ทำไมเราควรจ้างคุณ เข้ามาทำงาน หากเราต้องมาเจอกับคำถามตรงๆ แบบนี้ เราจะตอบอย่างไร? จะเลือกใช้เหตุผลแบบไหน ที่ตอบไปแล้ว เราจะมีโอกาสได้งาน
โดยปกติแล้วก่อนที่เราจะเข้าสู่กระบวนการสอบสัมภาษณ์ของบริษัทใดก็ตามที่เรายื่นใบสมัครไป เราจะต้องพยายามค้นหาชื่อบริษัทนั้นลงใน Google แล้วพิมพ์คำว่าสัมภาษณ์ลงไปเพื่ออ่านรีวิวหรือประสบการณ์การสัมภาษณ์กับบริษัทดังกล่าว หรือ แม้แต่การค้นหาเทคนิคการสอบสัมภาษณ์อย่างไรให้ได้ใจผู้สัมภาษณ์ ซึ่งเราจะพบกับเทคนิคและวิธีการมากมาย เช่ย การมองตาขณะพูด การแนะนำตัวให้ดี การเล่าถึงประสบการณ์การทำงาน หรือพูดถึงจุดอ่อนและความต้องการจะพัฒนาอย่างไม่ต้องอาย แต่ตอนนี้มาถึงคิวคำถามที่อาจจะทำลายความมั่นใจผู้ฟังอย่างเราที่เป็นคนถูกสัมภาษณ์ไปเกินกว่าครึ่ง นั่นก็คือ คำถามที่ว่า
“ทำไมเราควรจ้างคุณ เข้ามาทำงาน”
เมื่อคำถามจบแล้ว คุณเองก็อาจจะมีคำตอบอยู่แล้วเกิดขึ้นทันทีในหัวว่า “นั่นน่ะสิ ทำไมจะไม่ใช่เราล่ะ” แต่คุณจะตอบเหมือนเสียงในหัวหรือสิ่งที่คิดในใจไม่ได้เด็ดขาด เพราะนี่เป็นคำถามที่น่ากลัวมาก เพราะมันจะสร้างความไม่มั่นใจให้แก่ผู้ฟังแน่นอนอยู่แล้ว แต่ข่าวดีก็คือ คำถามนี้กลับกลายมาเป็นโอกาส ที่จะทำให้คุณได้สรุปความพิเศษของตัวเองและบอกพวกเขาว่าทำไมคุณถึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่พวกเขาควรเลือก
เหตุใดที่ผู้สัมภาษณ์ ถึงต้องถามคำถามนี้
ผู้สัมภาษณ์ใช้คำถามนี้ เพราะเขาต้องการทราบมุมมองของคุณ ว่าทำไมคุณถึงคิดว่าตัวเองเหมาะสมกับงานหรือตำแหน่งที่คุณสมัครเข้ามา? เห็นได้ชัดว่าพวกเขาพยายามล้วงความลับสิ่งนั้นด้วยตัวเองระหว่างสัมภาษณ์ ดังนั้นการที่คุณตอบอย่างจริงใจ จะทำให้ผู้ฟัง (ผู้สัมภาษณ์) เข้าใจมุมมองของคุณมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ผู้สัมภาษณ์อาจจะเห็นอยู่แล้วว่าคุณสามารถทำงานได้ แต่พวกเขาต้องการทราบว่าคุณคิดว่าคุณสมบัติอะไรที่ทำให้คุณแตกต่างจากผู้สมัครคนอื่นๆ อีกด้วย
4 กลยุทธ์ในการเตรียมการตอบคำถาม “ทำไมเราถึงควรจ้างคุณ”
โอกาสของคุณในการเสนอขายตัวเองมาถึงแล้ว คุณสามารถบอกผู้สัมภาษณ์ถึงสิ่งที่พวกเขาอาจพลาดไปเกี่ยวกับคุณได้ เช่น ทักษะของคุณช่วยองค์กรได้อย่างไร? หรือ คุณสามารถเพิ่มเติมสิ่งดีๆ ให้กับบริษัทได้อย่างไรบ้าง? เป็นต้น เพื่อให้คุณตอบคำถามข้อนี้ พร้อมเสนอขายตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณสามาถเลือกใช้ 1 ใน 4 กลยุทธ์ได้ดังต่อไปนี้
1. กลยุทธ์ หา “จุดร่วม”:
วิธีนี้คุณต้องค้นหาจุดร่วมกันระหว่างความต้องการของผู้สัมภาษณ์กับสิ่งที่คุณมี หรือคุณจะทำหากได้รับการว่าจ้าง โดยพื้นฐานแล้วคุณควรเข้าใจว่าทุกบริษัทต้องการพนักงานที่มีความกระตือรือร้นและทักษะความสามารถที่เหมาะสมสำหรับการทำงานในตำแหน่งนั้นๆ ดังนั้นการตอบคำถามนี้ จึงควรเริ่มด้วยการบอกว่าบริษัทจะได้รับอะไรจากทักษะและความสามารถของคุณ และด้วยทักษะและความสามารถนั้นจะทำให้คุณมีแรงจูงใจให้ทำงานที่นี่ ซึ่งสิ่งนั้นมีความหมายต่อการทำงานในสายอาชีพของคุณเป็นอย่างมากนั่นเอง
กุญแจสำคัญ คืออย่าลืมพูดถึงตัวเองด้วยในด้านของผลประโยชน์ เพราะบางคนก็เอาแต่พูดถึงผลประโยชน์ที่บริษัทจะได้รับ ซึ่งก็ดูแล้วไม่สมจริงเท่าไร หากจะบอกว่าผลประโยชน์ที่บริษัทได้ คือแรงจูงใจในการทำงานส่วนตัวของคุณ แต่สำหรับผู้สัมภาษณ์แล้ว การใช้คำถามนี้ให้สำเร็จ คือเขาต้องการค้นพบว่าสิ่งที่เป็นแรงผลักดันและแรงจูงใจในการทำงานของคุณคืออะไรนั่นเอง
ตัวอย่างคำตอบ ในตอนที่ฉันยังทำงานอยู่ที่เก่า ฉันทำในด้านการสื่อสาร เริ่มต้นจากรับผิดชอบในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ จนกระทั่งมีความรับผิดชอบในมือเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ผลงานก็เริ่มแสดงให้ทุกคนได้เห็น ฉันเลยกลายเป็นคนได้รับโอกาสทำกิจกรรมหรือโครงการใหญ่ๆ ที่สำคัญของแผนกเสมอ ฉันกระตือรือร้นที่จะพัฒนาตัวเองในด้านการสื่อสารและการทำงานที่ชิ้นใหญ่ขึ้นเสมอ คุณบอกว่าบริษัทของคุณกำลังมองหาคนที่สามารถทำงานร่วมกับคนอื่นๆ ในหลายแผนกได้ และต้องมีการสื่อสารที่ดี ฉันพบว่าตัวเองประสบความสำเร็จในเรื่องนี้มาแล้วและก็กระตือรือล้นที่จะได้ใช้ประสบการณ์ที่มีมาเป็นแนวทางในการทำงานกับที่นี่ได้
2. กลยุทธ์ “เจาะลึกบริษัท” :
ผู้สัมภาษณ์บางคนเตรียมใจมาแล้วสำหรับคำถามนี้ ไม่ว่าผู้สัมภาษณ์จะพูดคำถามเต็มหรือถามแบบทางอ้อมก็ตาม แต่หากคุณคือ ผู้สัมภาษณ์ที่ไม่ได้เตรียมตัวมา หรือมีประสบการณ์กับคำถามนี้มาก่อนหลายครั้ง ตัวเลือกที่ดีที่สุด คือการให้คุณแสดงความทุ่มเทของคุณต่อบริษัทเพื่อทำให้พวกเขาประทับใจแทน
ก่อนสัมภาษณ์ คุณต้องมั่นใจว่าคุณได้เตรียมตัวโดยการอ่านข้อมูลทั่วไปและข้อมูลเชิงลึกของบริษัทเรียบร้อยแล้ว จากนั้นให้คุณแบ่งปันความรู้ที่ครอบคลุมเกี่ยวกับข้อมูลที่คุณอ่านมาและความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีที่คุณอาจเพิ่มเข้าไปได้เพื่อพัฒนาองค์กรตลอดจนการทุ่มเทเพื่อธุรกิจและพันธกิจของบริษัท การเชื่อมโยงเรื่องราวของตัวเองเข้ากับบริษัท การทำลักษณะนี้จะแสดงให้เห็นถึงความกระตือรือล้นของคุณในการเข้าทำงานในตำแหน่งที่สมัครเข้ามา นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นว่าคุณเป็นคนที่ฝึกอบรมง่ายกว่าคนอื่นๆ และแสดงให้เห็นว่าคุณมีการเตรียมตัวและจัดการกับสิ่งที่ต้องทำอย่างไรนั่นเอง
ตัวอย่างคำตอบ นอกจากประสบการณ์การสรรหาบุคลากรแบบครบวงจรตลอด 5 ปีในบริษัทเกมแล้ว ฉันยังเป็นแฟนตัวยงของ Triple-A Gaming มาเป็นเวลานาน และได้ติดตามความพยายามในการหาบุคลากรของบริษัทคุณอย่างใกล้ชิดเพื่อเรียนรู้ ฉันรู้ว่าคุณพยายามอย่างมากในการออกแบบของรางวัลที่เป็นรางวัลให้กับพนักงานประจำปี ซึ่งฉันเองก็มีประสบการณ์ในเรื่องนี้เช่นกัน นอกจากนี้ฉันก็มีความรู้เกี่ยวกับธุรกิจของคุณมากกว่าบริษัทปัจจุบันของฉันด้วยซ้ำ จากประสบการณ์ในการคัดสรรหาบุคลากร ทำให้ฉันเข้าใจว่าผู้สมัครจะตอบสนองเมื่อพวกเขาสัมผัสได้ว่านายจ้างมีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับงาน บริษัท และทีมของพวกเขาอย่างแท้จริง ซึ่งฉันมีสิ่งนั้นและฉันสามารถช่วยค้นหาผู้อื่นที่มีเช่นกัน
3. กลยุทธ์ “แก้ปัญหาของคุณ” :
บ่อยครั้งที่องค์กรจ้างคนใหม่ เพราะพวกเขามีปัญหาที่ต้องแก้ไขและบุคลากรที่มีอยู่ก็ไม่มีใครสามารถแก้ไขปัญหาตรงนี้ได้ คุณสามารถตอบคำถามนี้ได้อย่างตรงประเด็น โดยสรุปตามสิ่งที่พวกเขาขาดและบอกว่าคุณสามารถบรรเทาหรือแก้ไขปัญหานั้นได้อย่างทันท่วงที อย่าใช้เวลาทั้งหมดไปกับการพูดถึงอดีตแต่ให้มุ่งความสนใจไปที่อนาคตและอธิบายว่าคุณจะทำให้การทำงานของบริษัทง่ายขึ้นได้อย่างไร? สิ่งนี้จะแสดงให้เห็นว่าคุณเป็นผู้เล่นในทีมที่มีความคิดก้าวหน้าและพร้อมลุยเต็มที่
ตัวอย่างคำตอบ ฉันรู้ว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นของบริษัทเป็นอย่างมากเพราะบริษัทกำลังอยู่ในช่วงเติบโตอย่างรวดเร็วเป็นอย่างมาก มีสินค้าที่น่าสนใจใหม่ๆ ออกมามากมาย อย่างไรก็ตามจากประสบการณ์ที่ฉันเคยผ่านมา สถานการณ์แบบนี้อาจเป็นเรื่องยากสำหรับทีมขายในการทำความเข้าใจว่าผลิตภัณฑ์ใหม่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่อย่างไร? การขายผลิตภัณฑ์ที่คุณรู้จักดีนั้นง่ายกว่าเสมอ ฉันมีประสบการณ์กว่าทศวรรษในฐานะผู้ฝึกสอนการขาย แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือส่วนใหญ่ฉันทำงานกับทีมขายที่อยู่ในเรือลำเดียวกับ Gen Tech ซึ่งบริษัทนั้นมีการเติบโตที่ยอดเยี่ยมมาก และถ้าบริษัทที่เหลือสามารถตามทันได้ ฉันมั่นใจว่าฉันสามารถทำให้ทีมขายมีความมั่นใจและกระตือรือร้นที่จะขายผลิตภัณฑ์ใหม่โดยการใช้หลักสูตรการฝึกอบรมการขายอย่างต่อเนื่องได้
4. กลยุทธ์ “ฟีเจอร์โบนัส” หรือ ของแถม :
คุณมีคุณสมบัติครบถ้วน สามารถทำงานได้แน่นอน แต่คุณก็มีกลยุทธิ์ “ฟีเจอร์โบนัส” ที่จะช่วยคุณในเรื่องที่อาจไม่บังคับอย่างเคร่งครัดหรือแม้แต่ระบุไว้ในรายละเอียดงาน แต่มีประโยชน์ในงานอย่างปฏิเสธไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจสมัครงานฤดูร้อนครั้งแรกในฐานะวัยรุ่นแผนกค้าปลีกของบริษัท ซึ่งทำให้คุณมีมุมมองไม่เหมือนใคร หรือการสมัครตำแหน่งทางการตลาดที่บริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์ ความรู้ด้านประสาทวิทยาของคุณทำให้คุณเข้าใจปัญหาที่บริษัทมีอย่างลึกซึ้งและหาทางแก้ไขให้กับองค์กรได้ กลยุทธ์นี้ คือการพูดถึงประสบการณ์หรือทักษะพิเศษใดๆ ที่คุณมีซึ่งอาจเกี่ยวกับข้องกับงานที่คุณสมัคร มันคุ้มค่าที่จะพูดในกรณีที่ผู้สัมภาษณ์ยังไม่ได้พูดโดยรวม
ตัวอย่างคำตอบ ในฐานะผู้ช่วยผู้บริหาร ฉันได้จัดการตารางเวลาและจองการเดินทางของบริษัท ฉันมีหน้าที่รับผิดชอบในการตรวจสอบบัญชีอีเมล์หลายบัญชี และจัดการรายงานค่าใช้จ่าย ฉันแน่ใจว่าทุกอย่างอยู่ในที่ที่ควรจะเป็นและพบว่าถ้าหากมีบางอย่างผิดปกติก็จะรายงานทันที หรือ ไม่ว่างานเล็กหรือใหญ่ ฉันก็ทำเต็มที่แล้วทุกงาน ในหน้าที่สุดท้ายที่ฉันรับผิดชอบ คือฉันมักจะโทรติดต่อประสานงานกับหน่วยงานที่สเปนให้หัวหน้าค่อนข้างบ่อย จึงจำเป็นต้องใช้ภาษาสเปน คุณบอกว่าบริษัทของคุณจะมีทริปที่จะต้องเดินทางไปสเปนบ่อยๆ ดังนั้นฉันมั่นใจว่าความสามารถทางภาษาสเปนของฉันจะเป็นประโยชน์ในบทบาทนี้
สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อตอบว่า “ทำไมเราควรจ้างคุณ”
1. อย่าเพิ่งพูดทุกอย่างอย่างครอบคลุม – คุณสามารถพูดได้ว่างานในตำแหน่งนี้ต้องการคนที่มีคุณสมบัติแบบไหน แต่ไม่ใช่แค่คุณ ผู้สมัครทุกคนที่ถูกเรียกมาสัมภาษณ์ พวกเขามีคุณสมบัตินี้ทั้งนั้น ตามหลักการแล้วตอบของคุณควรเป็นการพูดถึงสิ่งที่คิดว่าผู้สมัครคนอื่นไม่มีมากกว่าจะดีกว่า
2. อย่าคิดว่าพวกเขาจะปะติดปะต่อเอง – อย่าพลาดด้วยการใช้เวลาทั้งหมดในการพูดถึงทักษะและประสบการณ์ที่ผ่านมาของคุณโดยละเลยที่จะพูดว่าทั้งหมดนี้เชื่อมโยงกับองค์กรและบทบาทที่คุณสมัครเข้ามาอย่างไร? เพราะหากคุณจะมานั่งคาดหวังให้ผู้สัมภาษณ์เชื่อมโยงเรื่องราวของคุณเอาเองเป็นไปไม่ได้แน่ๆ เพราะเขาคงไม่ได้อยากมาเสียเวลาให้กับคุณเพียงคนเดียว
3. อย่าเล่าเรื่องชีวิตทั้งหมด – เป็นการยากที่จะทราบว่าเมื่อใดที่คำตอบเพียงพอแล้ว แต่ขอให้วางใจให้ผู้สัมภาษณ์ถามคำถามติดตามผลต่อไป หากพวกเขาต้องการรู้เพิ่มเติม พวกเขาจะแสดงออกว่าไม่ต้องการคำตอบที่กระชับหรือครอบคลุมทุกเหตุผล แต่ต้องการให้คุณอธิบายโดยละเอียดว่าทำไมคุณควรได้รับการว่าจ้าง แม้จะสนับสนุนให้คุณเล่าแต่ไม่ใช่ทั้งหมด เล่าเรื่องที่สามารถเล่าได้ แต่อย่าเล่าทุกอย่างที่เกี่ยวกับตัวเองโดยเฉพาะเรื่องที่ไม่จำเป็นและเรื่องที่เล่าออกไปแล้วก็ไม่ได้ช่วยให้มีโอกาสได้งานมากขึ้น
บทสรุป
การสอบสัมภาษณ์เป็นการวัดในเรื่องของการพูด ทัศนคติ และการวางตัว ซึ่งแต่ละคำถามนอกจากจะเป็นสิ่งที่ผู้สัมภาษณ์อยากรู้โดยตรงแล้ว ยังมีคำถามอ้อมอีกมากมายที่ผู้สัมภาษณ์ใช้ เพื่อเรียนรู้จักตัวคุณตลอดช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันในห้องสัมภาษณ์ เพราะฉะนั้นครั้งต่อไปที่คุณสัมภาษณ์งานแล้วต้องเผชิญหน้ากับคำถามสุดกดดัน “ทำไมเราจึงควรจ้างคุณ” ให้คุณลองเลือกใช้กลยุทธ์ข้างต้นที่คุณคิดว่าเหมาะสมกับคุณในการตอบคำถามนี้ดู
“คุณจะเป็นที่จดจำได้ ก็ต่อเมื่อคุณมีสิ่งที่แตกต่างจากคนอื่น และ ส่ิงนั้นเป็นสิ่งที่เขาต้องการ”
Reference:
4 Better Ways to Answer “Why Should We Hire You?”
บทความแนะนำ:
ต่อรองเงินเดือน อย่างไร? ให้สำเร็จ กับ 37 วิธี ในการต่อรองเงินเดือนที่เราควรรู้