Emotional Intelligence หรือ ทักษะความฉลาดทางอารมณ์ ถือว่าเป็นทักษะที่สำคัญมาก เพราะเป็นทักษะที่ช่วยให้เราสามารถประเมินการควบคุมอารมณ์ของตนเอง และของผู้อื่นได้ หากใครก็ตาม ถ้ามีความสามารถในด้านการควบคุมอารณ์ ก็จะช่วยให้ชีวิตทั้งเรื่องาน และ ส่วนตัวเกิดความสมดุลย์ได้
ถ้าพูดถึงเรื่องของกีฬา กีฬาอะไรบ้าง? ที่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับการดำเนินชีวิตหรือเส้นทางความสำเร็จของคนทำงานได้บ้าง?
กีฬากอล์ฟ น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดี ที่สามารถนำมาใช้เปรียบเทียบกับเส้นทางความสำเร็จของคนทำงานได้เป็นอย่างดี เพราะในกีฬากอล์ฟ เป็นการแข่งขันที่มีระยะเวลาค่อนข้างนานหลายวัน (ก็คล้ายๆ กับวงจรชีวิตของคนทำงาน เรียนจบ ทำงาน มีครอบครัว และ เกษียณ เป็นต้น)
ในกีฬาประเภทนี้ มีกฏกติกาเยอะมาก ผู้เข้าร่วมการแข่งขัน จึงจะต้องทำตามกฏกติกาของอย่างเคร่งครัด (เหมือนคนทำงานใช่ไหม? ที่ต้องทำงานภายใต้กฏ กติกา นโยบายของบริษัท เป็นต้น) แต่ไม่ใช่เพียงแค่นี้ ผู้เข้าแข่งขันยังจะต้องเผชิญกับอุปสรรคในเกมส์นี้อีกมากมาย อาทิเช่น ต้องตีข้ามน้ำ ต้องตีข้ามแอ่งทราย สภาพอากาศในสนามบางทีก็คาดเดาได้ยาก หรือ สิ่งแวดล้อมในสนามแข่งขันก็ยากเกินควบคุม (คล้ายๆ กับชีวิตในการทำงานของเราเลย ที่ต้องฝ่าฟันกับอุปสรรคต่างๆ มากมาย กว่าที่จะพบเจอกับความสำเร็จ)
“เพราะชีวิต คือ การแข่งขัน”
เพื่อให้เห็นภาพและเข้าใจมากขึ้น กีฬากอล์ฟ จะแข่งกันหลายวันกว่าจะตัดสินได้ว่าใครคือผู้ชนะ
โดยเฉพาะในทัวร์นาเมนต์หรือการแข่งขันระดับโลก เช่น รายการกอล์ฟเดอะมาสเตอร์ รายการนี้มีระยะเวลารวมทั้งสิ้น 7 วัน โดย 3 วันแรก เป็นรอบฝึกซ้อม และ 4 วันหลังเป็นรอบการแข่งขันจริง
เดอะมาสเตอร์เป็นทัวร์นาเมนต์ระดับโลกที่มีนักกอล์ฟเก่งๆ ฝีมือดีๆ มาแข่งขันกันอย่างมากมาย โดยผ่านการคัดเลือกด้วยเงื่อนไขพิเศษหลายประการ ยกตัวอย่าง เช่น เคยเป็นอดีตแชมป์เดอะมาสเตอร์ส หรือ แชมป์ยูเอสโอเพ่น 5 ครั้งหลังสุด หรือ แชมป์ ดิ โอเพ่น แชมเปียนชิป 5 ครั้งหลังสุด หรือ แชมป์ พีจีเอ แชมเปียนชิป 5 ครั้งหลังสุด หรือ แชมป์ เดอะ เพลเยอร์ส แชมเปียนชิป 3 ครั้งหลังสุด และ ยังมืเงื่อนไขอื่นๆ อีกเพียบ ผู้แข่งขันแต่ละคนล้วนผ่านการเป็น แชมป์ หรือ อยู่ในอันดับท็อปของโลกทั้งสิ้น
แต่คนที่ได้แชมป์หรือผู้ชนะเลิศ อาจจะไม่ใช่คนที่เก่งที่สุด หรือ คนที่มีจำนวนแชมป์ที่เคยได้มากที่สุด หรือ คนที่มีอันดับโลกสูงที่สุด
เพราะผู้ชนะจะต้องมีองค์ประกอบอื่นๆ ที่สำคัญที่นอกเหนือจากความสามารถ และความเก่งที่พวกเขาจะต้องมีที่ระดับนึงเพื่อใช้ในการแข่งขันแล้ว พวกเขายังจะต้องมีในเรื่องของความฉลาดทางอารมณ์ หรือ Emotional Intelligence เป็นส่วนประกอบที่สำคัญอีกด้วย
เพราะในกีฬากอล์ฟ เป็นกีฬาประเภทที่มีความกดดันสูง มีความเครียดสูงมาก ลองนึกภาพว่า เราต้องเล่นท่ามกลางคนเก่งๆ มากมาย และ ต้องเล่นภายใต้สายตามของผู้ชมทั้งในสนามและผ่านการถ่ายทอดสดอีกหลายล้านคน
จึงทำให้ความผิดพลาดอาจจะเกิดขึ้นได้ง่ายมาก นักกอล์ฟเก่งๆ หลายคนก็มีอาการเป๋กันได้ หรือ หลุดวงสวิงกันได้ หากไม่สามารถควบคุมและบริหารจัดการอารมณ์ของตนเองเอาไว้ได้
พี่ๆ โปรกอล์ฟ หลายคน มักขะพูดไปในทิศทางเดียวกันว่า กีฬากอล์ฟ คือ กีฬาที่ แข่งกับตัวเอง แข่งกับอารมณ์ ความรู้สึกของเราเอง ความเก่ง หรือ การมีเทคนิคดี แต่ถ้าไม่ทีความสามารถในการควบคุมอารมณ์ที่ดีก็จบเกมส์ หรือ ออกจากเกมส์ไปทันที
เพราะเรื่องของความฉลาดทางอารมณ์ มีผลโดยตรงต่อการตัดสินใจ
และจากหลายๆ การศึกษาในต่างประเทศ พบว่า เรื่องของความฉลาดทางอารมณ์ หรือ Emotional Intelligence เป็นทักษะที่สำคัญมากสำหรับกีฬากอล์ฟ และมีผลโดยตรงกับผลงานและความสำเร็จของนักกีฬากอล์ฟ พบว่านักกีฬาที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง หรือ นักกีฬาที่มีผลงานเด่นๆ ในระดับโลก ล้วนมีทักษะโดดเด่นในเรื่องของความฉลาดทางอารมณ์ ทั้งนั้น
ยกตัวอย่างเช่น ไทเกอร์ วูดส์ อดีตนักกอล์ฟมือหนึ่งระดับโลก ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย แต่หลังจากนั้นต้องเจอกับวิบากกรรม ต่างๆ มากมาย หลังจากที่ประสบความสำเร็จในช่วงแรกของชีวิต
ในปี 2009 เขาต้องเจอวิกฤตในชีวิต ไม่ว่าจะเป็น เรื่องถูกแฉเรื่องนอกใจภรรยา จนนำมาสู่การหย่าร้างในเวลาต่อมา ตามด้วยสูญเสียรายได้มหาศาล เนื่องจากสปอนเซอร์หลายรายต่างพร้อมใจกันถอนตัวยกเลิกการสนับสนุน
ผลงานของ ไทเกอร์ วูดส์ หลังจากนั้นก็กระท่อนกระท่น ไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนเก่า ในปี 2014 เขาต้องมาเจอกับอีกวิกฤตอีกครั้งการการได้รับบาดเจ็บเรื้อรังทั้งบริเวณหลังและสะโพก ทำให้ลงแข่งไม่ได้หลายรายการ ส่งผลทำให้อันดับโลกร่วงไปอยู่อันดับที่ 1,199
วิบากกรรมของ ไทเกอร์ วูดส์ ยังไม่จบเพียงเท่านี้ ในปี 2017 ไทเกอร์ วูดส์ ขึ้นเป็นข่าวหน้าหนึ่ง เมื่อถูกจับในคดีขับรถขณะมึนเมา แต่สุดท้ายเขาก็รอดพ้นการติดคุก เนื่องจากเขาสามารถพิสูจน์ตัวเองได้ว่าอาการมึนเมาดังกล่าวเป็นผลข้างเคียงจากการใช้ยารักษาอาการบาดเจ็บ ไม่ได้เกิดจากการดื่มของมึนเมาแต่อย่างใด
จนเข้าสู่ ปี 2018 เป็นปีแห่งการ Restart ของ ไทเกอร์ วูดส์ หลังจากอาการบาดเจ็บได้หายไป เขาเริ่มกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ จนเกือบจะคว้าแชมป์เมเจอร์ อย่าง พีจีเอแชมเปี้ยนชิพ และ ล่าสุด ในปี 2019 ในวัย 43 ปี เขากลับมาอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการคว้าแชมป์ เดอะ มาสเตอร์ส ซึ่งรายการนี้เป็นแชมป์เมเจอร์รายการที่ 15 ของเขา (ตอนนี้ต้องลุ้นกันต่อไปว่า เขาจะทำลายสถิติของ แจ็ค นิคลอส ที่ทำเอาไว้ 18 รายการ ได้ตอนไหน)
ต้องนับถือหัวใจของ ไทเกอร์ วูดส์ จริงๆ ที่เขามุ่งมั่น และแน่วแน่ จนสามารถพลิกสถานการณ์ที่เลวร้ายในชีวิตของเขากลับมาได้
“ถ้าเจอเรื่องราวแย่ๆ มากมาย โอกาสถอดใจยอมแพ้ก็มีสูง”
ถ้าเป็นคนธรรมทั่วๆ ไป ที่ต้องเจอความล้มเหลวแบบที่ ไทเกอร์ วูดส์ เจอ ก็คงถอดใจยอมแพ้กันไปนานแล้ว แต่จากปรากฏการที่ ไทเกอร์ วูดส์ กลับมาเป็นแชมป์ได้อีก ทำให้มีคนไปศึกษาว่าทำไม ไทเกอร์ วูดส์ ถึงกลับมาได้ พบว่าเป็นเพราะเรื่องทักษะของความฉลาดทางอารมณ์ นี่แหละ ที่ทำให้ ไทเกอร์ วูดส์ กลับมาได้
ด้วยที่ ไทเกอร์ วูดส์ เป็นคนมีความสามารถในกีฬานี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว รวมทั้งมี Growth Mindset และ Emotional Intelligence ทำให้ เขาจึงไม่หยุด หรือ ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ต่ออุปสรรคต่างๆ ที่ผานเข้ามา และ ด้วยความสามารถในเรื่องของความฉลาดทางอารมณ์ เขาสามารถแยกแยะปัญหาเรื่องส่วนตัว ออกจากการแข่งขันของเขาได้ เขายังสามารถบริหารอารมณ์ของตนเองได้ดีกับทุกๆ เกมส์ กับทุกๆ สถานการณ์ที่เขาต้องเผชิญในการแข่งขัน ส่งผลทำให้เขาสามารถคัมแบ็คกับผลงานที่ยิ่งใหญ่ได้อีกครั้งในปีนี้
“แม้โลกจะไม่ได้สวยงาม แต่ก็ย่อมมีทางเลือกที่ดีให้เราเสมอ”
จากตัวอย่างของคนที่เคยสำเร็จ แล้วกลับมาล้มเหลวและยังพาตนเองกลับมาสำเร็จได้อีก อย่าง ไทเกอร์ วูดส์ กำลังชี้ให้เราเห็นว่า โลกทุกวันนี้อาจจะไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด
แต่มันก็อยู่ที่ตัวเราเอง ซึ่งเราเองก็เลือกได้ เลือกที่จะรับมือกับปัญหาต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเราได้ ด้วยการเรียนรู้ ฝึกฝน และสร้างทักษะในเรื่องของความฉลาดทางอารมณ์ หรือ Emotional Intelligence (ถ้าให้ดีก็เพิ่มเรื่อง Growth Mindset เข้าไปด้วย จะดีมาก)
การมีทักษะและความสามารถในการรับรู้และการควบคุมอารมณ์ของตนเอง และรวมไปถึงการรับรู้และเข้าใจอารมณ์ของผู้อื่น รับรู้ว่าตอนนี้สถานการณ์นี้ อารมณ์ของเราเป็นอย่างไร เพื่อที่เราจะได้ควบคุม หรือ ตัดสินใจ หรือ เลือกการตอบสนองด้วยพฤติกรรมที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เรากำลังเผชิญอยู่ จะทำให้เราสามารถรับมือกับทุกๆ สถานการณ์ที่ยากๆ ได้อย่างง่ายดาย และ ที่สำคัญ การมีทักษะในเรื่องของความฉลาดทางอารมณ์ ได้รับการยืนยันแล้วว่าจะส่งผลลัพธ์เชิงบวกต่อความก้าวหน้า และ ความสำเร็จในอาชีพของเราได้เช่นกัน
ถึงตรงนี้แล้ว คงเข้าใจกันมากขึ้นแล้วนะครับว่า ความฉลาดทางอารมณ์สำคัญอย่างไร?
Reference:
ข้อมูลเพิ่มเติม :
บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับ Emotional Intelligence สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ :
การใช้อารมณ์ ทำให้ชีวิตและหน้าที่การงาน พังลงอย่างง่ายดาย