จากตอนที่แล้วทุกคนคงได้ไขข้อข้องใจเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีน การปฏิบัติตัวทั้งก่อนฉีดและหลังฉีดวัคซีน และความเคลือบแคลงใจเกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีนกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เราคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเรื่องราวของวัคซีนในตอนนี้เป็นหัวข้อสนทนาที่ยังมีการตั้งข้อสงสัยกันอยู่อย่างต่อเนื่อง จะฉีดที่ไหน? ฉีดอย่างไร? ต้องทำตัวอย่างไร?
ผู้สูงอายุจะได้รับวัคซีนได้อย่างไร? ถึงแม้ว่าตอนนี้จะมีประชาชนมากมายได้รับวัคซีนแล้วจากการลงทะเบียนเข้ารับวัคซีนของศูนย์ฉีดวัคซีนตามหน่วยงานต่างๆ แต่ยังมีคนอีกมากมายที่รอต่อคิวเข้ารับวัคซีนอยู่
วันนี้แอดมิน จะพาทุกคนมาดู เบื้องหลังปฏิบัติการ ของศูนย์ฉีดวัคซีนผ่านบทสัมภาษณ์ของ ผศ.นพ.อาทิตย์ บุญยรางกูร ผู้อำนวยการศูนย์ฉีดวัคซีนธรรมศาสตร์รังสิต ที่จะทำให้ทุกคนเข้าใจถึงระบบการทำงานของศูนย์ฉีดวัคซีนมากขึ้น และเตรียมพร้อมก่อนที่จะถึงคิวของคุณในการมารับวัคซีน
การก่อตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนธรรมศาสตร์
คุณหมอ เล่าให้ฟังว่าศูนย์ฉีดวัคซีนธรรมศาสตร์เกิดจากแนวคิดที่ว่าการแก้ปัญหาโควิด-19 ที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็คือการฉีดวัคซีน ยิ่งฉีดได้เยอะเท่าไรยิ่งเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ลดโอกาสการระบาดเชื้อโควิด-19 ได้ดีเท่านั้น
โดยการจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนธรรมศาสตร์เกิดจากการ่วมมือของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ทั้งทางด้านบุคลาการ อาสาสมัครและสถานที่ โดยศูนย์ฉีดวัคซีนธรรมศาสตร์ตั้งอยู่ ยิม 4 ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อความสะดวกในการเดินทางและเป็นสถานที่ที่ปลอดโปร่งระบายอากาศ จึงลงความเห็นกันว่าเหมาะสมที่สุดในการจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีน
จุดที่ 1 จุดรับ-ส่ง
จุดแรกนี้เป็นจุดที่รถสามารถเข้ามาส่งผู้ที่เดินทางมารับวัคซีนได้ถึงตรงจุดคัดกรอง และมีรถเข็นคอยบริการอยู่ตลอด เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สูงอายุมากที่สุด ผู้สูงอายุที่มีญาติมาด้วยก็จะให้ญาติช่วยเข็นรถเข็นพาไปตามจุดบริการต่างๆ แต่หากไม่มีญาติมาด้วยจะมีอาสาสมัครคอยช่วยบริการอยู่ตลอด
“บริบทของศูนย์ฉีดวัคซีนธรรมศาสตร์จะต่างจากที่อื่น เพราะเราให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุมากๆ”
ไม่ใช่แค่เพียงจุดที่ 1 เท่านั้นที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สูงอายุ ตั้งแต่ทางเข้า จนถึงจุดนั่งพักหลังฉีดวัคซีนจะมีเส้นทางและทางลาดสำหรับรถเข็นผู้สูงอายุตลอดทาง จึงทำให้มั่นใจได้ว่าตลอดการเข้ารับวัคซีนผู้สูงอายุจะได้รับการดูแลและอำนวยความสะดวกอย่างดีที่สุด
จุดที่ 2 รับบัตรคิว
จุดนี้เป็นจุดที่ทุกคนจะเดินมารับบัตรคิวก่อนจะเดินไปยังจุดคัดกรอง ซึ่งการรับบัตรคิวนี้จะทำให้รู้จำนวนของผู้เข้ารับวัคซีนต่อวันทั้งหมด ซึ่งคุณหมอบอกไว้ว่าเป้าหมายการฉีดวัคซีนอยู่ที่ 70% ของคนทั้งประเทศ เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2,000 คนต่อวัน จะทำให้สามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 และสร้างภูมิคุ้มกันให้คนทั้งประเทศได้อย่างรวดเร็ว
จุดที่ 3 จุดคัดกรอง
จุดคัดกรองนี้จะเช็กผ่านแอปพลิเคชันหมอพร้อม เพื่อเช็กว่าผู้ที่เดินทางมาเข้ารับวัคซีนมาตรงวันนัดไหม มีนัดฉีดจริงไหม เพื่อความเป็นระเบียบในการให้บริการ หลังจากนั้นให้เดินไปตรวจวัดอุณหภูมิตรงทางเข้ายิมก่อน จึงจะสามารถเข้าไปภายในยิมเพื่อเข้ารับวัคซีนได้
จุดที่ 4 วัดความดันโลหิตและลงทะเบียน
แน่นอนว่าพอมาถึงยิมข้างในหมายความว่าวันนี้คุณจะได้รับวัคซีนอย่างแน่นอนแล้ว อย่างแรกที่ต้องทำคือเดินไปรับบริการในการวัดความดันโลหิต ซึ่งบางคนอาจจะมีอาการตื่นเต้น กลัว หรือประหม่าทำให้ค่าความดันไม่คงที่ ต่ำเกินไปหรือสูงเกินไป ก็จะการให้นั่งพัก ทำใจให้สบายแล้วค่อยวัดความดันโลหิตใหม่ จากนั้นก็ไปลงทะเบียนเพื่อเข้ารับวัคซีน
จุดที่ 5 ฉีดวัคซีนและจุดที่ 6 เฝ้าดูอาการ 30 นาที
“ความเครียดและความกังวลส่งผลต่ออาการข้างเคียงของวัคซีนได้เหมือนกัน การผ่อนคลายจึงเป็นตัวช่วยลดอาการข้างเคียงของวัคซีนได้”
จุดนี้เป็นจุดที่ทุกคนจะได้รับวัคซีน เป็นจุดที่ใช้เวลาสั้นๆ เพราะเราแค่ไปนั่งให้คุณพยาบาลจิ้มเข็มวัคซีนให้เราแล้วดึงออกเท่านั้น แล้วย้ายไปจุดที่ 6 ซึ่งเป็นจุดพักหรือเฝ้าดูอาการ 30 นาทีหลังได้รับวัคซีน ซึ่งจุดนี้จะมีความพิเศษมาก จากที่คุณหมอเล่าให้ฟัง คุณหมอคิดว่าในช่วง 30 นาทีนี้อาจจะน่าเบื่อและสร้างความวิตกกังวลที่ต้องลุ้นว่าจะมีอาการอะไรเกิดขึ้นในช่วงนี้ไหม จึงมีการสร้างความบันเทิงโดยมีดนตรีสด ร้องเพลงให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนทุกคนผ่อนคลาย มีการให้ความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติหลังจากได้รับวัคซีน
เพราะสิ่งตอบแทนของการได้ช่วย คือการเห็นทุกคนความสุข
ระหว่างที่พวกเรา ได้ทำความเข้าใจการทำงานของศูนย์ฉีดวัคซีนกัน คุณหมอก็ได้พาเราไปพูดคุยกับหนึ่งในอาสาสมัคร ซึ่งเธอเผยว่าเธอไม่เหนื่อยเลยสักนิดเดียว พอเห็นคนมีความสุข เห็นคนตื่นเต้นที่ได้รับวัคซีนแล้วรู้สึกหายเหนื่อย รู้สึกดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการมอบความช่วยเหลือตรงนี้ แสดงให้เห็นถึงความอยากช่วยด้วยความเต็มใจโดยไม่ได้หวังสิ่งใดตอบแทนเลย
ความยินดีที่จะช่วยเกิดขึ้นได้ทุกเวลา เพราะถูกสร้างมาจากใจจริง
ระหว่างพาทัวร์คุณหมอได้พบคุณยายคนหนึ่งหยุดเดินด้วยความเหนื่อยหอบ ทำให้คุณหมอรีบเข้าไปให้ความช่วยเหลือถามไถ่ทันที โดยคุณยายบอกว่าเดินมาเหนื่อย คุณหมอจึงรีบให้อาสาสมัครไปหารถเข็นมาให้ ส่วนตัวคุณหมอเองก็รีบหาเก้าอี้มาให้คุณยายนั่งพักก่อน จนกระทั่งญาติของคุณยายมาและพากลับไป ความช่วยเหลือหรือการกระทำเราสามารถมองออกได้เลยว่าเขาทำเพราะหน้าที่หรือทำด้วยใจ ซึ่งทั้งคุณหมอและอาสาสมัครเต็มใจช่วยโดยไม่ต้องมีใครสั่งหรือมองว่าเป็นหน้าที่เลย แต่ทุกคนทำด้วยใจจริงๆ
จุดสุดท้าย ตอกย้ำความเป็นฮีโร่ของทุกคน
“ถ้าเรามาฉีดวัคซีนกันเยอะ เชื้อมันจะหมดไปในที่สุด เพราะฉะนั้นการที่มาฉีดวัคซีนวันนี้ ก็เท่ากับคุณได้เป็นฮีโร่ของประเทศชาติแล้ว”
คุณหมอพาเดินมาดูในจุดสุดท้ายก่อนทางออก เป็นโปสเตอร์ที่เขียนไว้ว่า “You are the Hero” และ “Thank you” ซึ่งเป็นจุดสร้างไว้ให้ทุกคนได้เข้ามาถ่ายรูปเพื่อชื่นชมว่าประชาชนทุกคนที่ได้เข้ามารับวัคซีนเนี่ยล้วนเป็นฮีโร่กันทั้งนั้น เพราะทุกล้วนเป็นส่วนหนึ่งในการต่อสู้กับโรคร้ายอย่างโควิด-19
บทสรุป
ทุกคนคงได้เห็นถึง เบื้องหลังปฏิบัติการ ระบบการดำเนินงานและความใส่ใจในการดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนของบุคลากรทุกคนในศูนย์ฉีดวัคซีนธรรมศาสตร์รังสิตแล้ว จะเห็นได้เลยว่าทุกการกระทำ ทุกความช่วยเหลือที่หยิบยื่นให้นั้นมีความเต็มใจและความตั้งใจเต็มเปี่ยม เพียงแค่อยากให้ทุกคนได้รับวัคซีนด้วยความสะดวกสบายที่สุดไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม
การฉีดวัคซีนไม่ใช่แค่เพียงการป้องกันตัวเองจากโรคร้ายเพียงเท่านั้น แต่ยิ่งทุกคนได้รับวัคซีนกันมากขึ้นเท่าไร โรคร้ายอย่างโควิด-19 มันก็จะหายไปจากประเทศของเราเร็วเท่านั้น ดังนั้นตอนนี้ใครที่ยังไม่ได้รับวัคซีน คุณต้องถามตัวเองได้แล้วว่า “คุณพร้อมจะเป็นฮีโร่ให้ประเทศชาติ” แล้วหรือยัง?
….
ติดตามรับชมเรื่องราว เบื้องหลังวิกฤติและการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ในการรับมือกับสถานการณ์โควิด ได้กับรายการ Unmask Story เรื่องเล่าหลังแมสก์ ของ บุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
เบื้องหลังปฏิบัติการ การรวมตัวของเหล่า HERO กับการเดินหน้าสู่การฉีดวัคซีน|โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
หรือ จะเลือกรับฟังข้อมูลเพิ่มเติมในรูปแบบของ Podcast:
ติดตามชมรายการ UNMASK STORY
กับ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
ได้ทุกวันเสาร์ เวลา 20:00 น.
ทาง Facebook เพจ @มนุษย์เงินเดือนพันธุ์ใหม่
และ ช่องทาง Social Media ของ The Practical