุณอาจไม่ได้ช่วยให้คุณก้าวไปสู่ระดับที่คุณต้องการได้ คุณต้องวางแผนสำหรับการไต่ระดับไปสู่จุดที่คุณตั้งเป้าไว้

“ถึงเวลาแล้วที่คุณจะโปรโมตตัวเอง”

หากคุณได้รับคำชื่นชมหรือการตอบรับที่ดีเยี่ยมอย่างสม่ำเสมอ แต่ยังไม่ก้าวหน้าในอาชีพการทำงานของคุณ ให้คุณเลือกที่จะเปิดบทสนทนาอย่างตรงไปตรงมากับผู้จัดการหรือหัวหน้าของคุณเกี่ยวกับจุดแข็งและจุดอ่อนที่คุณมี สอบถามว่าเกณฑ์การเลื่อนตำแหน่งคืออะไร และคุณควรทำอย่างไรถึงจะสามารถบรรลุเป้าหมายนั้นได้

6. การตอบสนองต่อความคิดเห็น

คำวิจารณ์ที่สร้างสรรค์ห ากออกมาในรูปแบบคำติหรือคำแนะนำให้ดีขึ้นมันอาจจะทำให้คุณเจ็บใจอยู่เพียงชั่วครู่ แต่หากคุณต้องการจะพัฒนาตัวเองจริงๆให้คุณลุกขึ้นเดินออกจากความเสียใจนั้นแล้วดึงคำแนะนำเหล่านั้นมาแก้ไข

“เต็มใจรับคำติชม”

การพร้อมรับคำติชมหรือคำวิจารณ์ที่สร้างสรรค์ เป็นตัวบ่งชี้ที่ดีสำหรับหัวหน้าที่จะตัดสินว่าพนักงานคนนั้นสมควรได้รับการเลื่อนตำแหน่งหรือไม่ คนที่จะได้เลื่อนตำแหน่งไปอยู่ในจุดท่าสูงขึ้นต้องเป็นคนที่พร้อมรับและใช้คำติชมไปปรับปรุงผลงานตัวเอง ดังนั้นเมื่อคุณได้รับคำติชมไป ให้สงบสติอารมณ์และต่อต้านความต้องการที่จะโต้เถียงในใจ รับฟังอย่างเปิดใจ ย้อนมองตัวเองและปรับปรุง นี่คือส่วนหนึ่งของการเติบโตและการพัฒนาอาชีพ

7. ไม่พิจารณาภาพรวม

บางครั้งดูเหมือนว่าสิ่งที่คุณทำได้ คือพยายามมองหาความสร้างสรรค์ในแต่ละวันในการทำโครงการและการประชุม โดยที่ความพยายามเหล่านั้นทำให้คุณลืมมองภาพรวมไป

“เมื่อผู้คนหมกหมุ่นอยู่กับโครงการของตัวเอง พวกเขาจึงพลาดโอกาสในการพัฒนาภาพรวม”

ผู้คนใช้ทรัพยากรทั้งหมดไปกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ พยายามจับผิดงานตัวเองในขั้นตอนต่างๆ หมกหมุ่นอยู่กับการมองหาความผิดพลาดเหล่านั้นราวกับกำลังเล่นเกมจับผิดภาพ แต่นี่คือเหตุผลที่พวกเขาพลาดโอกาสในการมองภาพรวมเพื่อพัฒนาความคิดเชิงกลยุทธ์ ดังนั้นสิ่งที่คุณควรทำคือ มองให้ครบทุกด้วน มองให้เห็นภาพรวมเพื่อพิจารณาเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น นี่คือวิธีที่คุณช่วยขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายเหล่านั้นได้

8. ยังคงอยู่ใน Comfort Zone

คุณอาจไม่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเพราะคุณให้ความสำคัญกับการรับผิดชอบรายละเอียดงานปัจจุบันมากเกินไป การพิสูจน์ว่าคุณคู่ควรกับตำแหน่งคือการที่คุณต้องแสดงความสามารถในการก้าวไปข้างหน้าให้เหนือกว่าคนอื่นและเหนือกว่าบทบาทในตำแหน่งปัจจุบันของคุณด้วย หากคุณทำได้ดีเท่ากับตำแหน่งก็ไม่มีเหตุผลที่จะจับคุณไปอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่าเดิม

บทสรุป

ทุกคนมักพูดถึงการเลื่อนตำแหน่งว่าเป็นดุลยพินิจของผู้จัดการ หัวหน้า หรือบริษัท บางคนบอกว่าเป็นเพราะดวง บางคนบอกว่าเป็นเพราะความลำเอียงของหัวหน้า แต่น้อยคนที่จะหันกลับมามองตัวเอง คุณอาจคิดว่าการจัดการคู่แข่งเป็นเรื่องง่ายๆ ทั้งที่จริงๆ แล้วการพูดน่ะง่าย ทำจริงน่ะยากเหลือเกิน หากพนักงานไม่กล้าแสดงความสามารถในการเป็นผู้นำและไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้มาซึ่งทักษะที่จำเป็นต่อการเลื่อนตำแหน่ง หัวหน้าไม่มีทางย้ายพวกเข้าไปสู่ตำแหน่งขั้นสูงแน่นอน

ดังนั้นหลังจากอ่านบทความนี้จบให้คุณลองมองตัวเองตาม 8 ข้อด้านบนแล้วแก้ไขข้อบกพร่องของตัวเองเหล่านั้นเสีย หลังจากนั้นค่อยมาลองกันใหม่ว่าหัวหน้าจะเลื่อนขั้นให้คุณหรือไม่